วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560

นางมณโฑ เจ้าหญิงกบของแขกและไทย

นางมณโฑ มีชื่อจริงว่า มนโททะรี मंदोदरी แปลว่า "นางท้องนิ่ม" ส่วนที่คนไทยเรียกติดว่าเป็นมณโฑที่แปลว่ากบ ซึ่งน่าจะเป็นชื่อเล่นของนางเนื่องจากในอดีตชาติของนางมณโฑเป๋นนางอัปสรชื่อ "มธุระ"



๑) นางมณโฑธิดากบของมายาสุระ (ในการแสดงกุชุปุดี ของอันธรประเทศ)

วันหนึ่งขณะที่เจ้าแม่อุมาเทวี (หรือเรียกปารวตี) ชายาหลวงของพระศิวะไม่อยู่ นางมุธระได้ถวายการรับใช้พระศิวะแทน เมื่อเจ้าแม่อุมาเทวีกลับมาเห็นว่าขี้เถ้าที่พวกโยคีนิยมใช้ทาตัวของพระศิวะติดอยู่บนหน้าอกของนางอัปสรมธุระก็โกรธจึงสาปให้นางอัปสรมธุระกลายเป็นกบสิบสองปี


ด้วยด้วยความเห็นใจพระศิวะจึงให้พรนางอัปสรมธุระว่าหลังจากพ้นสาปนางก็จะกลับกลายเป็นสาวงามเหมือนเดิมและได้แแต่งงานกับผู้ชายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสามโลกในเวลานั้น


เมื่อนางอัปสรมธุระต้องสาปจึงกลายเป็นนางกบไปอาศัยในบ่อน้ำแห่งหนึ่ง เมื่อพ้นสาปจึงร้องขอความช่วยเหลือ ในขณะนั้นอสูร มายาสุระ และนางอัปสรเหมาผู้เป็นชายา ซึ่งกำลังอยากได้บุตรเดินทางผ่านมาพอดี ทั้งสองจึงช่วยนางมธุระขึ้นจากบ่อน้ำและรับเป็นพระธิดาให้นามว่า "มนโททรี" แต่มีชื่อเล่นว่า "มณโฑ" ด้วยชาติกำเนิดเดิมเป็นกบ


ต่อมาราวณะ หรือทศกัณฐ์ (ชื่อเล่น) ได้รบชนะเป็นเจ้าผู้ครอบครองสามโลก และมีรบมาถึงเมืองมายาสุระ ในพิภพอสูร เมื่อเห็นนางมณโฑจึงหลงรักและขอแต่งงานกับนาง ซึ่งมายาสุระโกรธทศกัณฐ์มากจนจะไม่ยอมยกให้ แต่นางมณโฑต้องการตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่บุญธรรมที่ช่วยชีวิตตนจากบ่อน้ำจึงยอมแต่งงานกับทศกัณฐ์ (เรื่องนี้มณโฑ ก็ยอดกตัญญูเหมือนกัน)

๒) นางมณโฑชายาของพาลี (ตำนานพื้นบ้านของรัฐโอริสสา)

เนื้อเรื่องนางมณโฑ จากนางอัปสรกลายเป็นกบ และกลายเป็นนางงามอีก ในตอนต้นมีเนื้อหาเหมือนในอันธรประเทศ (หนึ่งในสี่แคว้นแดนใต้ของชาวดราวิเดียน) แต่ตอนที่นางมณโฑกลายเป็นกบนี้นางมาอาศัยอยู่กับพวกฤาษี

ซึ่งพวกฤาษีนี้จะเลี้ยงวัวแสนรู้ที่จะมาปล่อยน้ำนมในอ่างใส่นมให้พวกฤาษีดื่มทุกวัน นางกบก๋ได้รับเมตตาแบ่งน้ำนมให้ดื่มด้วย แต่เนื่องจากที่ตรงนั้นเป็นที่อยู่ของเจ้าแม่นาคีที่มีฤทธิ์มากที่ทุกคนบูชา

แต่พวกฤาษีไม่เคยถวายน้ำนมแม้แต่หยดเดียวให้นาง เจ้าแม่นาคีจึงได้ส่งพญานาคที่เป็นลูกชายของนางมาคายพิษไว้ในอ่างใส่นมนม นางกบรู้จึงพลีชีพตนช่วยพวกฤาษีไว้ บังเอิญครบ ๑๒ ปีพอดี นางจึงพ้นสาปกลายเป็นนางงามและอยู่กับพวกฤาษีในฐานะลูกสาว ต่อมานางได้หลงรักกับพญาพาลี ที่มาฝากตัวเป็นศิษย์ของพระฤาษีพ่อบุญธรรม และได้รับอนุญาตให้แต่งงานมีลูกด้วยกัน

