วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2562

ราศีปีศาจที่ 61 ซากัน (Zagan) 21-25 ม.ค.


รูปที่ 1 ดวงตรามารซากัน พญามารแห่งการวิวัฒน์
ที่มา https://demonsanddemonolatry.com/demon-of-the-night-king-zagan-night-demon/

ราศีปีศาจที่ 61 ซากัน Zagan 21-25 มกราคม

~Zagan bull devil~

   😈 พญามารซากัน Zagan เป็นพญามารตนที่ 61 ของพระเจ้าสุลัยมาน ผู้มีอำนาจเหนือทัพผีและปีศาจ 33 กองพล มีอำนาจในการให้สติปัญญา และความฉลาด ทำให้คนมีไหวพริบ พัฒนาตนเอง และสามารถเปลี่ยนแปลงหรือวิวัฒน์สิ่งต่าง ๆ ได้ เช่น เปลี่ยนเหล้าองุ่นให้เป็นน้ำ, น้ำให้กลายเป็นเหล้าองุ่น (ไวน์)  เปลี่ยนเลือดเป็นน้ำมัน, น้ำมันเป็นเลือด,  เปลี่ยนโลหะเป็นเหรียญที่ทำด้วยโลหะนั้น เช่นทองเป็นเหรียญทอง ทองแดงเป็นเหรียญทองแดง และเปลี่ยนคนโง่เป็นคนฉลาด ฯลฯ พญามารซากัน Zagan จะปรากฏร่างเป็นเหมือนวัวมีปีกอินทรี หรือกริฟฟิน แล้วจึงค่อย ๆ กลายเป็นมนุษย์


รูปที่ 2 อาบีส เทพวัวของอียิปต์ลูกเทพีฮาเทอร์
ที่มา https://www.etsy.com/sg-en/market/bull_apis?ref=l2

    😈  เชื่อว่าพญามารซากันได้รับอิทธิพลหรือมีที่มาจากการนับถือวัวของมนุษย์ในสมัยโบราณเริ่มจากวัฒนธรรมอียิปต์โบราณที่มีการนับถือเทพีแห่งความรักฮาเทอร์ และบุตรชายของนางคืออาบิส ซึ่งฮาเทอร์จะปรากฏเป็นเทพีมีเศียรวัวหรือเศียรมนุษย์มีเขาวัว ส่วนเทพอาบิสมักปรากฏกายเป็นวัวหนุ่ม หรือเทพมีเศียรวัว

รูปที่ 3 ซีอุสแปลงเป็นพ่อวัวลักพานางยูโรป้าไป
ที่มา https://owlcation.com/humanities/The-story-of-Zeus-and-Europa-in-Greek-mythology

     😈 ในกรีกก็มีตำนานที่ซีอุส Zeus เทพสูงสุดปรากฏกายเป็นพ่อวัวเพื่อไปลักนางยูโรปา (ที่มาของคำว่า "ยุโรป") ธิดาของท้าวอะจีนอร์ (Agenor) เจ้ากรุงฟินิเชีย เป็นชายาที่เกาะครีต (Crete) เพื่อไม่ให้ราชินีสวรรค์ขี้หึงเฮรา Hera รู้ จนเกิดบรรพบุรุษของชาวยุโรปในปัจจุบัน ซึ่งต่อมาวัวตนนี้ก็ขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้ากลายราศีพฤกษภ แสดงให้เห็นถึงการระลึกถึงและยกย่องวัวของคนโบราณ


รูปที่ 4 เทพเมอร์คิวรี่ฆ่ายักษ์พันตาอาร์กัส โดยทำให้เบื่อจนตาย
ที่มา http://www.peterpaulrubens.net/mercury-and-argus.jsp

