วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ราศีปีศาจที่ 65 แอนเดรียลฟัส 10-14 ก.พ.


ราศีปีศาจที่ 65 แอนเดรียลฟัสประจำวันที่ 10-14 ก.พ.

Andrealphus in peacock form

      😈 แอรเดรียลฟัส Andrealphus ในฐานะพญามารแห่งความรู้ ผู้คุมกองทัพผีและปีศาจ 30 กองพล แอนเดรียลฟัสจะปรากฏตัวเป็นนกยูงและส่งเสียงดัง ก่อนที่จะปรากฏในร่างมนุษย์ โดยมีอำนาจในการให้ความรู้เกี่ยวกับรูปทรงเรขาคณิต การวัด การเจรจาต่อรอง และดาราศาสตร์ ชื่อว่าพญามารตนนี้สามารถเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายร่างเป็นนกได้

ภาพ ดวงตรามารแห่งแอนเดรียลฟัส


Peacock and devil eyes

     😈  การทำให้คนกลายเป็นนกคงหมายถึงการทำให้บินได้ทำให้นึก วิทยาธรบางจำพวกในวรรณคดีสันสกฤตที่กล่าวว่า "มีวิทยาธรบางจำพวกสามารถประดิษฐ์ปีกใส่แล้วบินไปได้ในอากาศ บางจำพวกก็อาศัยของวิเศษ และเวทมนต์ต่าง ๆ เป็นต้น"


   😈 ตรงนี้ในตำนานกรีกเรื่องปีกขี้ผึ้งของ อิคารัส Icarus ลูกชายของเดดาลัส Dedalus ; ที่คล้ายกับเรื่องลูกพญาครุฑสดายุ และพี่ชายสัมพาที บินเข้าหาดวงอาทิตย์ แต่สิ่งเหล่านี้คงกลายเป็นอำนาจของปีศาจ ความอิจฉาของมนุษย์ที่มีต่อนก หรือความฝันไร้สาระจนกว่าจะถึงยุคที่คนคิดเครื่องบินได้จริง

Wright brothers 1903

    😈 ย้อนกลับถึงเรื่องนกยูง นกยูงเป็นสัตว์ที่สวยงาม ดุร้าย จึงเป็นสัญลักษณ์ความงาม แห่งความหยิ่งยโสเช่นเดียวกัน ซึ่งในตำนานที่เก่าแก่ต่างก็มักจะมีการผูกเรื่องที่เกี่ยวกับนกยูงไว้กับเทวดา และปีศาจเสมอ

ภาพ กลุ่มดาวนกยูง (pavo the peacock constellation)

   😈 ตำนานดาวนกยูงคือ อาร์กอส (Argos/ Argus ชื่อเดียวกับยักษ์พันตายามเฝ้าสวนและรักษาวัวของเฮร่า) แต่ผู้นี้คือช่างต่อเรืออาร์โกให้เจสันเดินทางไปหาขนแกะทองคำได้เปลี่ยนร่างเป็นนกยูงหลังความตายด้วยความช่วยเหลือของราชินีสวรรค์เฮร่า (เทพีจูโนของโรมัน) เพื่อบินตามไปดูเรือที่เขาสร้างก่อนที่จะบินขึ้นสวรรค์ไปกลายเป็นกลุ่มดาวนกยูง ซึ่งจากกลุ่มดาวนกยูงตัวเดียวแล้ว ยังมีนกยูงแฝดด้วยนั้นคือกลุ่มดาวคนคู่หรือราศีเมถุนนั้น ก็ถูกชาวอาหรับโบราณมองเป็นนกยูงคู่เช่นกัน


ภาพ เทพเมเลก เตาส (Melek Taus) นกยูงของชาวยาซิดิส

       😈 เชื่อว่าการนับถือเทพโบราณเช่นเทพเมเลก เตาส (Melek Taus) ของชาวยาซิดิส (Yazidis) (ตอนเหนือของอีรัก ซีเรีย และตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี) อาจจะเป็นเหตุให้มีการนำนกยูงมาเป็นปีศาจใน 72 ตนของพระเจ้าสุลัยมาน

