วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2563

โลกศาสตร์ของชาวจีน (Chinese cosmology)

โลกศาสตร์ของจีน

ผานกู่ ถูกสร้างเป็นตัวละครในเกมของจีน

กำเนิดโลก

ในอดีดกาลนับประมาณไม่ได้เมื่อจักรวาลมีแต่ความสับสนวุ่นวาย แล้วต่อมาความสับสนวุ่นวายได้เกิดเป็นไข่ฟองหนึ่งขึ้นแล้วก็ผ่านมาเป็นระยะเวลายาวนานไข่ฟองนั้นก็ได้แตกออก ภายในนั้นมียักษ์ตนหนึ่งชื่อ "ผานกู่" ออกมาจากไข่ใบนั้น แล้วพญายักษ์ก็ใช้ขวานของตนผ่าไข่ออกแยกเป็นท้องฟ้า และพื้นดิน จากนั้นก็ได้สร้างสรรพสิ่งต่าง ๆ บนโลกขึ้น โดยได้รับความช่วยเหลือจากสัตว์เทพอสูรประจำฤดูกาลทั้งสี่คือ เต่า (ฤดูหนาว ทิศเหนือ) กิเลนหรือเสือขาว (ฤดูแล้ง ทิศตะวันตก) กระเรียนเพลิงหรือหงส์จีน (ฤดูร้อน ทิศใต้) มังกร (ฤดูใบไม้ผลิ ทิศตะวันออก) ซึ่งเป็นกลุ่มดาวจักรราศีของจีนในท้องฟ้า 



ในตำนานพื้นบ้านของชาวเผ่าปู้อี (布依族) มณฑลเจียงซู (江苏省) เล่าว่าต่อมาผานกู่ก็ได้เรียนรู้การปลูกข้าว และแต่งงานกับธิดามังกร แล้วทั้งสองก็ให้กำเนิดมวลมนุษย์ โดยธิดามังกรให้กำเนิดบุตรชายคนแรกคือ ชินเฮง (新横) ซึ่งต่อมาชินเฮงได้พูดจาลบหลู่แม่ของตนเองนางจึงกลับสวรรค์ไป แม้ว่าผ่านกูและชินเฮงจะอ้อนวอนขอร้องอย่างไรก็ไม่ยอมกลับลงมาโลกมนุษย์อีก

ส่วนในตำนานจีนที่นิยมทั่วไปคือเมื่อผ่านกูสร้างสิ่งต่าง ๆ บนโลกเสร็จก็ไปยืดฟ้าให้สูงขึ้นไปจากโลกมนุษย์ (เป็นยักษ์) จนเหนื่อยตาย แล้วลมหายใจของเขากลายเป็นลม หมอกเมฆ และเสียงฟ้าร้อง ตาซ้ายของเขาดวงอาทิตย์ ตาขวาของเขาดวงจันทร์ หัวกลายเป็นเนินเขา ภูเขา และขั้วโลก เลือดกลายเป็นแม่น้ำ กล้ามเนื้อกลายเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ ขนบนใบหน้าของเขากลายเป็นดวงดาวและทางช้างเผือก ขนบนร่างทั่วไปกลายเป็นพุ่มไม้และป่า กระดูกกกลายเป็นแร่ธาตุ ถ่านหิน ไขกระดูกกลายเป็นอัญมณีอันมีค่า เหงื่อของเขากลายเป็นฝน และตัวหมัดบนตัวเขากลายเป็นสัตว์ต่าง ๆ



จากนั้นเจ้าแม่นี่วา/นฺหวี่วา (女媧) ก็ลงมาจากสวรรค์หรือดวงจันทร์มาเยี่ยมชมโลกมนุษย์แล้วก็ได้ปั้นคนขึ้นจากดิน แต่บางตำนานก็ว่าเกิดน้ำท่วมใหญ่นี่วาและฝูซี (伏羲) ต้องหลบอยู่ในน้ำเต้าจึงแต่งงานกันในนั้น แล้วก็ร่วมกันสร้างคนในนั้น เมื่อน้ำลดมนุษย์พวกแรกลูกหลานของนี่วาและฝูซีก็ออกมาจากน้ำเต้า

