กำเนิดมนุษย์กับปอบคู่แรก กับไตรภูมิ
โดยชั้นอรูปพรหมจะมีสุขและอายุยืนกว่าชั้นรูปพรหม
แต่พรหมในชั้นนี้ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ ได้แต่เสวยผลบุญอยู่เท่านั้น ส่วนชั้นรูปพรหมสามารถบรรลุธรรมได้
โดยชั้นสูงสุดของรูปพรหมคือ ชั้นอกนิฏฐภูมิ หรือชั้นอกนิฏฐพรหม โดยคนไทยโบราณเชื่อว่าเมื่อเกิดไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลกไฟจะไหม้ขึ้นไปถึงสวรรค์ชั้นพรหม
เหลือแต่ชั้นอกนิฏฐภูมิที่ไฟไหม้ขึ้นไปไม่ถึง
พวกเทวดาทั้งหลายก็จะหนีตายขึ้นขออยู่บนชั้นอกนิฏฐพรหมกันหมด
จนเบียดกันไม่เหลือช่องว่างใด ๆ เลย
จนเมื่อฝนตกหนักมาดับไฟน้ำท่วมโลกจนเหมือนว่าปลาเกือบจะขึ้นไปกินดาวบนฟ้าได้
เมื่อน้ำแห้งลง
พระพรหมชั้นอาภัสสรพรหมต่างก็ได้กลิ่นง้วนดินหอมลอยขึ้นไปจากพื้นโลกถึงชั้นพรหมโลก
เมื่อพรหมชั้นอาภัสสรพรหมตนได้อดใจไม่ได้ ก็เหาะมาลองตักกินดูด้วยความอยากรู้
เมื่อได้ลิ้มรสง้วนดินที่มีรสเหมือนเนยข้นก็เกิดจิตมีกิเลส
จึงกลายเป็นมนุษย์ปรากฏเพศเป็นหญิงชายตามบุญกรรม เมื่อกลายเป็นคนธรรมดาแล้วก็เหาะกลับไปพรหมโลกไม่ได้
จึงจับคู่เป็นสามีภรรยาอยู่บนโลกมนุษย์กลายเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ต่อมา
ซึ่งชาวไทยเรียกบรรพบุรุษคู่แรกของมนุษย์ว่า “ขุนสรวง ขุนหญิงสาง”
ซึ่งอาจจะเป็นตัวแทนของแสงสว่างในอรุณรุ่งของวันใหม่ที่เรียกว่า “ฟ้าสาง” ก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามในตำนานอีสานเรียกว่า ปู่สังกะสา
กับย่าสังกะสี บางท้องถิ่นในล้านนาเรียกว่า ปู่สางสี กับย่าสางไส้ (ปู่แสงสี
ย่าแสงไส้ หรือปู่สองสี ย่าสองไส้ ก็ว่า) แล้วก็ไปผูกกับเรื่องปู่แสะ
กับย่าแสะซึ่งว่าเป็นยักษ์กินคนกับลูก (ที่ต่อมาลูกเป็นฤาษีวาสุเทพแห่งดอยสุเทพและทั้ง 3 เลิกกินคนเพราะพุทธเจ้ามาโปรด) ทำให้ตามความเชื่อเกี่ยวกับตำนานต้นผีไทยจึงกล่าวว่า
นอกจากขุนสรวง ขุนหญิงสางจะเป็นพรหมที่ลงมาเป็นมนุษย์คู่แรกแล้ว เมื่อขุนสรวง ขุนหญิงสางแก่เฒ่ามาก ๆ แต่ไม่ยอมตายก็กลายเป็น ผีปอบคู่แรกด้วย
อนึ่งแม้ว่าชั้นพรหมโลกจะเป็นที่มาเกิดของผู้บรรลุธรรม
แต่พระพรหมที่อยู่ในชั้นพรหมโลก ยกเว้นพรหมธาดา เทพผู้สร้างนั้น พรหมอื่น ๆ ก็เกิดมีมิจฉาทิฐิกลายเป็นมารร้ายได้เหมือนกันเรียกว่า
“อสูรพรหม” น่าจะเป็นรูปพรหมเท่านั้นเพราะแม้จะปราศจากกามราคะ
แต่มีความเห็นผิดและอหังการได้ ซึ่งถ้าอสูรพรหมคิดร้ายทำลายโลกมนุษย์
ดังเช่นอสูรพรหมที่มีตาเป็นไฟหวังจะใช้ตาไฟของตนทำลายล้างโลกพระศิวะก็มีหน้าที่ขึ้นไปปราบและสังหารอสูรพรหมตนนั้น
ดังที่ปรากฏในเรื่องนารายณ์สิบปาง
ตำนานต้นผีไทย
ที่ได้อิทธิพลจากไตรภูมิ
ล.