  😈 ส่วนแม่วัวในตำนานกรีกคือนางไอโอ (Io) ธิดากษัตริย์อินาคัส (Inachus) แห่งเมืองอาร์กอส (Argos) นางไอโอเคยเป็นสาวกของเทพีเฮรา และเป็นชายาลับคนหนึ่งของซีอุส ผู้ถูกซีอุสเปลี่ยนให้เป็นวัวทันทีก่อนที่เฮรา ชายาเอกของซีอุส และราชินีสวรรค์จะจับได้ว่าซีอุสเล่นชู้กับนางไอโอในก้อนเมฆชั่วเวลาเสี้ยววินาที แต่ด้วยความฉลาดเทพีเฮราจึงขอแม่วัวตัวนั้นไป และให้ยักษ์พันตา อาร์กัส (Argus) เฝ้าไว้ ทำให้นางไอโอผู้เคยเป็นสาวงามต้องทุกข์ทรมานในร่างของแม่วัว ซีอุส (ดาวพฤหัสบดี) จึงไปขอความช่วยเหลือจากฮาร์เมส Hermes หรือเมอคิวรี่ Mercury เทพแห่งการสื่อสาร (ดาวพุธ) เทพเมอคิวรี่จึงไปหาอาร์กัส และพูด ๆ เรื่องน่าเบื่อจนดวงตาทั้งพันของยักษ์พันตาอาร์กัสค่อยหลับลงหมดและอาร์กัสก็ได้ตายไปในเวลานั้นด้วยเพราะความเบื่อหน่ายเรื่องราวที่ได้ฟังจากเทพเมอร์คิวรี่ แล้วเทพเมอร์คิวรี่ก็ปล่อยให้นางไอโอในร่างวัวหนีไป นางไอโอจึงวิ่งหนีไปถึงอียิปต์ และซีอุสจึงกลับคืนร่างให้นางเป็นมนุษย์แล้วนางจึงให้กำเนิดบุตรชายคนเดียวที่นั้นคือ  อีปาพุส Epaphus (บรรพบุรุษของนางยูโรป้า และเปอร์ซีอุส Perseus) ฝ่ายเทพีเฮราโกรธเทพเมอร์คิวรี่มากจึงขอให้เทวสภาลงโทษเทพเมอร์คิวรี่ แต่เทพเมอร์คิวรี่ก็อ้างว่าการทำให้คนเบื่อจนตายจะถือเป็นความผิดได้อย่างไรจึงรอดตนไป หลังจากนั้นเฮราจึงเอาตาทั้งพันของยักษ์อาร์กัสประดับหางของนกยูง นกประจำตนจึงกลายเป็นแววมยุราของนกยูงในปัจจุบัน ส่วนตำนานที่นับถือวัวตัวเมีย หรือแม่โค ก็อาจจะเชื่อมโยงราศีพฤกษภ กับนางไอโอก็ได้


รูปที่ 5 มินอเทอร์ Minotaur ปีศาจวัวของกรีก
ที่มา https://www.proprofs.com/quiz-school/story.php?title=3dq-do-you-know-the-minotaur-in-greek-myths

   😈  เรื่องราวที่เกี่ยวกับเทพวัว หรือแม่วัวที่เกี่ยวกับพระเจ้ากรีกเล่าลือกันมาดังกล่าวแล้ว ยังมีปีศาจวัวที่เกิดขึ้นในกรีกด้วยคือไมนอทอร์ Minotaur กล่าวคือกษัตริย์ Minos บุตรหนึ่งในสามของนางยูโรป้าคือคือ ไมนอส (Minos) ซึ่งต่อมาขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองเกาะครีตและชื่อของพระองค์ได้ถูกใช้เป็นชื่อของอารยธรรมของกรีกยุคโบราณที่รู้จักในนาม อารยธรรมไมนอส หรือ อารยธรรมไมนอนครีต, ราดาแมนธัส (Rhadamanthus) ภายหลังได้กลายเป็นเทพสถิตย์ในแดนบาดาล และ ซาร์เพดอน (Sarpedon) องค์นี้สิ้นชีพในศึกกรุงทรอย