Kujaku spirit

     😇 แต่ตำนานที่กล่าวถึงนกยูงในฐานะสัตว์แห่งเทพเจ้าก็ปรากฏในตำนานกรีกโบราณคือ นกยูงของราชินีสวรรค์เฮร่า ผู้เป็นมเหสีเอกของเทพซูส เทพสูงสุดแห่งอารยธรรมกรีกโรมัน (โรมันเรียกจูปีเตอร์ว่าเป็นดาวพฤหัสบดี) ในตำนานกรีกกล่าวว่า ครั้งหนึ่งซูสเล่นชู้กับนางไอโอ (Io) ธิดากษัตริย์อินาคัส (Inachus) แห่งเมืองอาร์กอส (Argos) นางไอโอเคยเป็นสาวกของเทพีเฮรา และเป็นชายาลับคนหนึ่งของซีอุส ผู้ถูกซีอุสเปลี่ยนให้เป็นวัวทันทีก่อนที่เฮรา ชายาเอกของซีอุส และราชินีสวรรค์จะจับได้ว่าซีอุสเล่นชู้กับนางไอโอในก้อนเมฆชั่วเวลาเสี้ยววินาที แต่ด้วยความฉลาดเทพีเฮราจึงขอแม่วัวตัวนั้นไป และให้ยักษ์พันตา อาร์กัส (Argus) เฝ้าไว้ ทำให้นางไอโอผู้เคยเป็นสาวงามต้องทุกข์ทรมานในร่างของแม่วัว ซีอุส (ดาวพฤหัสบดี) จึงไปขอความช่วยเหลือจากฮาร์เมส Hermes หรือเมอคิวรี่ Mercury เทพแห่งการสื่อสาร (ดาวพุธ) เทพเมอคิวรี่จึงไปหาอาร์กัส และพูด ๆ เรื่องน่าเบื่อจนดวงตาทั้งพันของยักษ์พันตาอาร์กัสค่อยหลับลงหมดและอาร์กัสก็ได้ตายไปในเวลานั้นด้วยเพราะความเบื่อหน่ายเรื่องราวที่ได้ฟังจากเทพเมอร์คิวรี่ แล้วเทพเมอร์คิวรี่ก็ปล่อยให้นางไอโอในร่างวัวหนีไป นางไอโอจึงวิ่งหนีไปถึงอียิปต์ และซีอุสจึงกลับคืนร่างให้นางเป็นมนุษย์แล้วนางจึงให้กำเนิดบุตรชายคนเดียวที่นั้นคือ  อีปาพุส Epaphus (บรรพบุรุษของนางยูโรป้า และเปอร์ซีอุส Perseus) ฝ่ายเทพีเฮราโกรธเทพเมอร์คิวรี่มากจึงขอให้เทวสภาลงโทษเทพเมอร์คิวรี่ แต่เทพเมอร์คิวรี่ก็อ้างว่าการทำให้คนเบื่อจนตายจะถือเป็นความผิดได้อย่างไรจึงรอดตนไป หลังจากนั้นเฮราจึงเอาตาทั้งพันของยักษ์อาร์กัสประดับหางของนกยูง นกประจำตนจึงกลายเป็นแววมยุราของนกยูงในปัจจุบัน 
    😈 นอกจากนี้ก็มีเรื่องเล่าว่า อาร์กอส (Argus/Argos) ซื่อเดียวกับยักษ์พันตาของเฮร่า แต่อาร์กอสนี้เป็นคนซึ่งเป็นผู้ต่อเรืออาร์โก เพื่อให้เจสันใช้เดินทางไปหาขนแกะทองคำ แต่ต่อมาเขาได้ตาย และได้วิญญาณได้เข้าไปสิงร่างนกยูงเพื่อติดตามเรือที่เขาสร้างขึ้น (ดึงใหญ่เกี่ยวกับนกยูงจนได้)

  😈  เนื่องจากนกยูงเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ราชินีสวรรค์เฮร่า บ้างครั้งชาวกรีกก็ถือว่านกยูงเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะ เทียบเท่ากับนกฟินิกซ์ (Phoenix แสดงว่าภาพลักษณ์ของนกฟินิกซ์ จากนกกระสาอียิปต์ก็กลายมาว่าใกล้เคียงกับนกยูงในกรีกนี้เอง) 

ภาพ นกยูงศักดิ์สิทธิ์ในคริสตศาสนาบางนิกาย (กลุ่มดาวนกยูงคู่ของอาหรับโบราณ Gemini)