|
ชื่อ/ชั้น
|
ผู้ปกครอง/กรรม
|
ล.
|
ชื่อ/ชั้น
|
ผู้ปกครอง
|
16
|
สรวงสางฟ้า
|
ขุนสรวง ขุนหญิงสาง
|
12
|
อาภัสรพรหม
|
-
|
15
|
แถนเทียนฟ้า
|
ขุนแถน ขุนหญิงสีทองงาม
|
9
|
มหาพรหมาภูมิ
|
ท้าวพกาพรหม
|
14
|
แผนเมืองฟ้า
|
ขุนแผนดวงฟ้า ขุนหญิงดวงขวัญใจ
|
8
|
พรหมปุโรหิตาภูมิ
|
ท้าวพกาพรหม
|
13
|
เมืองแมนฟ้า
|
ขุนแมนเมืองฟ้า ขุนหญิงสายเฟื่องฟ้า
|
6
|
ปรนิมตวสวัสดี
|
พระสวัตตี และพญามาร
|
12
|
ร่วงเมืองฟ้า
|
ขุนร่วงเมืองฟ้า (พระนารายณ์)
เจ้าแม่ทับทิม (พระศรี) |
5
|
นิมานรดี (ไวกูณฐ์?)
|
พระสุนิมมิต
|
11
|
สันซื่อฟ้า
|
ขุนสันแสงฟ้า ย่าซื้อฟ้า/นาง
|
4
|
ดุสิต
|
พระสันดุสิต
|
10
|
ลายขวัญฟ้า
|
ขุนลายเรืองฟ้า แม่โพสพ
|
3
|
ยามา
|
สยามเทวาธิราช
|
9
|
อินขวัญฟ้า
|
ขุนอินเขาเขียว ขุนหญิงกวักทองมา
|
2
|
ดาวดึงส์
|
พระอินทร์ อินทราณี
|
8
|
ฟ้าสรวง
|
ขุนตะวันร่วงฟ้า ขุนหญิงเดือนงาม
|
1.1
|
นภากาศ
|
พระอาทิตย์ พระจันทร์
|
7
|
ฟ้าหนหาว
|
สี่ปวงผีหาว เช่น ขุนออก
|
1.2
|
จตุมหาราชิกา
|
ท้าวจตุโลกบาล
|
6
|
ใต้ฟ้าสรวง
|
ขุนขวัญเมืองสูง
|
1.1
|
จุตมหาราชิกา
|
อากาสัฏฐเทวดา
|
5
|
จ้าวฟ้าเมือง
|
ขุนคุ้มเมือง (พระทรงเมือง)
ขุนหญิงร่มสีเมือง (แม่ธรณี แม่กำพู)
|
1.0
|
จุตมหาราชิกา
|
นครปริคาหกเทพ
พระเสื้อเมือง ทรงเมือง
|
4
|
จ้าวถิ่นที่
|
ขุนถิ่นที่ (พระภูมิเจ้าที่)
ขุนหญิงสีพราย (แม่จอมขวัญ)
|
1.0
|
จุตมหาราชิกา
|
ภุมเทวดา
|
3
|
จ้าวไม้
|
รุกขเทพ รุกขมินีเทวี
|
1.0
|
จุตมหาราชิกา
|
รุกขเทวดา
|
2
|
จ้าวพราย
|
จ้าวพราย แม่ทรง (ครูผี/พ่อแก่)
|
1.0
|
จุตมหาราชิกา
|
บูรพาจารย์
|
1
|
จ้าวเรือน
|
ผีพ่อเฒ่าเจ้าเรือน
|
1.0
|
จุตมหาราชิกา
|
เคหเทวดา
|
0
|
หล้าแหล่งไทย
|
กษัตริย์
|
0
|
มนุษย์ภูมิ
|
นฤบดี (ราชา)
|
1
|
ผีคน
|
ศพ คนป่า โจรชั่ว
|
0.1
|
มนุษย์ภูมิ (วนา)
|
วนัปปติ (เจ้าป่า)
|
2
|
เบื้อ เยี่ยว ส่ำ
|
หิมพานต์ เมืองลับแล
|
1
|
จตุมหาราชิกา (หิมพานต์)
|
พนัสบดี (สรภะ)
|
3
|
ผีพราย
|
ภูตผี กระสือ ปอบ ฯลฯ
|
1
|
อสุรกายภูมิ
|
เวปจิตติ อสูร
|
4
|
ผีเปรต
|
เปรตภูมิ
|
2
|
เปรตภูมิ
|
มหิทธิกเปรต
|
5
|
ผีร้าย
|
วิญญาณอาฆาต, ผีฉมบ
|
0.2
|
