ราศีปีศาจที่ 55 โอโรบัส (Orobas) ประจำวันเกิดที่ 22-26 ธันวาคม
ภาพที่ 1 ดวงตรามารโอโรบัส
ที่มา https://demonsanddemonolatry.com/demon-of-the-night-prince-orobas-night-demon/
😈 โอโรบัส (Orobas) คือพญามารนักพยากรณ์ เป็นปีศาจตนที่ 55 ของพระเจ้าสุลัยมาน ผู้มีทัพผีและปีศาจ 20 กองพลอยู่ในบังคับบัญชา มีอำนาจในการบอกความจริงเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบันและอนาคต ให้ความรู้เกี่ยวกับเทววิทยา พระเจ้า และการสร้างโลก มอบอำนาจและลาภยศให้ ให้สิ่งที่โปรดปรานแก่มิตร หรือศัตรู ป้องกันการถูกหลอกลวงต่าง ๆ จากผู้ไม่ประสงค์ดี โดยมากมักปรากฏกายในรูปม้าและแปลงเป็นมนุษย์
😈 ในวรรณคดีอินเดีย (บาลี และสันสกฤต) อมนุษย์ที่มีเศียรเป็นม้ามีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ยักษิณี กุมภัณฑ์ กินนร กินรี รากษส อสูร เทวดา ฤาษี โยคินี ต่างก็มีเศียรเป็นม้าได้ เพราะคำสาป ชาติกำเนิด กรรม หรือสัญลักษณ์ของการบูชานับถือม้า
อัศวมุขี ยักษิณี (บาลี) สมัยเป็นมนุษย์สาบานว่า ถ้าพูดปดขอให้ไปเกิดเป็นนางยักษ์มีหน้าเป็นม้าด้วยอำนาจของกรรมชั่ว
อัศวมุขี รากษส (สันสกฤต) สมัยเป็นนางฟ้าทำผิดจึงถูกสาป
หัยครีวา หรือหัยนะนา (สันสกฤต) นางโยคินี เป็นตัวแทนพลังของพระหัยครีพ อวตาร
รากษส กุมภัณฑ์ เทพหัยครีพ อวตาร และพระกัลกี อวตาร ปางมีหน้าเป็นม้าเป็นสัญลักษณ์การนับถือพลังและความไวของม้า
เทพแฝดอัศวินปางมีเศียรเป็นม้า เพราะนางสรัญญาทนความร้อนสุริยเทพไม่ได้หนีไปปลอมเป็นม้า พระสุริยเทพ จึงแปลงเป็นม้าไปสังวาสด้วยนางม้าแปลงสรัญญา ,ทำให้เกิดพระอิศวินมีเศียรเป็นม้า แล้วพ่อตาคือพระวิศวกรรมจึงแก้ไขให้พระอาทิตย์ร้อนน้อยลงด้วยการ แบ่งความร้อนของพระอาทิตย์ไปสร้างอาวุธให้กับพวกเทวดาต่าง ๆ (ในละครโทรทัศน์เรื่อง "ศนิเทพ" ของอินเดียว่านนางสรัญญาไปบำเพ็ญตนบูชาเทพเจ้าจนได้พรให้ทนไฟและความร้อนจากพระอาทิตย์ได้จึงกลับมา และโกรธที่นางฉายาคนใช้ที่ปลอมเป็นนางให้ช่วงที่นางสรัญญาไม่อยู่ ได้ให้กำเนิดพระศนิ หรือพระเสาร์กับพระอาทิตย์)