   😈 นอกจากนี้นกยูงยังเป็นสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าสำหรับชาวคริสต์ในยุคหลังพระเจ้าสุลัยมาน ซึ่งเชื่อว่าแววมยุราบนขนหางของนกยูงเป็นเหมือนพระเนตรของพระผู้เป็นเจ้าที่สามารถมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ภาพของนกยูงคู่ (กลุ่มดาวราศีเมถุนคติอาหรับโบราณ) ที่กำลังดื่มน้ำจากแจกันถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของการดื่มน้ำแห่งชีวิตนิรันดร์ และแววมยุราบนขนหางนกยูงจึงถูกใช้แทนตำแหน่งของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวบนท้องฟ้า ดังนั้นนกยูงจึงเป็นสัญลักษณ์ของการศึกษา และชีวิตนิรันดร์ในคริสตศาสนาโบราณบางนิกาย ในขณะที่อารยธรรมบาบิโลเนียน และเปอร์เซีย นกยูงคือสัญลักษณ์ในการพิทักษ์ปกป้องราชวงค์ของกษัตริย์ (ราชวงศ์โมริยะ อินเดีย?)


Hera godress in Siant Seiya Japan Anime

   😈 ในอินเดียนกยูงสัตว์ดุร้ายได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนาคศัตรูคือ ครุฑ (อินทรีทอง) สิงห์ (สิงโตอินเดีย) และนกยูง เพราะนกยูงอินเดียตัวใหญ่และดุมากขนาดฆ่างูจงอางอินเดียเอาไปกินเป็นอาหารได้ โดยในตำนานอินเดียก็กล่าวนกยูงเกิดจากอสูรแต่ต่อมาได้กลายเป็นพาหนะของพระขันธกุมาร โดยตำนานในสกันธบุราณะสำนวนอินเดียใต้ได้กล่าวว่า หลังจากพระมุรุคา หรือพระขันธกุมาสังหาร ศูรปัทมา อสูรร่างของอสูรได้แบ่งเป็นสองส่วนส่วนหนึ่งกลายเป็น นกยูง และอีกส่วนกลายเป็นไก่ พระมุรุคาใช้นกยูงเป็นพาหนะส่วนไก่เป็นธงสัญลักษณ์ ส่วนในพรหมัณฑมหาปุราณะว่าเมื่อพระขันธกุมารจะไปสู้กับตารกาสูรพระนารายณ์ให้ครุฑมอบบุตรของตนคือ นกยูงและไก่เป็นพาหนะแก่พระขันธกุมาร ส่วนธงได้รับการมอบจากพระวายุ (ตำนานในสกันธปุราณะสำนวนใต้จะเป็นที่นิยมกว่า)

Skanda Kumar & Peacock

   😈 พระสรัสวดีเดิมคือแม่น้ำสายสำคัญของชาวอารยันในอินเดียแต่ปัจจุบันแห่งหายไป แต่ปัจจุบันยังได้รับการบูชาว่าคือชายาของพระพรหมซึ่งบางตำนานว่าคือพระนางคายตรี (ชื่อบทมนต์สำคัญในพระเวท) แต่บางตำนานก็ว่าเป็นคนละองค์กัน ดังนั้นในนาฏกรรมการแสดงบ้างครั้งเพลงจะร้องเกี่ยวกับชายาทั้งสามของพรหมคือนางสรัสวดี นางคายตรี และนางสาวิตรี (คนละคนกับภรรยาสัตยวาน ชื่อโหล) ดังในการสวดสรรเสริญคณะเทพประจำทิศต่าง ๆ ตามความเชื่อเรื่องวาสตุ (ฮวงจุ้ยแบบอินเดีย) ในเพลงชุดการแสดงนวศานติ ในเพลงพรหมศานติ (พระพรหมเป็นเทพศูนย์กลางของทิศทั้งแปด) กลับสวดทั้งสามพระนามของแต่ละชายาเหมือนเป็นคนละองค์ อาจจะเพราะมีตำนานที่กล่าวว่า สมัยที่จะทำพิธีในสวรรค์ แต่นางสรัสวดีแต่งตัวมาช้า พระพรหมจึงให้หญิงสาวใช้ผู้ภักดีตนหนึ่งแต่งตัวมาเข้าพิธีแทน สาวคนนั้นคือนางคายตรี และนับแต่นั้นมานางก็ได้ชื่อว่าเป็นชายาคนหนึ่งพระพรหม ซึ่งบางตำนานก็ว่านางคายตรีเป็นตนเดียวกับนางสาวิตรี 