มนุษย์ภูมิ (ไม่ยอมไป)
|
ยมทูต
|
6
|
ผีบอง
|
วิญญาณพเนจร สัมภเวสี
(ผู้ไปเกิด)
|
0.3
|
มนุษย์ภูมิ
|
ยมทูต
|
7
|
ผีขุนยม
|
ยมโลก
|
3
|
นรกภูมิ
|
ยมราช
|
8
|
ผีทุ
|
ทุศีล มีบาปน้อย (เศษกรรม)
|
3.0
|
คูถนรก
|
ยมราช
|
9
|
ผีบัน
|
ปาณาติบาต
|
3.1
|
สัญชีวมหานรก
|
ยมราช
|
10
|
ผีบัด
|
อทินนาทาน
|
3.2
|
กาฬสุตตมหานรก
|
ยมราช
|
11
|
ผีบอด
|
กาเมสุมิจฉาจาร
|
3.3
|
สังฆาฏมหานรก
|
ยมราช
|
12
|
ผีใบ้
|
มุสาวาท
|
3.4
|
โรรุวมหานรก
|
ยมราช
|
13
|
ผีบ้า
|
สุราเมรยมัชชปมาท
|
3.5
|
มหาโรรุวมหานรก
|
ยมราช
|
14
|
ผีบ่ง
|
ทำร้ายผู้มีคุณ
|
3.8
|
อเวจีมหานรก
|
ยมราช
|
15
|
ผีบึ้ง
|
มีมิจฉาทิฏฐิ
|
4
|
โลกันตนรก
|
ยมราช
|
น่าแปลกที่มีการอ้างถึงขุนร่วงเมืองฟ้า ว่าเป็นพระนารายณ์ เป็นคู่กับเจ้าแม่ทับทิม (มาจู่ แม่ย่านาง) ซึ่งเป็นเจ้าแม่มาจากจีนซึ่งเป็นเทพต่างถิ่นแปลงมาเป็นผีไทย และการเปรียบเทียบเจ้าแม่ทับทิบกับพระศรีหรือลักษมี ฯ ที่อาจเทียบได้กับแม่ศรีผีไทย แสดงให้เห็นว่าต้นผีไทยปัจจุบันได้รับอิทธิพลจากเทพฮินดูและเทพเจ้าจีนตามความเชื่อของตำหนักทรงในปัจจุบันของไทย และอาจจะต้องมองว่าคือวรรณกรรมสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนไปตามกระแสความเชื่อใหม่ ๆ ที่อาจจะต้องการสร้างผีฟ้า หรือเทวดาของตนเองขึ้นมา โดยปฏิเสธเทวดาที่เป็นชื่อบาลีสันสกฤต แต่กลับเอาเจ้าแม่จีนตำหนักทรงมาใช้และอ้างถึงความเชื่อฮินดูให้ต้นผีไทยน่าเชื่อถือขึ้น ผสมกับจินตนาการความเชื่อท้องถิ่นซึ่งได้ถูกประสมกับความเชื่อพราหมณ์และพุทธไปนานแล้ว ทำให้ต้นผีไทยไม่ใช่ผีของเดิมแท้จริง แต่ควรมองว่าตำนานต้นผีไทยคือการผสมผสานความเชื่อพราหมณ์ พุทธ ให้เข้ากับผี เป็นการสืบสร้างใหม่เพื่อหาจุดยืนและการยอมรับผีในความเชื่อปัจจุบันของไทยมากกว่า
ความเชื่อต้นผีไทยเหล่านี้เป็นลักษณะร่วมของการผสมผสานทางความเชื่อของเทพต่างถิ่นกับในท้องถิ่นเดิมทั่วโลก ซึ่งก็อาจจะมีการลากเข้าความและการเทียบผิด เช่นพระนารายณ์อยู่ในวิษณุโลก หรือไวกูณฐ์ มีร่างกายเป็นจักรวาลทั้งหมด ไม่ได้อยู่ในสวรรค์ซึ่งอยู่ในร่างกายของพระองค์ หรือรุกขมินีเทวีเรื่องเดิมแท้จากความเชื่อในฮินดู นางเป็นชายาเอกของพระกฤษณะไม่ใช่นางไม้หรือนางอัปสร ในชั้นภุมเทวดา ฯลฯ เป็นต้น