😈 บางตำนานก็ว่าพระอัศวินเอาเศียรม้ามาเปลี่ยนกับฤาษี "ทธีจิ" และตนเพื่อป้องกันความตายจากความโกรธของพระอินทร์เพราะพระอินทร์อิจฉากลัวว่าพระอัศวินจะมีความรู้และเป็นที่นับถือมากกว่าตนจึงห้ามให้ฤาษีต่าง ๆ สอนมธุวิทยา (พรหมวิทยา) แก่พระอัศวิน จึงไม่มีใครกล้าเป็นครูของพระอัศวิน นอกจากมหาฤาษี "ทธีจิ" เมื่อพระอัศวินฆ่าม้าแล้วก็นำเศียรม้ามาเปลี่ยนกับเศียรฤาษี "ทธีจิ" และเรียนมธุวิทยาจากเศียรม้าที่ต่อกับร่างฤษี (ชื่อว่า อัศวศิระ) เมื่อพระอินทร์โกรธลงมาตัดหัวอัศวศิระฤาษีแล้วจากไป พระอัศวินก็เอาเศียรมนุษย์ที่เก็บไว้มาต่อคืนแล้วชุบชีวิตพระฤาษีทธีจิ (ควรดูตำนานครูม้าในนารายณ์ 20 ปางเทียบ)
😈 บางตำนานว่าพระอินทร์บอกมธุวิทยาให้ฤาษีทธีจิเองแล้วห้ามสอนผู้อื่น เมื่อพระฤาษีเอาไปสอนจึงโกรธน่าจะเป็นตำนานที่แต่งเติมสมัยหลังที่พยายามลดบทบาทความเป็นตัวอิจฉาหรือพญามารของพระอินทร์ลงในวรรณคดีอินเดีย ส่วนมธุวิทยาคือความรู้ที่ทำให้ผู้ตายได้ไม่เป็นอมตะกลายเป็นผู้อมตะ พระอินทร์ห่วงว่าความรู้นี้จะไปอยู่ในมืออสูรหรือมนุษย์ แต่สำหรับเทพที่ไม่มีความรู้ในมธุวิทยา (พรหมวิทยา) จะไม่มีที่นั่งให้ในพิธีรับน้ำโสมในหมู่เทพ (ที่นั่งกินเหล้าในงานปาร์ตี้ Party บนสวรรค์) พระอัศวินหนุ่มทั้งสองจึงอยากเรียนรู้มาก? และต่อมาภายหลังฤาษีทธีจิ เป็นผู้สละชีพให้พระอินทร์ดึงกระดูกสันหลังของตนออกไปสร้างวัชราวุธ (สายฟ้าของพระอินทร์) เพื่อใช้สู้กับอสูรต่าง ๆ
😈 ซึ่งการปล่อยม้าอุปการให้พาวิ่งยกทัพตีเมืองต่าง ๆ แล้วฆ่าม้าบูชาพระศิวะในพิธีแผ่ขยายอำนาจของราชาแขกที่เรียกว่าอัศวเมธ ก็แฝงนัยการนับถือม้าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์
😇😇😇😇😇😇😇😇😇😇
ภาพที่ 1 ดวงตรามารโอโรบัส
ที่มา https://demonsanddemonolatry.com/demon-of-the-night-prince-orobas-night-demon/
😈 โอโรบัส (Orobas) คือพญามารนักพยากรณ์ เป็นปีศาจตนที่ 55 ของพระเจ้าสุลัยมาน ผู้มีทัพผีและปีศาจ 20 กองพลอยู่ในบังคับบัญชา มีอำนาจในการบอกความจริงเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบันและอนาคต ให้ความรู้เกี่ยวกับเทววิทยา พระเจ้า และการสร้างโลก มอบอำนาจและลาภยศให้ ให้สิ่งที่โปรดปรานแก่มิตร หรือศัตรู ป้องกันการถูกหลอกลวงต่าง ๆ จากผู้ไม่ประสงค์ดี โดยมากมักปรากฏกายในรูปม้าและแปลงเป็นมนุษย์
~ horse man fashion~
ภาพที่ 2 เทพหัยครีพ ปางหนึ่งของพระนารายณ์ในอินเดียมีเศียรเป็นม้า
ที่มา https://www.quora.com/What-is-the-secret-behind-Hayagriva-Avatar