   😈 อย่างไรก็ตามนกยูงและหงส์เป็นพาหนะของสรัสวดี ส่วนคายตรีโดยมากจะทรงหงส์ เนื่องจากเจ้าแม่แห่งความรู้ทรงนกยูงนกยูงจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งปัญญาด้วย แต่เนื่องจากนกยูงนั้นสวยงามนกยูงจึงเป็นสัญลักษณ์ความงามด้วยเช่นกัน

Saraswati Hindu godress & peacock

   😈 พระกฤษณะก็เป็นเทพอีกตนผู้ชอบเอาขนนกยูงมาประดับเศียรเป็นปิ่นจนได้เชื่อว่าเป็นเทพแห่งนกยูง วัว และคนเลี้ยงวัว เป็นต้น 

Lord Krishna & peacock's feather

  😈 ซึ่งแม้ว่านกยูงจะเป็นสัญลักษญ์ความรู้และความงาม นกยูงยังเป็นสัญลักษณ์ของความหยิ่งและอัตตาอีกด้วย ดังเช่นนางสุชาดาชายาพระอินทร์สมัยชาติที่เป็นมนุษย์เป็นชายาของมฆวานบัณฑิต โดยมัฆวานบัณฑิตเป็นเศรษฐีได้ชวนเพื่อน 33 คนให้ทำสาธารณะประโยชน์ (หนึ่งในนั้นมีเทพแห่งปัญญา พระทักษะประชาบดีด้วย) แต่นางสุชาดาคิดว่าตนเป็นภรรยาหลวงเมื่อสามีทำอะไรเธอก็ต้องได้วัน ๆ จึงเอาแต่แต่งตัว ดังนั้นเมื่อตายไป มฆวานบัณฑิต และชายารองอีกสามคือ สุธรรมา สุนันทา สุจิตรา กับเพื่อนอีก 33 จึงไปเกิดเสวยสุขชั้นดาวดึงส์ ส่วนนางสุชาดาเพียงผู้เดียวไปเกิดเป็นนกยูงในป่าหิมพานต์ มฆวานบัณฑิตซึ่งได้ไปเกิดเป็นพระอินทร์จึงต้องลงมาสอนให้รักษาศีลสิ้นกรรมไปเกิดเป็นมนุษย์อยู่หลายสิบชาติแต่บารมีก็ไม่มากพอจะไปเป็นชายาบนสวรรค์ของอินทร์ จนชาติสุดท้ายเกิดเป็นธิดาอสูรเวปจิตติ พระอินทร์รู้ว่ามีบารมีพอแล้ววันสยุมพรให้นางสุชาดาเลิกคู่ จึงแปลงเป็นอสูรชรามาให้นางเลิกด้วยบุพเพสันนิวาส นางจึงเลือกพระอินทร์ และพระอินทร์ก็อุ้มนางมาเป็นมเหสีคนที่สี่แต่ใหญ่กว่ามเหสีอื่นใส่ตำแหน่งอินทราณี 

    😈 ในรามเกียรติไทยบางสำนวนโยงว่าที่เมฆนาถมารบกับพระอินทร์เพราะจะมาขอนางสุชาดา แต่พระอินทร์มาลักไปก่อนจึงตามมารบพร้อมกับกองทัพท้าวเวปจิตติ แต่พอชนะเก็บของวิเศษของพระอินทร์ได้แล้วก็ไม่ติดใจไปเอานางคืนมา เพราะดีใจที่ได้ชื่อใหม่ว่า "อินทรชิต"

    😈 เชื่อว่านางสุชาดาเป็นตนเดียวกับ ศจีชายาพระอินทร์ เพราะครั้งหนึ่งพญาอสูรเวปจิตติช่วยชยันตะบุตรพระอินทร์และนางศจีไว้ในสงครามเพราะเห็นว่าเป็นหลาน แสดงว่าศจีคือสุชาดาที่มีพ่อเป็นอสูรเวปจิตติ

