วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ปีศาจร้าย บูกี้แมน Boogeyman ตัวจริง

บูกี้แมน Bogeyman หรือ Boogie man

 (ปีศาจแห่งฝันร้าย)

มาจากหลายชื่อเพราะมันปรากฏตัวทั่วโลก เช่นboeman (เดนมาร์ก), buse (นอร์เวย์), bcan,pca, pooka or pookha (Irish Gaelic), pwca, bwga or bwgan (เวลล์), puki (Old Norse), pixie or piskie (Cornish), puck (อังกฤษ), bogu (Slavonic, buka Russian)

บูกี้แมนนั้นมีความโหดร้ายเลือดเย็น บูกี้แมน มันสามารถเปลี่ยนรูปร่างต่างๆ ได้ และสามารถผ่านเข้าไปได้ทุก ๆ ที่ บางที่อาจเป็นเพียงธุลี ปลิวเข้าทางช่องหน้าต่างหรือรูกุญแจ บางทีอาจเป็นเงารางๆ แต่มันสามารถฆ่าคนได้

 (ในหนังเห็นแล้วต้องตาย Sinister บูกี้แมน เดินเข้าออกภาพยนตร์ และรูปภาพ เป็นเงาก่อนปรากฏเป็นปีศาจ สั่งสอนให้เด็ก ๆ ฆ่าครอบครัวของตนเอง เพื่อทำเป็นภาพยนตร์ให้ตนดูเล่น)

 บูกี้แมนยังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการที่พ่อแม่ หรือผู้ใหญ่จะเอาไว้หลอกเด็กๆ ให้เกิดความกลัวเวลาเล่นซน ดื้อ เอาแต่เล่นไม่ยอมเข้านอน ไม่ยอมรับประทานอาหาร ฯลฯ

โดยพ่อแม่จะหลอกลูกๆ ว่าบูกี้แมนกำลังคอยซ่อนตัวอยู่ตามใต้เตียงบ้าง แอบอยู่ในตู้เสื้อผ้า หรือตามมุมมืดของห้องบ้าง เพื่อเฝ้ามองและหาโอกาสจัดการกับเด็กเวลาเผลอ สิ่งที่บูกี้แมนจะทำก็คือ ทำให้เด็กฝันร้าย บูกี้แมนจึงเป็นตัวผู้ร้ายสำหรับเด็กๆ

บางคนเชื่อว่าบูกี้แมนมาจากเรื่องจริง คือในสมัยที่ชาวอังกฤษเข้ามายึดครองพื้นที่แถบเกาะชวาหรือมาเลเซีย มีโจรสลัดที่โหดร้ายชื่อว่า บูกีส(Bugis) ที่ปล้นฆ่านักเดินทางอยู่ในย่านนั้น สร้างความหวาดกลัวเป็นอันมากจนมีคำขู่กับลูกเรือที่นอกลู่นอกทางกันว่า เดี๋ยวบูกิสจะมาเอาชีวิต

จากนั้นความหวาดกลัวที่มีต่อบูกิสติดตามมายังอังกฤษ ก็กลายเป็นปีศาจบูกี้แมนที่สร้างฝันร้ายให้เด็ก ๆ

........

ในภาพยนตร์ฝรั่งบูกี้แมนปรากฏมากมายในการ์ตูน และหนังผีต่าง ๆ เช่น Sinister , Rise of the guardians, Boogeyman 1, Boogeyman 2 ,etc.

ในขณะที่พุทธเชื่อว่าจิตเดิมแท้บริสุทธิ์เช่นทารก ผิดแปลกหรือบิดเบี้ยวไปเพราะกิเลสมายาต่าง ๆ และเชื่อในธรรมชาติใฝ่ดีของมนุษย์ที่เรียกว่า "ธรรมชาติแห่งพุทธะ"

แต่คริสต์ ศาสนาเชื่อว่าที่ทุกคนมีบาปมาแต่กำเนิดจึงสามารถชักจูงไปสู่ความชั่วได้ง่าย
การที่ปีศาจสามารถทำให้เด็ก ๆ ฆ่าคนได้นั้นอาจจะเป็นความเชื่อเรื่องสัญชาตญาณดิบในมนุษย์

จึงมีภาพยนตร์ฝรั่งหลายเรื่องที่กล่าวถึงพฤติกรรมที่น่ากลัวของเด็กอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งโดยมากจะเกิดจากความรุนแรงของผู้ใหญ่และการเลี้ยงดูที่ผิด หรือภาวะสงคราม ที่ทำให้เด็กที่เคยเป็นผ้าขาวกับดำสนิท มีความโกรธแค้นสังคม และมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ขโมย ทำร้ายเพื่อน ๆ ข่มขืนผู้อื่น และก่ออาชญกรรมต่าง ๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ซึ่งบูกี้แมนในปัจจุบันแท้จริงคือผู้ใหญ่นั้นเองที่สร้างสังคมที่ไม่ดีต่าง ๆ ให้เป็นฝันร้ายให้กับเด็ก และชักจูงให้เด็ก ๆ ไปในทางที่ผิดด้วยสื่อทางอินเทอร์เน็ต หรือพฤติกรรมประจักษ์ที่เสื่อมศีลธรรมอันดี
หรือการไม่ดูแลเอาใจใส่เด็กเท่าที่ควร ทำเด็กเกิดความรู้สึกไม่ผูกพันกับใคร จึงโกหกเป็นนิสัย ทำผิดร้ายแรงได้ได้โดยไม่รู้สึกผิด ฉลาดแกมโกง และเอาตัวรอดเป็นนิสัย ซึ่งเด็กแบบนี้ก็จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ยากในวันข้างหน้า  (ถ้าเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือการอบรมสั่งสอนเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและความคิดให้ถูกต้อง)

แต่เขาพร้อมจะกลายเป็นบูกี้แมน สืบทอดความคิดด้านลบให้เยาวชนรุ่นต่อไปของสังคมต่อไปในอนาคตอีกไม่รู้จบ

ดังนั้นบูกี้แมนที่มีอยู่จริง ก็คือผู้ใหญ่ทุกวันนี้ที่เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อเด็ก (เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพจิตและกาย) และสร้างสังคมทุกวันนี้ให้เป็นฝันร้ายให้แก่เด็ก ๆ ทุก ๆ คน



ในภาพยนตร์เห็นแล้วต้องตาย Sinister การสืบทอดเจตนารมณ์มืดบูกี้แมน ที่กลายเป็นภาพยนตร์ให้เด็ก ๆ ดู และให้เด็กสร้างภาพยนตร์ของตนเองที่เลวร้ายกว่ายิ่งขึ้น ก็ไม่ต่างจากระบบการเลียนแบบพฤติกรรมก้าวร้าวของเด็ก ๆ ในสังคมปัจจุบัน เพราะหนังหรือภาพยนตร์สะท้อนโลกประสบการณ์ที่มีอยู่จริง ไม่ทางตรง ก็ทางอ้อม ทั้งการเปรียบเทียบเสียดสี การใช้สัญลักษณ์ และการใช้สัญลักษณ์ซ้อนเชิงเสียดสีสังคม




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น