(ภรรยาเก่าของอาดัม บิดามวลมนุษย์)
ลิลิธ เป็นผู้หญิงที่พระเจ้าสร้างขึ้นก่อนหน้า'อีฟ' (EVE) และเป็นภรรยาคนแรกของอาดัม ผู้ชายคนแรกก่อนหน้าที่พระเจ้าจะสร้างอีฟ เธอทะเลาะห์กับอาดัม ทิ้งสวนอีเดนไปอยู่ที่ริมทะเลแดง (Red Sea /Kali Ma's Ocean of Blood)
บางตำนานก็ว่า อาดัมตั้งใจไล่ลิลิธไปเพื่อไม่ให้ลิลิธซึ่งเป็นภรรยาหลวงที่อาดัมรักมาก ต้องโทษจากพระเจ้าที่เขาและอีฟภรรยาน้อยขโมยกินผลไม้ต้องห้าม
อีกตำนานก็ว่า ลิลิธ เป็นภรรยาของอาดัมคนก่อนที่พระเจ้าเคยสร้างมาแล้วก็ทำลายทิ้งสร้างใหม่และสร้างใหม่จนได้อาดัมที่สมบูรณ์แบบเพื่อเป็นบิดาของมวลมนุษย์
อย่างไรก็ดีที่เหมือนกันคือสุดท้าย ลิลิธได้กลายเป็นคนรักของจอมมารซามาเอล Samael (อัครเทวทูต แห่งความมืด บางตำนานว่าต่อมาตกสวรรค์กลายเป็นซาตาน) และช่วยกันผลิตปีศาจวันละ 100 ตน
พระเจ้าจึงได้ส่งเทวทูต 3 องค์ (Sanvi, Sansanvi and Semangelaf) ให้ไปตามลิลิธกลับมายังสวนอีเดน แต่ลิลิธปฏิเสธ
พระเจ้าจึงได้สร้างภรรยาใหม่ให้แก่อาดัม (คนล่าสุด) ซึ่งก็คืออีฟ ขึ้นมาจากกระดูกซี่โครงของอาดัม
บางตำนานกล่าวว่าพระเจ้าได้ฆ่าลูกของลิลิตกับจอมมารวันละ 100 ตนเป็นการลงโทษ
ลิลิธซึ่งได้กลายเป็นปีศาจแล้ว จึงใช้ปีกของเธอบินออกไปลักพาตัวเด็กๆ หรือฆ่าเด็กในยามค่ำคืน รวมทั้งให้ลูก ๆ ของนางที่เหลือคอยล่อลวงเหล่ามนุษย์เพื่อที่จะผลิตลูก ๆ ปีศาจ
โดยลูก ๆ ของลิลิธมีสองจำพวกคือ
1) ซักคิวบัส (succubus (เอกพจน์) หรือ succubi (พหูพจน์)) เป็นชื่อปิศาจสตรีที่ปรากฏตัวในความฝันด้วยรูปมนุษย์สตรีเพื่อล่อลวงบุรุษให้สังวาสกับนาง
2)"อินคิวบัส" (incubus) ปิศาจที่เป็นชายที่ปรากฏตัวในความฝันด้วยรูปมนุษย์บุรุษเพื่อล่อลวงสตรีให้สังวาสกับมัน
ทำหน้าที่คอยช่วยผลิตปีศาจและล่อลวงมนุษย์
ลิลิธคงจะเป็นตำนานอันเก่าแก่กว่าตำนานทั้งหลายของชาวยิว และคริสเตียน ในขณะที่เรื่องราวของเธอปรากฏมากมายและโดดเด่นในตำนานโบราณหลายฉบับ เช่น ในความเชื่อของอารยธรรมสุเมเรียน และบาบิโลเนียน ราว 3,500 ปีก่อนคริสตกาล
ในมหากาพย์กิลกาเมซได้กล่าวถึง ki-sikil-lil-la-ke ซึ่งน่าจะคือ ลีลีตู (Lilitu) ซึ่งเป็นนางอัปสรหรือสาวใช้ของเทวี Inanna ราชินีแห่งสวรรค์ สงคราม และความรักของสุเมเรียน
ซึ่งInanna มีลักษณะเหมือนกับ อิชตาร Ishtar เทวีแห่งสงครามและความรักของชาวอัคกาเดียน
ที่จะส่งลีลีตูมายั่วยวนล่อลวงมนุษย์
Ishtar และInanna มีลักษณะเหมือนนางกินรีซึ่งอาจจะเป็นที่มาของรูปลักษณ์ของลิลิธ
ที่ปรากฏในงานศิลปกรรมต่าง ๆ ของชาวคริสต์สมัยหลัง
(ลีลีตู หรือลิลิธอาจจะมีลักษณะเหมือนกินรีที่เป็นเจ้านายเดิม)
นอกจากนี้บางคนยังเชื่อว่าปิศาจโบราณเพศสตรีคือ ลามาซตู (Lamashtu) ของชาวสุเมเรียน
ที่มีรูปกายเป็นสตรีมีปีกแต่มีเศียรเป็นสุนัขผู้ถูกเนรเทศออกจากสรวงสวรรค์
เนื่องจากเพราะความร้ายกาจของตนเอง อาจจะเป็นที่มาของ ลิลิธ
ส่วนในตำนานอื่นๆ ของสุเมเรียน ลิลิธยังมีชื่อหลายอย่างเช่น อาร์ดัท ลิลิ่ (Ardat Lili) หรือ ลีลู (Lilu)
ลีลีตู Lilituในข้อความของชาวเมโสโปเตเมีย มีหลักฐานอื่นที่ปรากฏในเอกสารของชาวยิว ซึ่งเกี่ยวโยงกับลิลิธแห่งอาณาจักรอัคกาเดียน (อิชตาร Ishtar)
ในขณะเดียวกันนักวิชาการอื่นหลายคนกลับแย้งว่าลิลิธที่ปรากฏในบาบิโลเนียน (ลีลีตู) และลิลิธที่ปราฏในอัคกาเดียน (อิชตาร Ishtar) เป็นคนละตน
ซึ่งสมัยต่อมาลิลิธได้การเป็นปีศาจที่น่ากลัวในตำนานยุโรปสมัยกลางที่ชอบฆ่าเด็ก หรือขโมยเด็กในตอนกลางคืน เช่นเดียวกับเรื่องเล่าของปีศาจบูกี้แมนที่ชอบมาจับเด็กในปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น