โหวอี้ ผู้ยิงอาทิตย์ดับถูกสร้างเป็นตัวละครในเกม

ความเชื่อเรื่องสามโลก

1) สวรรค์
1.1 คือที่อยู่ของเทพเจ้า
1.2 คือประตูสวรรค์ดินแดนแห่งท้องฟ้า และดวงดาวสี่ดาวประจำทิศและฤดูการ เต่างู เสือขาว มังกร กระเรียนไฟ ดาวเหนือ ดาวจระเข้ ดวงจันทร์ พระอาทิตย์ ฯลฯ

ตำนานพระอาทิตย์ และพระจันทร์
หลังจากเจ้าแม่หนีวาสร้างมนุษย์เกิดน้ำท่วมใหญ่เพราะเทพน้ำกงกงกับเทพไฟซูหรงสู้กัน แล้วเทพน้ำเอาหัวพุ่งชนเขาจักรวาล ทำให้เขาค้ำจักรวาลถล่ม ทำให้เกิดน้ำที่เก็บไว้บนสวรรค์ท้วมลงมายังโลก เจ้าแม่หนีว่าจึงตัดขาของเต่ายักษ์ไปเป็นเสาค้ำสวรรค์และหลอมหินห้าสีไปอุดรูรั่วของท้องฟ้า จากนั้นนางก็เหนื่อยจนตาย แล้วต่อมาก็เกิดมีพระอาทิตย์ถึง 10 ดวง (บางตำนานว่า 7 ดวง) ขึ้นมาบนท้องฟ้า ทำให้จักรพรรดิหยก (เง็กเซียน) ราชาสวรรค์บัญชาให้เทพนักยิงธนูโหวอี้มายิงตะวันให้เหลือเพียงหนึ่งดวง แล้วโหวอี้ก็อยู่บนโลกแต่งงานกับฉางเอ๋อ กลายเป็นผู้ปกครองโลกเวลานั้น แต่โหวอี้อยากจะเป็นอมตะจึงไปขอยาวิเศษจากเจ้าแม่ซีหวังมู่ที่ดินแดนเกาะกวางทะเลทิศตะวันตกที่ห่างไกล ขณะที่นำกลับมาที่บ้านเพื่อจะกินพร้อมกับฉางเอ๋อ โหวอี้ก็ถูกเฟิงเมิ่งยิ่งตายก่อน ฉางเอ๋อจึงกินยาทิพย์ลอยขึ้นสวรรค์ไปคนเดียวแล้วก็ไปอยู่ที่ดวงจันทร์ บางตำนานก็ว่าฉางเอ๋อแอบกินคนเดียวสำเร็จเป็นเซียนก่อน โหวอี้จึงต้องอยู่โลกมนุษย์บำเพ็ญเป็นเซียนต่อไปเมื่อสำเร็จก็ขึ้นไปอยู่บนดวงอาทิตย์ แล้วไปหาฉางเอ๋อด้วยความโกรธ แต่แล้วก็คืนดีกัน อยู่ด้วยกันนานไป ทำให้พระอาทิตย์พระจันทร์ไม่โคจร สุดท้ายจักรพรรดิหยก (เง็กเซียน) จึงบัญชาให้ทั้งสองแยกจากกันพบกันได้เฉพาะตอนสุริยคราส และจันทรคราสเท่านั้น