    😈 โดยในตำนานกรีกเล่าว่า กษัตริย์ไมนอส (Minos) ได้สัญญาว่าจะบูชาเทพโปรไซดอน (Poseidon) ด้วยพ่อวัวตัวงาม แต่ต่อมากษัตริย์ไมนอสเกิดเสียดายวัวไม่ยอมฆ่าวัวบูชาเทพแห่งมหาสมุทรตามสัญญา เทพโปรไซดอนจึงสาปในนางเปซิเฟีย (Pasiphae) ชายาของกษัตริย์ไมนอสหลงรักพ่อวัวตัวนั้นจนมีอะไรกันกับพ่อวัวตัวนั้นและให้กำเนิดมินะทอร์ Minotaur อสูรกายมีเศียรเป็นวัวที่ทรงพลังมาก แต่กษัติย์ไมนอสก็ไม่ฆ่าทิ้ง (ได้ชื่อว่ามีพ่อเป็นวัวเหมือน / วัวคำยกย่องนักรบ?) กลับสร้างเขาวงกตและให้เป็นที่อยู่ของมัน และเพื่อไม่ให้มินะทอร์ออกมาทำร้ายคน กษัตริย์ไมนอสจะส่งเชลยหรือนักโทษชาย 7 หญิง 7 เข้าไปเป็นเครื่องสังเวยให้มันฆ่าและกินทุกปี โดยต่อมาเจ้าชายแห่งกรีก "ธีเซียส" ได้อาสามาเป็นเชลยเพื่อเข้าไปฆ่ามินะทอร์ในเขาวงกตโดยได้การช่วยเหลือจากแอรีแอดนี (Ariadne) ธิดาของกษัตริย์ไมนอส ซึ่งความจริงคำว่า มินะทอร์ หมายถึงวัวศักดิ์สิทธิ์ของกษัตริย์ไมนอส ที่อาจจะให้คนสวมหัววัวค่อยฆ่าคนสังเวยเทพวัวในพิธีกรรมที่นับถือวัวเป็นพระเจ้าก็เป็นได้ ส่วนเรื่องที่แต่งว่าชายาของกษัตริย์ไมนอสมีลูกกับวัว หรือมีลูกเป็นวัวอาจจะเป็นคำเหยียดของพวกกรีก เพราะวัว หมีหรือสิงโต มักเป็นสัญลักษณ์สำหรับการยกย่องเปรียบเทียบนักรบในสมัยโบราณ และประเด็นสำคัญ พ่อวัวแม่วัวได้รับการยกย่องเป็นเทพในอารยธรรมอียิปต์อย่างชัดเจนกว่ากรีก ซึ่งอารยธรรมทั้งสองขับเคี่ยวกับมายาวนาน จนสังเกตได้ว่าเทพบางตนของอียิปต์ก็ถูกเปลี่ยนเป็นปีศาจในอารยธรรมกรีก หรือถูกเทียบกับเทพกรีก-โรมันในสมัยหลัง


รูปที่ 6 เศดุ หรือ ลามัสสุ ที่เป็นลูกผสมของวัว (มีแบบเป็นลูกผสมสิงโตกล่าวไปแล้วในราศีที่ 60)
ที่มา http://www.livius.org/articles/mythology/lamassu-bull-man/

   😈 ดังที่กล่าวไปในราศีปีศาจที่ 60 วาพูลา และซากัน ก็มีการคล้ายกันคือนับได้ว่าเป็นพวก เศดุ หรือลามัสสุเทพอารักษ์ของเมโสโปเตเมียพวกหนึ่ง เพราะเศดุหรือลามมัสสุมีสองชนิดคือ พวกครึ่งกริฟฟิน สฟิงซ์ กับสิงโต หรือวัว โดยวาพูลาเป็นครึ่งสฟิงซ์ กริฟฟิน ที่เป็นสิงโต แต่ซากันเป็นชนิดที่เป็นครึ่งวัวนั้นเอง


รูปที่ 7 นนทิ เทพวัวพาหนะของพระศิวะในศาสนาฮินดู
ที่มา https://www.lotussculpture.com/blog/nandi-hindu-god-shiva/