      😈 โดยในปุราณะของอินเดียก็มีเรื่องเล่าที่นางอุมาเทวีถูกศืวะพิโรธถูกสาปเป็นนกยูง เมื่อบำเพ็ญบารมีบูชาจนศิวะพอใจก็จึงได้พ้นสาปกลับคืนเป็นชายาพระศิวะใหม่ซึ่งเป็นตำนานท้องถิ่นของวัดสำคัญในอินเดียใต้เช่นที่ไมลาโปร และกาญจีบุรัมเป็นต้น (เป็นจุดเชื่อมต่อที่แสดงการซ้อนทับกันระหว่างพระอินทร์เทพสูงสุดในพระเวท กับพระศิวะเทพสูงสุดในไศวะนิกาย)

  😈 แต่ที่น่าสนใจคืออิทธิพลของสัญญะต่าง ๆ ของฮินดูที่เดินทางสู่พุทธศาสนา ที่ผสมผสานกับแนวคิดเรื่องธรรมชาติพุทธะ (ของมหายาน) และมารดาแห่งสรรพชีวิต (อาทิปราศักติ์ของตันตระ +มารดาแห่งเต๋าของจีน) ทำให้เกิดการเปลี่ยนพระโพธิสัตว์เพศชายเป็นหญิง โดยอาจอ้างเรื่องที่พุทธมารดาเทพบุตรจากสวรรค์ชั้นดุสิตแปลงเป็นสตรีเพศมาเฝ้าพุทธเจ้าในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อสร้างความสนิทสนมตามประสาโลก แต่พุทธเจ้าผู้ตรัสรู้แล้วเข้าใจและทูลขอให้คืนร่างเป็นเทพบุตร พุทธศาสนามหายานจึงเอาตรงนี้เป็นมูลเหตุว่าพระโพธิสัตว์สามารถจำแลงร่างเป็นสตรีได้ถ้าจะใช้เป็นกุศโลบายในการโปรดสรรพสัตว์ตามสมควร เพื่อเรียกศรัทธาจากสตรีเพศที่อาจจะใจกว้างทำบุญได้ง่ายกว่าบุรุษซึ่งอาจจะนิยมเต๋า และขงจือที่ให้อำนาจชายเป็นใหญ่กว่าพุทธ และมีเรื่องตันตระแบบจีนเกี่ยวข้อง (หมายถึงความเชื่อเรื่องการขโมยธาตุหยางจากคู่เสพสังวาสเพื่อให้ได้เป็นเซียน ดังปรากฏในเรื่อง "ไคเภ็ก")

ภาพ มหามยุรีวิทยาราชามหาธารณี 

     😈 มหามยุรีหรือมหามยุรีวิทยาราชามหาธารณี (孔雀明王) พระโพธิสัตว์แห่งความรู้ ผู้กลืนเอาบุคลิกภาพของเทพผู้มีนกยูงเป็นสัญลักษณ์หรือพาหนะ ไม่ว่าจะเป็นพระขันธกุมาร คายตรีเทวี สรัสวดีเทวี กฤษณะ ฯ ไว้ โดยในตำนานฝ่ายจีนว่าเป็นมารดาแห่งพุทธเจ้าทั้งปวงมีนามว่า "มหามยุรีวิทยาราชนี" ส่วนคุณลักษณ์ในการปราบมารไปอยู่กับพระเวทโพธิสัตว์ซึ่งได้รับอิทธิพลจากพระขันธุกุมารเหมือนกัน แต่ในญี่ปุ่นพระมหามยุรีที่ญี่ปุ่นเรียกว่า คุจากุ - โอ (Kujaku-Oh) ยังคงเป็นเทพปราบมารเช่นพระขันธกุมาร ซึ่งความเชื่อเรื่องพระมหามยุรีของญี่ปุ่นนี้มีการซ้อนทับกับจุณฑีโพธิสัตว์ของจีน