2) โลกมนุษย์พื้นดิน 
2.1 ดินแดนมนุษย์ แผ่นดินจีนเป็นศูนย์กลางโลก
ความเชื่อว่าวีรบุรุษคือดาวบนสวรรค์มาเกิด โดยตำนานจีนกล่าวถึงการมาจุติของกลุ่มดาวเทพอสูรเสือขาว白虎และมังกรเขียว青龍ไว้ถึงสองครั้ง ครั้งแรกกลุ่มดาวเสือขาวได้ลงมาจุติเป็นแม่ทัพในรัชสมัยของจักรพรรคิถังไถ่จง  นามว่า หลัวเชิง罗成และกลุ่มดาวมังกรเขียวได้ลงมาจุติเป็นแม่ทัพ ต้านซยฺงซิน (单雄信) ทั้งสองทำสัญญาเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับฉิน ชูเป่า(秦瓊) เชิ่งจือเจี๋ย (程知節) และยูฉือ จิงเต้อ / หลี่ฉือจี้  (李世勣) ครั้งที่สองเชื่อว่าหลังจากตายแล้วได้ไปเกิดใหม่ในสมัยราชวงค์ถังเช่นกัน กลุ่มดาวเสือขาวเกิดเป็นเซวฺย์ เหรินกุ้ย/ซิยิ่นกุ้ย 薛仁贵แม่ทัพใหญ่แห่งราชวงศ์ถัง และมังกรเป็นเจ้าชายเหอ ซูเหวิน (郃苏文แห่งราชวงศ์เหลียว (พื้นที่ตอนเหนือของจีนปัจจุบันส่วนหนึ่งคือเกาหลี) ทั้งสองคนเป็นศัตรูกัน บางก็ว่ามังกรเขียวมาเกิดเป็นซิติงซาน (薛丁山) ลูกของซิยิ่นกุ้ยเองที่พลั้งมือฆ่าพ่อตายเพราะเห็นพ่อเป็นเสือขณะไปล่าสัตว์

2.2 ดินแดนปีศาจ  ป่าผลไม้ของปีศาจลิงเฮงเจีย
ความเชื่อเรื่องหยินเซียน หรือปีศาจที่เกิดจากสัตว์ต่างที่บำเพ็ญเพียรโดยวิธีที่ชั่วร้าย กินมนุษย์ กินหัวใจมนุษย์ หรือแปลงเป็นมนุษย์มาอยู่ร่วมกับมนุษย์ เพื่อสูบพลังหยางของมนุษย์เหยื่อตาย

2.3 ดินแดนเซียน ป่าใบเขียวของเจ้าแม่กวนอิม เกาะทิพย์ของเจ้าแม่ซีหวังมู่ ภูเขาทั้งหลายที่อยู่ของเซียน หรือผู้บำเพ็ญเพียรในโลกมนุษย์และ พุทธคีรีอันศักดิ์สิทธิ์ของพระโพธิสัตว์ทั้งสี่

พุทธคีรี เรืองนามแห่งพุทธศาสนาของจีน นั้นเรียกว่า โฝเจี้ยวซื่อต้าหมิงซาน” 佛教四大名山 เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพระโพธิสัตว์ทั้งสี่ ได้แก่ พระมัญชุศรีโพธิสัตว์ พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (หรือพระโพธิสัตว์กวนอิม) และพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ พุทธคีรีทั้ง 4 แห่ง เป็นสถานที่ที่พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมาก มีวัดวาอารามเนืองแน่น ผู้คนจึงรวมเรียกภูเขาทั้ง 4 แห่งนี้ว่า "จตุพุทธคีรีเรืองนามของจีน" มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั้งภายในและภายนอกประเทศ
พุทธคีรี โฝเจี้ยวซื่อต้าหมิงซาน” คือ
1) เอ๋อร์เหมยซาน 峨嵋山 หรือ เขาง้อไบ๊ (หง่อไบ๊) เป็นขุนเขาทางทิศตะวันตก อยู่ที่มณฑลเสฉวน(ซื่อชวน) 四川 สูงจากระดับน้ำทะเล 3,099 เมตร เป็นที่สถิตของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ หรือผู่เสียนผูซ่า(โผวเฮี้ยงผ่อสัก) 普贤菩萨
2) อู่ไถซาน 五台山 เป็นขุนเขาทางทิศเหนือ อยู่ในมณฑลซานซี 山西 สูงจากระดับน้ำทะเล 3,058 เมตร เป็นที่สถิตของพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ หรือเหวินซูผูซ่า(บุ่งซู้ผ่อสัก) 文殊菩萨
3) ผู่โถวซาน 普陀山 เป็นขุนเขาทางทิศตะวันออก อยู่บนเกาะโจวซาน 舟山岛 นอกชายฝั่งทะเลมณฑลเจ้อเจียง 浙江 เขาผู่ถัวซาน สูงจากระดับน้ำทะเลเพียง 284 เมตร เป็นที่สถิตของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ หรือกวนอินผูซ่า(กวงอิมผ่อสัก) 观音菩萨
4) จิ่วหัวซาน 九华山 เป็นขุนเขาทางทิศใต้ อยู่ในมณฑลอันฮุย 安徽 สูงจากระดับน้ำทะเล 1,342 เมตร เป็นที่สถิตของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ หรือตี้จั้งหวางผูซ่า(ตี่จั่งอ๊วงผ่อสัก) 地藏王菩萨