     😈 เทพวัวที่มีเชื่อเสียงอีกตนหนึ่งคือนนทิของอินเดียซึ่งสืบต่อการนับถือวัวมาจากอารยธรรมโบราณ โดยเทพนนทิเป็นพาหนะของพระศิวะ เดิมในตำนานว่าเป็นพราหมณ์ครอบครัวหนึ่งที่นับถือพระศิวะมากจึงบำเพ็ญตนจนกลายเป็นโคนนทิซึ่งเป็นผู้นำเหล่าคณะเทพ (มีรูปร่างเป็นอมนุษย์ร่างแคระ ไม่อยากเรียกว่าอสูรร่างแคระที่เขาใช้กัน เพราะอสูรเป็นศัตรูเทวดา แต่คณะเทพเป็นเทพรับใช้พระศิวะ) ซึ่งก็คือญาติ ๆ ของนนทิที่บำเพ็ญตนจนได้รับพรให้เป็นผู้รับใช้ใกล้ชิดพระศิวะจนต่อมาเมื่อพระคเณศกำเนิดขึ้น พระคเณศก็ได้รับหน้าที่จากพระศิวะให้เป็นหัวหน้าของโคนนทิและเหล่าคณะเทพอีกต่อหนึ่ง โดยโคนนทิ หรือโคอุสุภราชปรากฏในเรื่องรามเกียรติ์ของไทยตอนหนึ่งที่หนุมานจะต้องไปขอมูลของโคอุสุภราชมาผสมกระสายยารักษาพระลักษมณ์


รูปที่ 8 ฮาเทอร์ เทพีแห่งความรักของอียิปต์ซึ่งมีเศียรเป็นโค หรือเศียรคนมีเขาโค
ที่มา https://www.pinterest.com/pin/432275264227913086/

  😈 ส่วนแม่วัวกามเธนุ หรือโคสุรภี ได้รับอิทธิพลจากเทพีฮาเทอร์ของอียิปต์ และ "อัล บูรัค" Al Buraq แม่โคทูตสวรรค์ที่ส่งศาสดามูหมัดไปกรุงเยรูซาเลมชัดเจน โดยนางกามเธนุ เกิดจากการกวนเกษียรสมุทร และถูกยกให้เป็นโคของสัปตฤาษีทั้ง 7 หรือฤาษีวสิษฐะ และต่อมาได้เป็นโคของฤาษีชมทัคนิ (พ่อปรศุราม) จากนั้นต่อมาก็ได้ขึ้นมาบนสวรรค์กลายเป็นโคสวรรค์ของพระอินทร์ กล่าวกันว่าแม่วัวสวรรค์กามเธนุสามารถบันดาลให้เกิดทุกสิ่งตามความปรารถนาของเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร กองทัพ ชนเผ่าต่าง ๆ และมนุษยชาติ กันเลยที่เดียว ซึ่งก็อาจจะเป็นการเปรียบเทียบให้รู้จักคุณของวัวที่ช่วยคนในการทำนา และให้นมซึ่งเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร ขนม และเครื่องดื่มของชาวอินเดียก็เป็นได้


รูปที่ 9 อัล บูรัค Al Buraq โคสวรรค์ในศาสนาอิสลามซึ่งพาศาสดามูหมัท prophet Muhammad ไปนครเยรูซาเลม
ที่มา http://ownerlessmind.blogspot.com/2011/06/kamadhenu-and-al-buraq.html


รูปที่ 10 กามเธนุ หรือสุรภี โคสวรรค์ของศาสนาฮินดู
ที่มา http://ownerlessmind.blogspot.com/2011/06/kamadhenu-and-al-buraq.html

    😈 ปีศาจวัวของจีนในเรื่องไซอิ๋วที่มีการร่วมเทพเจ้าจีนกับเทพในศาสนาพุทธทำให้ติดเทพในศาสนาฮินดูมาด้วยอย่างพวกเทพชั้นรองคือ พวกครุฑ (กลายเป็นเจ้าอินทรี) พญานาค (กลายเป็นมังกร) หนุมาน (กลายเป็นพญาลิงเห่งเจีย) วราหาวตาร (กลายเป็นปีศาจหมูตือป๋วยไก) มัตสยาวตาร (กลายเป็นปีศาจน้ำซวยเจ๋ง) เป็นต้นนอกจากนี้ยังมีญาติที่ซุนหงอคงหรือเห่งเจียต้องไปรบกัน คือภัทรกาลี (องค์หญิงพัดเหล็ก) โคนนทิ (ปีศาจวัว) และสกันธกุมารวัยเด็ก (กุมารแดงอังไฮยี้)
   