ภาพ พระจุณฑีโพธิสัตว์มาช่วยฝ่ายนาจาทำสงครามในห้องสิน
      😈  พระโพธิสัตว์จุณฑี  (准提道人/ 準提道人 ) ในจีนปรากฏตนในเรื่องห้องสินมาช่วยฝ่ายนาจารบ ซึ่งแม่ทัพข่งเสวียนฝ่ายตรงข้ามแพ้ก็กลับร่างเดิมเป็นนกยูงตาเดียว พระโพธิสัตว์จุณฑีก็ขี่กลับสวรรค์ไป ทำให้กลายเป็นว่าพระโพธิสัตว์จุณฑีก็ทรงนกยูงด้วย ตามตำนานจีนซึ่งความเป็นมาพระโพธิสัตว์จุณฑีคือพุทธมารดาสัมโภคกาย (กายทิพย์) ของพระพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปของเรา (ตำนานพญากาเผือก? อิทธิพลควันหลงจากมหายานขอม) แต่ในเรื่องห้องสินกลับปรากฏเป็นเซียนเฒ่าเพศชายดังภาพบน โดยในจีนบางนิกายก็แยกว่าจุณฑีโพธิสัตว์เป็นพระโพธิสัตว์คนละองค์กับมหามยุรี



ภาพโพธิสัตว์ผีหลานผัวมาช่วยเฮงเจียปราบปีศาจตะขาบพันตาในเรื่องไซอิ๋ว (จีนเรียก "ซีโหยวจี")

  😈 พระโพธิสัตว์ผีหลานผัว (ผีหลานผัวผู่สัก 毗藍婆菩薩) ในเรื่องไซอิ๋วมาช่วยไซอิ๋วปราบปีศาจตะขาบพันตาซึ่งเป็นศิษย์พี่ของปีศาจแมงมุม และในบางตำนานกล่าวว่าพระโพธิสัตว์ผีหลานผัวเป็นอวตารของพระอากาศครรภโพธิสัตว์ (虛空藏菩薩) ซึ่งโพธิสัตว์ผีหลานผัวทรงไก่คือดาวลูกไก่ หรือดาวกฤติกาลูกชายแสดงว่าพระโพธิสัตว์ผีหลานผัวคือดาวแม่ไก่ (ดาวภารนี) ซึ่งอยู่ในราศีพฤกษภเหมือนกัน ส่วนพระโพธิสัตว์อากาศครรภะทรงหงส์ซึ่งหงส์จีนคล้ายนกยูงมากจึงมักมีการสับสนระหว่างพระโพธิสัตว์จุณฑี พระโพธิสัตว์มหามยุรี และพระโพธิสัตว์อากาศครรภะ

😇😇😇😇😇😇

      😇 สำหรับผู้ที่เกิดวันที่ 10-14 ก.พ. มีดามาบีอาห์ Damabiah เป็นเทวทูตสวรรค์ของน้ำพุแห่งปัญญา พระองค์นำความบริสุทธิ์ความอ่อนโยนและความดีมาสู่ชีวิตของมนุษย์ พระองค์สามารถช่วยให้มนุษย์ก้าวหน้าในทุกด้านของชีวิตในวิธีการที่ง่ายและดีงาม Dambiah สามารถช่วยคุณแก้ไขสถานการณ์ที่กระทบกระเทือนต่อชีวิตได้ โดยพระองค์จะนำความบริสุทธิ์ใจความไม่เห็นแก่ตัวการอุทิศตนและความรักที่ไม่มีเงื่อนไขมาสู่ชีวิตของคุณ ดามาบิอาห์ Damabiah Angel of Wisdom สามารถช่วยให้มนุษย?รักษาสมดุลในอารมณ์และความรู้สึกของตนเอง พระองค์สามารถช่วยให้มีธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

    😇 ดามาบิอาห์ เทพทูตสวรรค์แห่งความรู้ Damabiah Angel of Wisdom เป็นเทวทูตสวรรค์ที่คุณต้องการในเวลาที่เกิดปัญหาและต้องการสติปัญญา พระองค์สามารถควบคุมรักษาพฤติกรรมที่มากเกินไปและในภาวะที่ถูกกดดัน ดามาบีอาห์ Damabiah สามารถคืนคุณค่าทางจิตวิญญาณของใครก็ได้เช่น ความดี ความเอื้ออาทร ความบริสุทธิ์ และความบริสุทธิ์ใจ ควรอธิษฐานในวิถีทางของพระองค์เมื่อคุณกลัวความล้มเหลว ดามาบีอาห์ Damabiah Angel of Wisdom สามารถแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่ดีเช่นความโกรธความก้าวร้าว การสูญเสียชีวิตชีวา ความรู้สึกไม่แน่นอนและอารมณ์ป่วนอื่น ๆ ควรอธิษฐานเพื่อการปกป้องของพระองค์เมื่อมนุษย์ทั้งหลายหวาดกลัวต่อพายุ หรือการล่มของเรือ