นอกจากนี้เป็นที่ยอมรับกันว่าพระอินทร์เทียบได้กับพญาแถน การที่จัดให้ขุนแถนขึ้นไปเป็นชั้นต่อจากอาภัสราภูมิของปู่สังกะสา ย่าสังกะสี (ขุนสรวง ขุนหญิงสาง ที่เทียบกับอาภัสรพรหมที่ลงมากินง้วนดินตามความเชื่อในวรรณกรรมบาลีของแขกอินเดียนั้น) จึงเทียบได้ว่าพญาแถนคือพกาพรหมที่ปรากฎในวรรณกรรมบาลี และพระอีศวรในตำนานเพลงสาธุการของไทย ก็เพราะอ้างว่าพญาแถนเป็นลูกปู่สังกะสา ย่าสังกะสี ทำให้ต้องมีหรือสร้างขุนอินเขาเขียว พระอินทร์อีกตนหนึ่งในตำนานอื่น ๆ มาอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (ก็รับมาจากแขกอินเดียผ่านวรรณกรรมบาลี) ที่เป็นสวรรค์ชั้นสำคัญในความเชื่อเรื่องไตรภูมิเช่นกัน
อนึ่งการที่สร้างมโนทัศน์ว่า สวรรค์มี 16 ชั้นฟ้า และพิภพเบื้องล่างมี 15 ชั้นดิน + 1 (พื้นดิน/มนุษยภูมิ) ก็เพราะได้อิทธิพลจาก อาภัสราภูมิที่พวกอาภัสรพรหมที่โยงเข้ากับปู่สังกะสา ย่าสังกะสี จนกลายเป็นขุนสรวง ขุนหญิงสาง (ต้นผีไทย) นั้นก็เพราะอาภัสราภูมิเป็นหนึ่งในชั้นรูปพรหมมี 16 ชั้น โดยอาภัสราภูมิเป็นชั้นที่ 6 ส่วนอีกสามชั้นแรกมีพกาพรหมที่อยู่ในชั้นมหาพรหมปกครอง โดยพกาพรหมนี้ปรากฏในตำนานเพลงสาธุการของไทย แล้วถูกเปรียบกับพระอีศวรเทพสูงสุดในศาสนาฮินดู ก็แสดงถึงรอยต่อที่ทับซ้อนกันระหว่างยุคพุทธกาลที่พระอินทร์ พระพรหมเป็นใหญ่ ในขณะที่ยุคปุราณะและศาสนาฮินดูสมัยหลังยกให้เทพองค์อื่น ๆ เป็นอีศวรแทน ทำให้ความสับสนและทับซ้อนนี้ส่งผ่านมาในตำนานต้นผีไทยว่า ขุนแถนหรือพญาแถนอาจจะเทียบได้ทั้งพกาพรหม อีศวร หรือพระอินทร์ ดังนั้นเพื่อจัดระเบียบใหม่ จึงแยกขุนแถนผีไทยยกให้เป็นเทพสูงสุดเทียบได้กับอีศวรในชั้นรองอาภัสราภูมิที่เป็นที่อยู่ของขุนสรวงและขุนหญิงสางที่เป็นเหมือนพ่อแม่ของผีแถนไว้อย่างหนึ่ง และให้มีขุนอินเขาเขียวขึ้นเป็นพระอินทร์ที่รับมาจากแขกอินเดียโดยตรงเลย แล้วก็ยุบสวรรค์ชั้นรูปพรหมลงมาให้เป็น 16 ชั้นเข้ากับ สวรรค์กามภูมิ 6 ชั้น