รูปที่ 11 ปีศาจวัวใน ไซอิ๋ว Bull Demon King (牛魔王)  of Journey to the West
ที่มา https://www.pinterest.com/a1942jef/西遊記/

  😈 ซึ่งไซอิ๋ว หรือซีโยวจี คือวรรณคดีจีนประเภทจินตนิยาย คล้ายเรื่องพระอภัยมณีของไทยมีการเก็บเอาเรื่องเล่าและตัวละครในตำนานจีน และอินเดียมาผูกเรื่องใหม่โดยเน้นอิทธิฤทธิของพุทธให้อยู่เหนือเต๋า และเหยียดเทพในฮินดูให้เป็นปีศาจไปก่อน เมื่อผ่านการบำเพ็ญตนตามหลักวิถีพุทธแล้วจึงกลับมาเป็นเทพใหม่ แสดงให้เห็นของความใจกว้างของลัทธิพหุเทวนิยมที่แฝงอยู่ในพุทธศาสนาแบบจีน ต่างจากเอกเทวนิยมของพระเจ้าสุลัยมาน (โซโลมอน) ที่ให้เทพท้องถิ่นเป็นเทวดาตกสวรรค์ไปแล้วตกไปนรกเลยไม่ต้องได้ผุดได้เกิด และสร้างเทวทูตทั้ง 72 ตนมาแทนที่ (เรียกว่าไม่มีที่ว่างสำหรับเทพองค์เดิม)

😇😇😇😇😇😇😇

        😇 อูมาเบล Umabel เป็นทูตสวรรค์ของมิตรภาพและความสัมพันธ์ ประจำวัน 21-25 มกราคม เป็นผู้มีสนันสนุนความรู้ทางจิตวิญญาณ โหราศาสตร์  ความลับของอาณาจักรสัตว์ แร่ และธัญพืช เทวทูตสวรรค์องค์นี้สามารถช่วยให้มนุษย์พัฒนาการรับรู้ที่มุ่งเน้นและมโนธรรม พระองค์สามารถช่วยให้คุณดำดิ่งลงสู่จิตใต้สำนึกของมนุษย์และค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตนเอง ทำให้มีความรู้เกี่ยวกับจักรวาลและการสร้างสรรค์ทุกระดับ ทั้งศิลป์ ดนตรี และการแสดง    สามารถนำทางไปสู่ความรู้ที่เป็นความลับ และสามารถแสดงให้ผู้คนทั้งหลายเห็นว่าจะเป็นครูที่ดีได้อย่างไรเพื่อแบ่งปันความรู้ของตนเองสู่สาธารณะชน เทวทูตสวรรค์อูมาเบล Umabel เป็นเทวดาผู้อุปถัมภ์ของศิลปิน นักดนตรี จิตกร ผู้สอน วิทยากร อาจารย์ ครู และผู้สร้างสรรค์ผลงานทั้งปวง


รูปที่ 12 อูมาเบล เทวทูตสวรรค์แห่งมิตรภาพ
...........

~The Chernobog , demon from Slavic Myth in Disney, Fantasia disney and Fantasia~

~Legend is a 1985 American dark fantasy adventure film~

~Red bull drinking cartoon~

วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2562

ราศีปีศาจที่ 60 วาพูลา (Vapula) 16-20 ม.ค.