ภาพ เทวทูตสวรรค์แห่งความรู้ ดามาบิอาห์


😇😇😇😇😇😇

the peacock spirit sword: Bleach, Japanese Anime 2004-2012

Saint of peacock star, Saint Seiya

Saint of peacock star, Saint Seiya


Kujaku godress in old live acting , Japanese


Kujaku-Oh (spirit worrior) Japanese Cartoon

The Peacock King, Hongkong&Japanese movie 1988

saga of the phoenix, Hongkong&Japanese movie  1990

Walt disney, Peacock character dancing

Dressed peacock singer 1

Dressed peacock singer 2

Dressed peacock fashion show

Mayil attam or Peacock dancing in Southern India

วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ไม่มีพุทธาวตารของพระนารายณ์ในอินเดีย


    😇 เรื่องพุทธาวตารคนดีผู้หลอกลวง ไม่มีในศาสนาฮินดูของอินเดีย ซึ่งในตำรานารายณ์สิบปางยี่สิบปางฉบับไทยที่กล่าวถึงพุทธาวตารก็น่าจะแปลมาจากอังกฤษได้รับอิทธิพลจากปุราณะสมัยหลังไม่ใช่ของเก่าดังเดิม ตามเรื่องที่ยกย่องว่าพุทธองค์เป็นอวตารของพระนารายณ์ผู้ไปหลอกให้อสูรตรีปุระเลิกบูชาพระศิวะลึงค์จะได้ถูกพระศิวะสังหารได้ ความจริงที่มาของตำนานนี้มาจากเรื่องทศกัณฐ์ขอพระศิวะลิงค์จากพระศิวะไปลังกา แต่พระคเณศแปลงเป็นเด็กแล้วมาหลอกเอาไป ส่วนอสูรตรีปุระในปุราณะอินเดียมีสามตนตามชื่อพระศิวะทำลายเมืองอสูรทั้งสามเมืองของพวกอสูรตรีปุระทั้งสามเมืองที่สร้างขึ้นด้วยดวงตาที่สาม อสูรสองตนตายไปพร้อมกับความพินาศของเมือง แต่มีตนหนึ่งหนีไปได้เพราะเป็นสาวกของพระศิวะ

     
    😈 แต่พอเล่ามาถึงเมืองไทยพวกพราหมณ์ไทยก็เล่าใหม่ว่าอสูรตรีปุระเป็นอสูรเพียงตนเดียวมี่ได้พรว่าให้พระนารายณ์ฆ่าไม่ได้ และได้ศิวลึงค์ของพระศิวะไปบูชา ก่อนฆ่าอสูรพระนารายณ์ต้องอวตารเป็นพุทธองค์ไปหลอกเอาศิวะลึงค์ไป แล้วพอพระศิวะใช้กำลังพระนารายณ์เป็นศรพระนารายณ์ก็หลับไปตามพรที่อสูรได้รับ พระศิวะจึงสังหารอสูรด้วยตาที่สาม ตรงนี้ถ้าถามว่าเรื่องนี้ที่อิยเดียมีไหมก็อาจจะมี แต่ไม่ได้รับการนับถือจากพวกพราหมณ์แต่อย่างใด   เพราะในอินเดียมีปุราณะมากมายแต่เรื่องที่นิยมคือเรื่องทศกัณฐ์กับศิวลึงค์เท่านั้น ส่วนเรื่องที่ว่าพุทธเจ้าฮินดูรับไปเป็นพุทธาวตารก็เป็นตำนานอีกเรื่องต่างหากไป ซึ่งไม่ได้เป็นการพยายามกลืนพุทธของศาสนาฮินดู แต่เกิดขึ้นจากการกลมกลืนทางศาสนาและวัฒนธรรมตามธรรมชาติ เพราะในอินเดียพุทธกับพราหมณ์ก็อยู่ร่วมกันได้ด้วยดี แม้จะมีการขัดแย้งกันทางด้านความคิดแต่พุทธกับฮินดูรบกันทางปัญญาใช้เหตุผลโต้เถียงกัน เพราะมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมอินเดียเหมือนกัน

รูป พระคเณศแปลงเป็นเด็กหลอกเอาศิวะลึงค์จากทศกัณฐ์ (ราวณะ) ไม่ใช้พุทธเจ้า หรือพระนารายณ์
ที่มา http://ultimatelight.blogspot.com/2012/10/atmalinga-wiki-youtube-ganesha.html