เพราะสวรรค์ก็ไปเป็นเมืองฟ้าในความคิดไทยที่ยังยึดติดในกามคุณต่าง ๆ และวัตถุนิยม จึงไม่ให้ความสำคัญกับอรูปภูมิที่ปราศจากรูปและกามคุณ กลับมีคำดูถูกเป็นสำนวนไทยว่าเป็น "พรหมรูปฟัก" คือ เปรียบเทียบตีความเองว่า คนขี้เกียจว่าไม่ทำอะไรแขนขาจะหายไปเหมือนพรหมชั้นอรูปภูมิ แท้จริงจิตรกรไทยไม่รู้จะวาดรูปออกมาเป็นอย่างไรเพราะท่านไม่มีรูปจึงวาดแต่เป็นรัศมีออกมาเหมือนรูปฟักตามจิตรกรรมฝนังวัด แต่แล้วคนเข้าวัดแต่มีกิเลสหนาก็เอาอรูปพรหมมานินทาได้ แม้ท่านจะไม่มีรูป ไม่ก่อกรรมทำเข็ญให้ใครก็ไม่วายเว้นจากการถูกด่านินทาจากคนพาลใจบาปอยู่ดี การนินทากันมันปากนี่แหละไทยแท้
หมายเหตุ : อีศวรอาจจะเป็น ศิวะ พระนารายณ์ พระคเณศ ก็ได้ เพราะคำว่าอีศวรแปลว่าผู้เป็นใหญ่ใครนับถือเทพองค์ไหนเป็นใหญ่ก็ว่าเทพของตนเป็นอีศวร
ความเชื่อต้นผีไทยเหล่านี้เป็นลักษณะร่วมของการผสมผสานทางความเชื่อของเทพต่างถิ่นกับในท้องถิ่นเดิมทั่วโลก ซึ่งก็อาจจะมีการลากเข้าความและการเทียบผิด เช่นพระนารายณ์อยู่ในวิษณุโลก หรือไวกูณฐ์ มีร่างกายเป็นจักรวาลทั้งหมด ไม่ได้อยู่ในสวรรค์ซึ่งอยู่ในร่างกายของพระองค์ หรือรุกขมินีเทวีเรื่องเดิมแท้จากความเชื่อในฮินดู นางเป็นชายาเอกของพระกฤษณะไม่ใช่นางไม้หรือนางอัปสร ในชั้นภุมเทวดา ฯลฯ เป็นต้น
นอกจากนี้เป็นที่ยอมรับกันว่าพระอินทร์เทียบได้กับพญาแถน การที่จัดให้ขุนแถนขึ้นไปเป็นชั้นต่อจากอาภัสราภูมิของปู่สังกะสา ย่าสังกะสี (ขุนสรวง ขุนหญิงสาง ที่เทียบกับอาภัสรพรหมที่ลงมากินง้วนดินตามความเชื่อในวรรณกรรมบาลีของแขกอินเดียนั้น) จึงเทียบได้ว่าพญาแถนคือพกาพรหมที่ปรากฎในวรรณกรรมบาลี และพระอีศวรในตำนานเพลงสาธุการของไทย ก็เพราะอ้างว่าพญาแถนเป็นลูกปู่สังกะสา ย่าสังกะสี ทำให้ต้องมีหรือสร้างขุนอินเขาเขียว พระอินทร์อีกตนหนึ่งในตำนานอื่น ๆ มาอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (ก็รับมาจากแขกอินเดียผ่านวรรณกรรมบาลี) ที่เป็นสวรรค์ชั้นสำคัญในความเชื่อเรื่องไตรภูมิเช่นกัน
อนึ่งการที่สร้างมโนทัศน์ว่า สวรรค์มี 16 ชั้นฟ้า และพิภพเบื้องล่างมี 15 ชั้นดิน + 1 (พื้นดิน/มนุษยภูมิ) ก็เพราะได้อิทธิพลจาก อาภัสราภูมิที่พวกอาภัสรพรหมที่โยงเข้ากับปู่สังกะสา ย่าสังกะสี จนกลายเป็นขุนสรวง ขุนหญิงสาง (ต้นผีไทย) นั้นก็เพราะอาภัสราภูมิเป็นหนึ่งในชั้นรูปพรหมมี 16 ชั้น โดยอาภัสราภูมิเป็นชั้นที่ 6 ส่วนอีกสามชั้นแรกมีพกาพรหมที่อยู่ในชั้นมหาพรหมปกครอง