รูปที่ 1 ดวงตรามารวาพูลา พญามารแห่งพลังแรงบันดาลใจลี้ลับ
ที่มา https://demonsanddemonolatry.com/demon-of-the-night-duke-vapula-night-demon/

ราศีปีศาจที่ 60 วาพูลา (Vapula) ประจำวันเกิดที่ 16-20 มกราคม

~Vapula flying~
 
  😈  วาพูลา (Vapula) หรือ นาพูลา (Naphula) พญามารแห่งพลังแรงบันดาลใจลี้ลับ คือพญามารตนที่ 60 ของพระเจ้าสุลัยมาน (โซโลมอน solomon) มีกองทัพผีและปีศาจ 36 กองพลในอำนาจ  สามารถให้ความรู้ด้านจิตวิทยา กลศาสตร์ วิทยาศาสตร์ งานฝีมือ และอาชีพ มักปรากฏกายในรูปของสิงโตมีปีกบินได้


รูปที่ 2 เศดุ หรือ ลามัสสุ กริฟฟินแห่งเมโสโปเตเมีย
ที่มา https://www.metmuseum.org/toah/works-of-art/32.143.2/

 😈 เชื่อกันว่า "วาพูลา" พัฒนาการมาจากเสือหรือสิงโตติดปีกในตำนานเปอร์เซีย (อีหร่าน) ซึ่งรับอิทธิพลมาจากเทพกริฟฟินของอารยธรรมเมโสโปเตเมีย คือ เศดุ Shedu หรือ ลามัสสุ Lamassu โดยมากจะเป็นสิงโตติดปีกอินทรีมีเศียรหรือตัวท่อนบนเป็นมนุษย์ คล้ายสฟิงซ์มีปีกหรือ เป็นวัวมีปีกอินทรีเศียรมนุษย์คล้ายนางโคสวรรค์กามเธนุของอินเดีย แต่เทพอารักษ์เศดุ หรือลามัสสุส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดเป็นเพศชาย


รูปที่ 3 ศรเภศวร อวตารปางหนึ่งของพระศิวะเพื่อมาปราบนรสิงห์คลั่ง

   😈 โดยในสมัยปัจจุบันก็ยังส่งอิทธิพลไปสู่ ศรเภศวรัน Sharabeshwaran สัตว์ ครึ่งสิงโตครึ่งครุฑครึ่งคนของอินเดียใต้ซึ่งเป็นอวตารปางหนึ่งของพระศิวะ ซึ่งลงมาปราบนรสิงห์ ซึ่งหลังจากฆ่า หิรัณยักษิปุ พ่อพญาประหลาดได้ นรสิงห์ก็ยังอาละวาดไล่ท้ารบกับนักรบและเทวดาไปทั่วจักรวาลไม่ยอมกลับสวรรค์ พระศิวะเลยต้องอวตารมาเป็น ศรภะ (เป็นเจ้าป่าในวรรณคดีอินเดียมีอำนาจเหนือราชสีห์เพราะเป็นสัตว์ผสมจากสัตว์บกและสัตว์ปีกที่มีอำนาจที่สุด โดยถ้าเป็นสัตว์น้ำสัตว์ที่มีอำนาจที่สุดจะเป็น มกระ อ่าน มะกะระ หรือมังกรแขก ซึ่งก็เป็นสัตว์ผสมจากสัตว์น้ำ และสัตว์บกที่มีอำนาจที่สุด)

รูปที่ 4 พระพุทธเจ้าและบริวารทรงตัวศรภะ (พระพนัสบดี ศรีทวารวดี)
ที่มา https://www.bloggang.com/m/viewdiary.php?id=vinitsiri&month=03-2010&date=14&group=35&gblog=35