😈 เทพหัยครีพ ปางหนึ่งของพระนารายณ์ในอินเดียมีเศียรเป็นม้า ลัทธิสุดโต่งที่นับถือหัยครีพเป็นเทพสูงสุดว่า หัยครีพเป็นผู้มอบคัมภีร์พระเวทให้พระพรหม แต่ในตำรานารายณ์ 20 ปางของไทยที่ได้รับอิทธิพลของไศวนิกายว่าเป็นอสูรที่ขโมยคัมภีร์พระเวททั้งสี่ไปฝากไว้กับสังขะอสูร
😈 เทพหัยครีพ ปางหนึ่งของพระนารายณ์ในอินเดียมีเศียรเป็นม้า ลัทธิสุดโต่งที่นับถือหัยครีพเป็นเทพสูงสุดว่า หัยครีพเป็นผู้มอบคัมภีร์พระเวทให้พระพรหม แต่ในตำรานารายณ์ 20 ปางของไทยที่ได้รับอิทธิพลของไศวนิกายว่าเป็นอสูรที่ขโมยคัมภีร์พระเวททั้งสี่ไปฝากไว้กับสังขะอสูร
ภาพที่ 3 ยมทูตหัวม้าของจีน
ภาพที่ 5 อีโบน่า Epona เทวีของม้า ในตำนานเซติก Celtic (ยุโรปกลาง)
ภาพที่ 6 ติกบาลอง Tikbalong อสูรกายหัวม้าของอินโดนีเซีย
ภาพที่ 7 ภาพเทพแฝดอัศวินปางมีเศียรม้าของอินเดีย
ภาพที่ 8 กินนรอินเดีย มีเศียรม้าเป็นนักดนตรีสวรรค์ หัยครีพได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งพวกกินนร
ภาพที่ 9 หัยครีวา โยคินี
😈 หัยครีวา หัยมุขี อัศวมุขี หรือ หัยนะนา นางโยคินี นางรากษส นางอสุรี นางยักษ์ นางกินรี หน้าม้า แล้วแต่ตำนานอินเดีย (ชื่อโหล) แต่ในชาดกมีเรื่องนางอัศวมุขี นางยักษิณี ซึ่งเป็นอนุภาค plot ที่มาของเรื่องกำเนิดสินสมุทรในพระอภัยมณี กับตอนนางพันธุรัตน์อกแตกตาย ในเรื่องสังข์ทอง ส่วนในสกันธปุราณะว่า นางอัศวมุขี เป็นรากษสที่จับพวกพราหมณ์มาไว้ในถ้ำเพื่อทำมนุษย์บูชายัญให้ครบพันคน แต่พราหมณ์พวกนั้นสวดบูชาพระสกันธกุมาร พระองค์จึงพุ่งหอกไปฆ่านางอัศวมุขี ก่อนตายนางนึกถึงและสวดบูชาพระสกันธกุมาร จึงได้ไปเกิดในสวรรค์ ส่วนพราหมณ์ทั้งพันคนก็ออกจากถ้ำได้ด้วยความช่วยเหลือของพระสกันธกุมาร
ภาพที่ 10 นางแก้วหน้าม้าในวรรณกรรมพื้นบ้าน
ที่มา http://sutassinee.blogspot.com/2017/03/7-3-1.html
กินนระ ในวรรณคดีสันสกฤตคืออมนุษย์ที่ "หัวเป็นสัตว์ ตัวเป็นคน"
😈 ในวรรณคดีอินเดีย (บาลี และสันสกฤต) อมนุษย์ที่มีเศียรเป็นม้ามีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ยักษิณี กุมภัณฑ์ กินนร กินรี รากษส อสูร เทวดา ฤาษี โยคินี ต่างก็มีเศียรเป็นม้าได้ เพราะคำสาป ชาติกำเนิด กรรม หรือสัญลักษณ์ของการบูชานับถือม้า
อัศวมุขี ยักษิณี (บาลี) สมัยเป็นมนุษย์สาบานว่า ถ้าพูดปดขอให้ไปเกิดเป็นนางยักษ์มีหน้าเป็นม้าด้วยอำนาจของกรรมชั่ว