แต่ภายหลังทศกัณฐ์ได้รู้เกี่ยวกับความงามของนางก็มาหา แต่เมื่อรู้ว่านางแต่งงานมีลูกแล้วก็ใช้เวทมนตร์แปลงร่างเป็นพญาลิงพาลีล่อลวงนางมณโฑ ไปไว้เป็นมเหสีที่ลังกา (เรื่องนี้ย้ำความชั่วของทศกัณฐ์อย่างชัดเจน)

๓) นางมณโฑคือรองเท้าเสกของพระนารายณ์

เรื่องนี้มีเล่าอยู่ในรามายณะฉบับอานันทะรามายณะสำนวนสันสกฤต เล่าว่าเมื่อครั้งหนึ่งเจ้าแม่อุมาเทวีโกรธพระศิวะจะหนีไป บังเอิญตอนนั้นทศกัณฐ์ยกเขาไกรลาสเพื่อแสดงพลังของตนเอง ทำให้เจ้าแม่อุมาตกใจจน เข้าไปกอดพระศิวะด้วยความกลัว พระศิวะจึงใช้ปลายเท้ากดเขาไกรลาสให้ทับทศกัณฐ์ ทศกัณฐ์กลัวตายจึงสวดสรรเสริญพระศิวะ จนพระศิวะพอใจให้พร

แต่ทศกัณฐ์กับขอเจ้าแม่อุมาไปเป็นชายา พระศิวะก็ยกให้ ทศกัณฐ์จึงเชิญเจ้าแม่อุมาใส่คอพาเหาะไป เทพทั้งหลายก็ตกใจจึงไปบอกพระนารายณ์ พระนารายณ์จึงแปลงเป็นยักษ์แก่ปลูกต้นไม้กลับหัว
ทศกัณฐ์จึงหัวเราะว่า ยักษ์เฒ่านั้นโง่ ยักษ์เฒ่าก็บอกทศกัณฐ์นั้นแหละโง่ที่อุ้มตัวกาลีมา ทันทีที่เจ้าแม่อุมาเทวีได้ยินก็รู้กุศโลบายของพระนารายณ์จึงแปลงเป็นหญิงชรา ทศกัณฐ์ก็คิดว่าพระศิวะเล่นไม่ซื่อหลอกให้หญิงแก่มา จึงไล่เจ้าแม่อุมาเทวีไป เจ้าแม่อุมาเทวีจึงสามารถกลับไปเป็นชายาของพระศิวะตามเดิม แล้วยักษ์เฒ่าจึงแนะให้ทศกัณฐ์กลับไปขอนางมณโฑจากพระศิวะเป็นรางวัลแทน

ระหว่างทางที่ทศกัณฐ์เดินทางกลับไปพระนารายณ์ก็มาดักรอก่อน แล้วเสกให้รองเท้ากลายเป็นกบ จากนั้นก็เสกกบให้กลายเป็นนางมณโฑ และนำไปให้พระศิวะ เพื่อให้มอบให้ทศกัณฐ์เป็นรางวัลกลับไป

.........

อิทธิพลเรื่องนางมณโฑเป็นนางกบยังพบได้ในเรื่องหิกายัตเสรีราม ของชวามลายู ที่กล่าวว่าทศกัณฑ์มาบังคับเอาชายาของท้าวทศรถไปเป็นชายาของตนแต่ท้าวทศรถไม่ยอมยกให้ ชายาท้าวทศรถจึงเนรมิตรกบ และเสกนางกบให้กลายเป็นนางงามมอบให้เป็นชายาของทศกัณฐ์ไป
.....

เพลงมนโททะรี ศัพทัม หรือ มัณฑุกะ ศัพทัม ก็เรียกในการแสดง กุชิปุดี แดนซ์

ซึ่งเป็นการเต้นรำประจำชาติของรัฐอันธรประเทศ ประเทศอินเดีย

เมื่อสืบประวัติแล้วพบว่า การแสดงชุดนี้มาจากตำนานที่มีความเก่าแก่พอ ๆ กับหิกายัตเสรีราม แต่เนื้อเรื่องนางมณโฑในตำนานพื้นบ้านแขกอินเดียสมบูรณ์กว่า
.....

ส่วนนางมณโฑในไทยก็เหมือนกับ ๓ ฉบับรวมกันในหนึ่งเดียว...ของทุก ๆ ฉบับอ่านกันเองดี ๆ นะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น