   😈 เรียกว่า "ศรเภศวร" ซึ่งเมื่อปราบพระนารายณ์ปางนรสิงห์ได้แล้วทั้งสองก็กลับวิมานของแต่ละตนไป ซึ่งตามเนื้อเรื่องแสดงให้เห็นชัดว่าไศวะนิกายยกพระศรเภศวรขึ้นมาข่มพระนรสิงหาวตารที่มีคนนับถือมากในอินเดียใต้ เพราะมีการค้นพบเทวรูปหินนรสิงห์ขนาดใหญ่ที่เมืองหัมปิ Hampi อินเดียใต้ โดยในทางพุทธศาสนามหายานในสมัยทวารวดีของไทยก็มีรูป พุทธรูปเหยียบเศียรศรภะ ซึ่งเป็นการข่มไศวนิกาย โดยตัวศรภะของไทยเป็นลูกผสมของพาหนะทั้งหลายของตรีมูรติได้แก่ หงส์ของพรหม วัวของพระศิวะ และครุฑของพระนารายณ์ แสดงเชิงสัญลักษณ์ว่าพุทธศาสนาสูงส่งกว่าตรีมูรติทั้งสาม ปัจจุบันชาวไทยเรียกปางนี้ว่า "พระพนัสบดี ศรีทวารวดี" ซึ่งเป็นพุทธปางประทับยืนบนตัวศรภะ มีโพธิสัตว์ซ้ายขวาเช่นพระอมิตาภะของจีนหรือขอมโบราณ ส่วนคำว่า "พนัสบดี" เป็นนามเทพอารักษ์ปรากฏในโองการแช่งน้ำเพื่อเชื่อมโยงกับวรรณคดีโบราณของไทยทำให้พุทธรูปปางเหยียบศรภะ หรือศรภะจะถูกเข้าใจว่าเป็นพนัสบดีในยุคปัจจุบัน ส่วนจะเป็นพนัสบดีในโองการแช่งน้ำจริงหรือไม่ต้องหาหลักฐานกันไป แต่ที่แน่ ๆ ตัวที่พุทธรูปทรง หรือเหยียบหัวอยู่แขกเรียกว่า "ศรภะ" 


ภาพที่ 7 นรสิงที่เมืองหัมปิ อินเดียใต้ (เคยเห็นภาพที่อาจารย์ศาสตราจารย์นาคสวามีไปบูรณะสมัยที่รูปสลักนรสิงห์นี้ยังหลุดเป็นชิ้น ๆ ในรูปเก่าสมัยที่ท่านหนุ่ม ๆ ในบ้านของท่านด้วย)

   😈 อย่างคชสิงห์ แขกอินเดียใต้ก็เรียกว่า "ยาฬี" หรือ "ยาลี" (ไม่ใช่ยาฬ ยาฬเป็นพิณชนิดหนึ่ง) แม้ว่าไทยจะใช้คำยืมภาษาบาลีสันสกฤตของแขกแต่หลายคำไทยสร้างคำบาลีสันสกฤตใช้เอง (โดยเฉพาะศัพท์บัญญัติใหม่) หรือความนิยมในการเลือกใช้คำที่มีหลากหลายคำให้เลือกใช้ก็ไม่ตรงกันอยู่ดี

😇😇😇😇😇😇😇😇


    😇 มิตซราเอล Mitzrael เป็นเทวทูตสวรรค์ผู้อุปถัมภ์แห่งการซ่อมแซมภายใน ซึ่งสามารถช่วยให้ทุกคนเรียนรู้และเข้าใจ หน้าที่ และสิทธิของตนเอง คือเทวทูตสวรรค์ประจำวันที่ 16-20 มกราคม มิตซราเอล Mitzrael เทวทูตสวรรค์ผู้อุปถัมภ์แห่งการซ่อมแซมภายใน  ช่วยให้มวลมนุษย์สามารถแก้ไขปัญหาชีวิตของตนเองได้ สามารถรักษาความเจ็บป่วยทางจิตใจ และแนะนำการชดใช้บาปทั้งหลายผ่านการรับรู้ทางวิญญาณ นอกจากนี้ยังสามารถอำนวยความสะดวกในการศึกษาและการปฏิบัติด้านจิตวิทยาและจิตเวช และชี้นำให้มนุษย์ทั้งหลายฝึกปฏิบัติงานทางปัญญาด้วยการประสานกันของการรวมตัวกันระหว่างร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และจิตวิญญาณ หากใครศึกษาและต้องการประสบความสำเร็จในด้านจุลชีววิทยา เทคโนโลยี และประสาทวิทยา ซึ่งมิตซราเอล Mitzrael สามารถให้พลังสนับสนุนได้ โดยสุดท้ายแล้วเทวทูตสวรรค์มิตซราเอล Mitzrael จะนำความเรียบง่ายมาสู่ทุกด้านในชีวิตของคุณ


ภาพที่ 6 เทวทูตสวรรค์ มิตซราเอล แห่งการซ่อมแซมรักษาจิตใจภายใน
ที่มา https://spiritualexperience.eu/mitzrael-angel-of-reparation/

.........