อัศวมุขี รากษส (สันสกฤต) สมัยเป็นนางฟ้าทำผิดจึงถูกสาป
หัยครีวา หรือหัยนะนา (สันสกฤต) นางโยคินี เป็นตัวแทนพลังของพระหัยครีพ อวตาร
รากษส กุมภัณฑ์ เทพหัยครีพ อวตาร และพระกัลกี อวตาร ปางมีหน้าเป็นม้าเป็นสัญลักษณ์การนับถือพลังและความไวของม้า
เทพแฝดอัศวินปางมีเศียรเป็นม้า เพราะนางสรัญญาทนความร้อนสุริยเทพไม่ได้หนีไปปลอมเป็นม้า พระสุริยเทพ จึงแปลงเป็นม้าไปสังวาสด้วยนางม้าแปลงสรัญญา ,ทำให้เกิดพระอิศวินมีเศียรเป็นม้า แล้วพ่อตาคือพระวิศวกรรมจึงแก้ไขให้พระอาทิตย์ร้อนน้อยลงด้วยการ แบ่งความร้อนของพระอาทิตย์ไปสร้างอาวุธให้กับพวกเทวดาต่าง ๆ (ในละครโทรทัศน์เรื่อง "ศนิเทพ" ของอินเดียว่านนางสรัญญาไปบำเพ็ญตนบูชาเทพเจ้าจนได้พรให้ทนไฟและความร้อนจากพระอาทิตย์ได้จึงกลับมา และโกรธที่นางฉายาคนใช้ที่ปลอมเป็นนางให้ช่วงที่นางสรัญญาไม่อยู่ ได้ให้กำเนิดพระศนิ หรือพระเสาร์กับพระอาทิตย์)
😈 บางตำนานก็ว่าพระอัศวินเอาเศียรม้ามาเปลี่ยนกับฤาษี "ทธีจิ" และตนเพื่อป้องกันความตายจากความโกรธของพระอินทร์เพราะพระอินทร์อิจฉากลัวว่าพระอัศวินจะมีความรู้และเป็นที่นับถือมากกว่าตนจึงห้ามให้ฤาษีต่าง ๆ สอนมธุวิทยา (พรหมวิทยา) แก่พระอัศวิน จึงไม่มีใครกล้าเป็นครูของพระอัศวิน นอกจากมหาฤาษี "ทธีจิ" เมื่อพระอัศวินฆ่าม้าแล้วก็นำเศียรม้ามาเปลี่ยนกับเศียรฤาษี "ทธีจิ" และเรียนมธุวิทยาจากเศียรม้าที่ต่อกับร่างฤษี (ชื่อว่า อัศวศิระ) เมื่อพระอินทร์โกรธลงมาตัดหัวอัศวศิระฤาษีแล้วจากไป พระอัศวินก็เอาเศียรมนุษย์ที่เก็บไว้มาต่อคืนแล้วชุบชีวิตพระฤาษีทธีจิ (ควรดูตำนานครูม้าในนารายณ์ 20 ปางเทียบ)
😈 บางตำนานว่าพระอินทร์บอกมธุวิทยาให้ฤาษีทธีจิเองแล้วห้ามสอนผู้อื่น เมื่อพระฤาษีเอาไปสอนจึงโกรธน่าจะเป็นตำนานที่แต่งเติมสมัยหลังที่พยายามลดบทบาทความเป็นตัวอิจฉาหรือพญามารของพระอินทร์ลงในวรรณคดีอินเดีย ส่วนมธุวิทยาคือความรู้ที่ทำให้ผู้ตายได้ไม่เป็นอมตะกลายเป็นผู้อมตะ พระอินทร์ห่วงว่าความรู้นี้จะไปอยู่ในมืออสูรหรือมนุษย์ แต่สำหรับเทพที่ไม่มีความรู้ในมธุวิทยา (พรหมวิทยา) จะไม่มีที่นั่งให้ในพิธีรับน้ำโสมในหมู่เทพ (ที่นั่งกินเหล้าในงานปาร์ตี้ Party บนสวรรค์) พระอัศวินหนุ่มทั้งสองจึงอยากเรียนรู้มาก? และต่อมาภายหลังฤาษีทธีจิ เป็นผู้สละชีพให้พระอินทร์ดึงกระดูกสันหลังของตนออกไปสร้างวัชราวุธ (สายฟ้าของพระอินทร์) เพื่อใช้สู้กับอสูรต่าง ๆ