3) บาดาลโลก อาณาจักรของเจ้ามังกร
ห่ายเหล่งอ๋อง หรือไห่หลงหวาง (海龍王)
คือ พญามังกรเจ้าสมุทรทั้ง 4 ซึ่งทั้ง 4 ท่านนี้เป็นพี่น้องกันและได้รับบัญชาจากสวรรค์ให้ไปปกปักษ์รักษาประจำอยู่ที่มหาสมุทรหรือทะเลทั้ง 4 ทิศ
3.1 ทิศตะวันออก ทะเลตงไห่ (東海 ทะเลจีนตะวันออก)
ผู้ปกครองคือ ตงไห่ก่วงเต๋อหวาง (東海廣德王หรือ คางหนิงเต๋อหวาง (滄甯德王ชื่อเดิมคือเอ๋าก้วง (敖光เป็นพี่คนโตสุดมีสีอมเขียว/น้ำเงิน (ชิงหลง蒼龍) เจ้ามังกรตนนี้เคยมีเรื่องวิวาทกับเทพกุมารนาจา นอกจากนี้วังมังกรตะวันออกมีเสาค้ำทะเลตงไห่ที่หงอคอหรือเห่งเจียได้มาถอนเอาไปเป็นพลองวิเศษอาวุธประจำตน (คงเพราะทะเลตะวันออกอยู่ใกล้จีนจึงมีเรื่องเล่าและตำนานส่วนใหญ่เกี่ยวกับทะเลมากกว่าทะเลอื่น)
3.2 ทิศใต้ ทะเลหนานไห่ (南海 ทะเลจีนใต้)
ผู้ปกครองคือ หนานไห่หลงหวาง (南海龍王ชื่อเดิมคือเอ๋าชิน (敖欽เป็นพี่คนรองมีสีแดง (ชื่อหลง 赤龍)
3.3 ทิศเหนือ ทะเลเป๋ยไห่ (北海 ทะเลเหนือ หรือทะเลสาบไบคาล)
ผู้ปกครองคือ เป๋ยไห่ก่วงซื่อหวาง (北海廣泽王หรือ เป๋ยไห่หลงหวาง (北海龍王ชื่อเดิมคือเอ๋าฉิ๋ (敖吉เป็นพี่สามมีสีดำ (เฮยหลง 黑龍)
3.4 ทิศตะวันตก ทะเลซีไห่ (西海 ทะเลตะวันตก)
ผู้ปกครองคือ ซีไห่ก่วงซุ่นหวาง (西海廣順王หรือ ซีไห่หลงหวาง (西海龍王ชื่อเดิมคือเอ๋าซุ่น (敖順เป็นน้องสุดท้องมีสีขาว (ไป๋หลง 白龍)