โดยพกาพรหมนี้ปรากฏในตำนานเพลงสาธุการของไทย แล้วถูกเปรียบกับพระอีศวรเทพสูงสุดในศาสนาฮินดู ก็แสดงถึงรอยต่อที่ทับซ้อนกันระหว่างยุคพุทธกาลที่พระอินทร์ พระพรหมเป็นใหญ่ ในขณะที่ยุคปุราณะและศาสนาฮินดูสมัยหลังยกให้เทพองค์อื่น ๆ เป็นอีศวรแทน ทำให้ความสับสนและทับซ้อนนี้ส่งผ่านมาในตำนานต้นผีไทยว่า ขุนแถนหรือพญาแถนอาจจะเทียบได้ทั้งพกาพรหม อีศวร หรือพระอินทร์ ดังนั้นเพื่อจัดระเบียบใหม่ จึงแยกขุนแถนผีไทยยกให้เป็นเทพสูงสุดเทียบได้กับอีศวรในชั้นรองอาภัสราภูมิที่เป็นที่อยู่ของขุนสรวงและขุนหญิงสางที่เป็นเหมือนพ่อแม่ของผีแถนไว้อย่างหนึ่ง และให้มีขุนอินเขาเขียวขึ้นเป็นพระอินทร์ที่รับมาจากแขกอินเดียโดยตรงเลย แล้วก็ยุบสวรรค์ชั้นรูปพรหมลงมาให้เป็น 16 ชั้นเข้ากับ สวรรค์กามภูมิ 6 ชั้น
เพราะสวรรค์ก็ไปเป็นเมืองฟ้าในความคิดไทยที่ยังยึดติดในกามคุณต่าง ๆ และวัตถุนิยม จึงไม่ให้ความสำคัญกับอรูปภูมิที่ปราศจากรูปและกามคุณ กลับมีคำดูถูกเป็นสำนวนไทยว่าเป็น "พรหมรูปฟัก" คือ เปรียบเทียบตีความเองว่า คนขี้เกียจว่าไม่ทำอะไรแขนขาจะหายไปเหมือนพรหมชั้นอรูปภูมิ แท้จริงจิตรกรไทยไม่รู้จะวาดรูปออกมาเป็นอย่างไรเพราะท่านไม่มีรูปจึงวาดแต่เป็นรัศมีออกมาเหมือนรูปฟักตามจิตรกรรมฝนังวัด แต่แล้วคนเข้าวัดแต่มีกิเลสหนาก็เอาอรูปพรหมมานินทาได้ แม้ท่านจะไม่มีรูป ไม่ก่อกรรมทำเข็ญให้ใครก็ไม่วายเว้นจากการถูกด่านินทาจากคนพาลใจบาปอยู่ดี การนินทากันมันปากนี่แหละไทยแท้
หมายเหตุ : อีศวรอาจจะเป็น ศิวะ พระนารายณ์ พระคเณศ ก็ได้ เพราะคำว่าอีศวรแปลว่าผู้เป็นใหญ่ใครนับถือเทพองค์ไหนเป็นใหญ่ก็ว่าเทพของตนเป็นอีศวร
👻👻👻👻👻👻👻
ผีฟ้า พญาแถน
ปู่สังกะสา ย่าสังกะสี
ปูแสะ ย่าแสะ
As reported by Stanford Medical, It's indeed the ONLY reason women in this country live 10 years more and weigh 19 KG lighter than us.
ตอบลบ(By the way, it has totally NOTHING to do with genetics or some secret exercise and EVERYTHING to do with "how" they are eating.)
P.S, What I said is "HOW", and not "what"...
CLICK on this link to uncover if this easy test can help you unlock your true weight loss potential