รูปที่ 8 The Lion of Saint Mark, สิงโตติดปีกถือไบเบิลของเซนต์มาร์คบนธงโบราณของอิตาลี
ที่มา https://www.zazzle.com/italian+flag+coasters


ภาพที่ 9 มกระ (มังกรทะเลอินเดีย)
ที่มา https://www.pinterest.com/pin/303007881171780788/


~ Narnia movie 2005~

   😇 แม้จะไม่มีปีก แต่สิงโตที่เป็นตัวแทนแห่งพลังใจในเรื่องนาร์เนีย ก็มีบทบาทเช่นเดียวกับวาพูลา ซึ่งพ่อมดหมอผีสามารถส่งไปให้กำลังบริวารของตนในการทำสงครามได้ แต่ในเรื่องนาร์เนีย สิงโตถูกเปลี่ยนเป็นตัวแทนแห่งความดี และแม่มดน้ำแข็งคือตัวแห่งความชั่วร้าย

    😇 เชื่อว่าแต่เดิมสมัยพระเจ้าสุลัยมานพยายามเปลี่ยนเทพท้องถิ่นต่าง ๆ ให้กลายเป็นปีศาจด้วยการเสกสรรปั้นแต่งว่าเทพท้องถิ่นเดิมคือเทวทูตตกสวรรค์ทั้งหมด เพื่อยกย่องพระเจ้าสูงสุดองค์เดียวตามความเชื่อเอกเทวนิยมที่พัฒนามาเป็นศาสนาคริสต์ปัจจุบัน สมัยนั้นพวกกริฟฟิน และสิงโตติดปีกของเป็นตัวแทนของพญามาร แต่ต่อมาเนื่องจากสิงโตเป็นตัวแทนแห่งอำนาจและความสง่างามในใจของมนุษย์ที่โหยหาพลังและแรงบันดาลใจยามสิ้นหลัง เพราะตามหลักจิตวิทยาคนเราเวลาตกยากหรืออยู่ในความมืดมิดของด้านมืดในใจก็มักจะหาสัญลักษณ์หรืออะไรบางอย่างเพื่อการลุกขึ้นต่อสู่กับความขัดแย้งในตนเอง หรือสังคม อย่างแบดแมน ก็มีค้างคาว แคทวู้แมนมีแมว ฯ ในการ์ตูนก็สะท้อน ความเชื่อของการใช้สัตว์เป็นสัญลักษณ์ของชนเผ่าต่าง ๆ ในสมัยโบราณที่หลงเหลือในปัจจุบันรูปแบบหนึ่ง หรือแม้แต่คริสตศาสนาบางนิกายในยุคหลังก็มีการยอมรับนำ ตัวกริฟฟิน และสิงโตติดปีกกลับมาใช้ใหม่ว่าเป็นตัวแทนแห่งพลัง ความดี และแสงสว่างในยุคหลังพระเจ้าสุลัยมาน เช่น การใช้สิงโตติดปีกถือพระคัมภีร์ไบเบิลว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของเซนต์มาร์คในศาสนาคริสต์ของประเทศอิตาลี และกริฟฟินในนวนิยายฝรั่งสำหรับเด็กต่าง ๆ ในปัจจุบันมักอยู่ฝ่ายดี เพราะเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปความคิดก็เปลี่ยน ทำให้การยัดเยียดให้เทพท้องถิ่นกลายเป็นปีศาจของพระเจ้าสุลัยมานก็ใช่ว่าจะสำเร็จเสมอไป ไปตลอด