4) นรกขุมต่าง ๆ ที่ลงโทษวิญญาณบาป

นรกทั้ง 10 ขุมและพญายมทั้ง 10  十殿阎王 (สือเตี้ยนเหยียนหวาง)
นรกจีนมี 10 ขุมแต่ละขุมมีพญายมประจำอยู่ได้แก่


4.1 นรกขุมที่ 1第一殿   มีพญายมชื่อฉินกวงหวาง 秦廣王 ในอดีตชาติคือเปาบุ้นจิ้น 包青天  (ซ่งเหนือ คศ. 999- ค.ศ. 1062หรือดาวบุ๋นขักแช /บุ๋นเชียงแช(文曲星/文昌星อาจจะมีความสัมพันธ์กับเทพแห่งการศึกษาบุ่นเชียงตี่กุน (文昌帝君และดาวบู๊หรือดาวนักรบ บู๊ขักแช” (武曲星)

ท่านอ๋องของขุมนี้จะใช้กระจกวิเศษตรวจสอบกรรม (ความดีความชั่ว) ของผู้ตายว่าตอนอยู่บนโลกมนุษย์นั้นทำความดีไว้มากแค่ไหน ถ้าไม่เคยทำความชั่วเลยตลอดชีวิตก็จะได้รับการปล่อยตัวให้เดินข้ามสะพานทองคำไปสู่สวรรค์ทางตะวันตกที่มีแต่ความสุข ถ้าทำชั่วเล็กน้อย ก็จะถูกปล่อยตัวให้เดินข้ามสะพานเงินไปสู่สวรรค์ทางทิศใต้ พอหมดบุญก็ต้องย้อนกลับมารับโทษเบาและไปเกิดใหม่ แต่ถ้าทำกรรมมากก็ต้องเดินหน้าสู่ขุมนรกอีก 9 ขุมถัดไป