😈 ซึ่งการปล่อยม้าอุปการให้พาวิ่งยกทัพตีเมืองต่าง ๆ แล้วฆ่าม้าบูชาพระศิวะในพิธีแผ่ขยายอำนาจของราชาแขกที่เรียกว่าอัศวเมธ ก็แฝงนัยการนับถือม้าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์
😈 นอกจากนี้ในตำนานกรีกมี Ipotane อีโปเตน/ อีโปทาเน อมนุษย์ครึ่งคนครึ่งม้าของกรีก ที่น่าจะพัฒนาการมาจากเซนเทอร์ Centaur ผสมกับเซเทอร์ Satyr ส่วนในอียิปต์มีเทพที่ไม่ได้เกี่ยวกับม้าโดยตรง แต่โดยทางอ้อมก็มี เทพมีเขาเลียงผาหรือกวาง "เฟเชฟ" Fesheph ซึ่งเป็นเทพสงครามมีความสัมพันธ์กับม้าและราชรถ ซึ่งน่าจะมีมีความเชื่อมโยงกับเทพนรกและสงคราม เนอร์กัล nergal ของเมโสโปเตเมีย ซึ่งเป็นตัวแทนแห่งอาทิตย์ตกดิน แต่โดยรูปลักษณ์ของเทพนรกเนอร์กัล (นรกานต์?) ที่มีหมาสามหัวเป็นสัตว์เลี้ยงเหมือนกับสุนัขอสูรสามหัวเซอร์เบอรัส Cerberus ที่เป็นสัตว์เลี้ยงของเทพนรกฮาดีส Hades ของกรีก
กิมปุรุษะ ในวรรณคดีสันสกฤตคืออมนุษย์ที่ "ตัวเป็นสัตว์หัวเป็นคน"
😇 ส่วนเทวทูตสวรรค์ประจำคนที่เกิดในวันที่ 22 - 26 ธันวาคมคือ "เมบาฮิอาห์ Mebahiah เทพแห่งความสว่างแห่งปัญญา ผู้นำความคิดที่ถูกต้องมาสู่ผู้หลงงมงาย ผู้ชี้ทางทางออก และคำตอบที่แท้จริงมาให้เมื่อมนุษย์มีปัญหาและจนหนทางในท้ายที่สุดแห่งปัญญาการคิดวิเคราะห์ ผู้ปกป้องผู้ศรัทธาในพระเจ้าจากการล่อลวงของมารร้ายทั้งปวง
ภาพที่ 11 เทวทูตสวรรค์ "เมบาฮิอาห์" Mebahiah เทพแห่งแสงสว่างทางปัญญา
ที่มา https://spiritualexperience.eu/mebahiah-angel-of-intellectual-lucidity/
~Saranya devi VS Chaya devi in Shani Dev , Hindi TV series 2017~
~ Surya dev turn to horse to live with Saranya his wife in Hindi TV series 2017~
ชายาของพระอาทิตย์ที่เป็นลูกพระวิศวกรรม มีชื่อและสมญานามหลายชื่อ เช่น สรัญญู สรัญญา สันคยา สรนิยา สรัญชนา หรือ สนธยา เป็นมารดาของ พระเรวันตะ พระมนูตนแรก เทพแฝดอัศวิน พระยม และนางยมี แต่ในเรื่อง ศนิเทพ เล่นเป็นตัวร้าย กล่าวถึงแต่ ว่าเป็นแม่ พระยมและนางยมี
ภาพที่ 12 นันดี แบร์ Nandi bear หมีหน้าม้า หรือหมา ที่เล่าขานเป็นสัตว์ลึกลับในแอฟริกา (อาจจะเป็นที่มาของมนุษย์ม้า)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น