นรกขุมที่ 2 第二殿  มีพญายมชื่อชิเจียงหวาง 楚江王

4.2 การลงทัณฑ์ของขุมนี้ก็คือ ยมบาลจะพาสัตว์นรกไปที่สระน้ำที่โสโครกมากๆและจับโยนลงไป ให้สัตว์นรกนั้นค่อยๆจมและทรมานด้วยความเน่าเหม็นของสิ่งโสโครกต่างๆ อีกสระหนึ่งจะเป็นสระน้ำแข็ง สัตว์นรกจะถูกจับลงไปแช่ให้เกิดความหนาวเหน็บ หิวโหยและตายไป นอกจากนี้ก็ยังมีป่าดาบซึ่งต้นไม้ใบหญ้าทั้งป่าจะมีความคมเหมือนมีด พอสัตว์นรกปีนขึ้นไปก็จะถูกมีดและดาบแทงตกลงมา
4.3 นรกขุมที่ 3 第三殿มีพญายมชื่อส่องตี้หวาง 宋帝王
การลงทัณฑ์ของขุมนี้เรียบง่ายมากครับ คือจับสัตว์นรกมัดเท้าด้วยเชือกดำแล้วเอาไปแขวนห้อยหัวไว้ รอให้สัตว์นรกทรมานหัวหลุด ตาโปน หนังเปื่อยยุ่ยออกมาเอง
4.4 นรกขุมที่ 4 第四殿มีพญายมชื่ออู่กวนหวาง 五官王
ขุมนี้จะจับสัตว์นรกโยนลงไปในสระที่มีแต่เลือดสีดำที่เน่าเหม็นครับ พอสัตว์นรกหิวโหยก็จะต้องกินเลือดที่อยู่ในสระนั้น แล้วอาเจียนออกมาจนตาย
4.5 นรกขุมที่ 5 第五殿  มีพญายมชื่อแหยนหลาวหวาง 閻羅王/แหยนหลาวเทียนสือ閻羅天子
การลงทัณฑ์ของขุมนี้คือจับสัตว์นรกทอดในกระทะทองแดง นอกจากนี้สัตว์นรกบางดวงไม่ได้โดนทอดแต่หิวโหยมากจนกินน้ำมันร้อนๆในกระทะจนตาย
4.6 นรกขุมที่ 6 第六殿  มีพญายมชื่อเปียนเฉิ่งหวาง 卞城王
ขุมนี้จะมีหนูปากเหล็กไว้แทะกัดอวัยวะเพศของสัตว์นรก โทษอีกแบบของขุมนี้ก็คือใช้เข็มเหล็กทิ่มแทงปาก จะหิวน้ำหิวข้าวแค่ไหนก็กินไม่ได้
4.7 นรกขุมที่ 7 第七殿มีพญายมชื่อไท่ซานหวาง 泰山王
ขุมนี้ลงโทษโดยเอาสัตว์นรกยัดลงไปในเครื่องบดเนื้อ
4.8 นรกขุมที่ 8 第八殿มีพญายมชื่อตู้ซื่อหวาง 都市王
ขุมนี้สัตว์นรกจะถูกจับอบด้วยหม้อใบใหญ่ แล้วจะถูกเผาจนเหม็นไหม้
4.9 นรกขุมที่ 9 第九殿มีพญายมชื่อผิงเติ้งหวาง 平等王
สัตว์นรกที่อยู่ในขุมนี้จะถูกตาข่ายเหล็กที่ร้อนมากๆคลุมร่างให้ปวดแสบปวดร้อนทรมานจนตาย
4.10 นรกขุมที่ 10 第十殿มีพญายมชื่อจ้วงหลุนหวาง 轉輪王
สัตว์นรกที่ถูกลงทัณฑ์แล้วก็จะถูกส่งมาที่นี่เพื่อรอไปเกิดใหม่ตามบุญและกรรมที่มีอยู่ สัตว์นรกที่จะถูกส่งไปเกิดใหม่จะได้กินน้ำชาลืมภพ (กินแล้วจะลืมอดีต ลืมความทรมานจากการลงทัณฑ์ในนรก) จากแม่เฒ่าจูแซเนี่ยเนี๊ยครับ พอสัตว์นรกกินน้ำชาเสร็จ แม่เฒ่าก็จะเอาสัตว์นรกเข้ากรงล้อชีวิตแล้วหมุนๆๆให้สัตว์นรกไปตกในที่ๆตัวเองต้องไปเกิดตามบุญตามกรรมของแต่ละตน









เปรียบเทียบเทพจีนกับญี่ปุ่น
No.
Chinese
Japanese
Thai meaning
1.
ยูไล Yulai
เนียวไรNyorai
ตถาคต
2.
กวนอิม Kuanyin
กันนอน Kannon
อวโลกิเตศวร
3.
หมีเล่อ Mile
มิโรกุ Miroku
ศรีอริยเมตตาไตรย
4.
ผู่เสียน Puxian
ฟูเกน Fugen
สมันตภัทระ
5.
ตี้จั๋ง Dizang
จิโซ Jizo
กษิติครรภะ
6.
เหวินซู Wenshu
มอนจู Monju
มัญชูศรี
7.
เยี้ยกวง Yueguang
คักโก Gakko
จันทรประภา
8.
รี้กวง Riguang
นิกโก Nikko
สุริยประภา
9.
ผู่สัก Bhu- Sak
โบสัตโซ Bosatso
โพธิสัตว์
10.
หมิงหวาง Mingwang
เมียวโอ Myo-O
วิทยราชา
11.
เทียนหริน Tian ren
เทนบุ Tenbu/ เตน Ten
เทพ
12.
อาเซียวหลัว Axiulao
อาซูร่า Ashura
อสูร
13.
เซียน Xian
คามิ / กามิ kami
เซียนจีน / เทวดาญี่ปุ่น

โปรดอ่านลิงก์ด้านล่างเพิ่มเติม (ออกสอบ)

1.

2.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น