     😈 แต่กษัตริย์ฮินดู และอิสลามเองที่ใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือทำลายกันเอง ในยุคหลังกษัตริย์เป็นพุทธหรือ? อินเดียมีศาสนามากดังนั้นกษัตริย์อินเดียก็จะเลือกอุปถัมภ์ศาสนาที่ส่งเสริมให้ตนมีอำนาจนั้นแหละ นอกจากมหาจักรพรรดิอินเดียที่ยิ่งใหญ่จริงอย่างพระเจ้าจันทรคุปตะที่นับถือไชนะ และพระเจ้าอโศกที่นับถือพุทธ และใช้พุทธเป็นเครื่องมือขยายอิทธิพลทางศาสนาและปกครองใจคน ยุคนี้น่าจะเกิดเรื่องพุทธาวตารเป็นปางหนึ่งพระนารายณ์ขึ้น เพื่อประนีประนอมระหว่างพุทธที่มีอำนาจทางการเมือง และฮินดูที่ยังมีคนนับถืออยู่พอสมควร เพราะพราหมณ์กุมความรู้ทางโลกิยะไม่ว่าจะเป็นกามสูตร โหราศาสตร์ และพิชัยสงคราม ฯลฯ ที่พุทธปฏิเสธ แต่อย่างไรก็ตามเป็นยุคที่พุทธศาสนารุ่งเรืองสูงสุดในอินเดีย ปรากฏวรรณคดีทางปรัชญาและวรรณกรรมทางพุทธศาสนามากมายซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่ได้จากการผสมกลมกลืนและวิวาทวาทะกับพวกไชนะ และฮินดู

     😈 แต่ต่อมาอิทธิพลของอิสลามและคริสต์เข้ามาในอินเดียทั้งสองศาสนามีบทบาทให้คนยากจนลุกขึ้นสู้กับความไม่เป็นธรรมของสังคมด้วยความรุนแรงมากกว่าพุทธศาสนา  อีกด้านหนึ่งในอินเดียพุทธศาสนาอาจจะเข้ามามีบทบาททางการเมืองมากก็จริง แต่ไม่แฝงอยู่กับวิถีชีวิตอินเดีย เรียกว่าเผาวัดจับพระสึกก็หมด ในขณะที่พราหมณ์แต่งงานมีลูกหลานได้ ถึงเผาเทวลัยฆ่าพราหมณ์รักษาเทวลัยที่บ้านลูกเมียที่เป็นพราหมณ์ก็ยังอยู่ เช่นเดียวกับ คริสต์ และอิสลาม ที่มีสังคมเหนี่ยวแน่นมากกว่าความเป็นปัจเจกชนและความสันโดษของพุทธ ในยุคหลังที่มักมีการปะทะทางศาสนาที่รุนแรงมากกว่าแต่เดิม ประเภทเผาวัดฆ่านักบวชของทุก ๆ ศาสนาในอินเดีย ทำให้พุทธศาสนาเป็นศาสนาเดียวที่ได้ผลกระทบมากสุดจนเกือบสูญหายไปจากอินเดีย (ฮินดูมันก็ถูกอิสลามปล้นฆ่าเหมือนกันแต่มันไม่หมดกลับยิ่งปะทะกับอิสลามด้วยความรุนแรง และยันกันอยู่) ยุคนี้เกิดแนวคิดศาสนาสุดโต่ง พุทธเท่านั้น ฮินดูเท่านั้น คริสต์เท่านั้น และอิสลามเท่านั้น ไม่ยอมรับการผสมกลมกลืนของศาสนาอื่นเหมือนสมัยก่อน เรียกว่าถ้าคนฮินดูเอาพระเยซูไปบูชาคนที่นับถือคริสต์ก็จะว่าพวกฮินดูขโมยพระเจ้าของตนไปทำมิดีมิร้ายแล้วก็จะบุกไปเผาเทวาลัยฮินดูกันที่เดียว ยุคหลังนี้พุทธเจ้าจึงอยู่เป็นอวตารของพระนารายณ์ไม่ได้ เรื่องราวนี้จึงถูกลบทิ้งไป หรือไม่มีมาตั้งแต่แรกในภรตนาฏยัมซึ่งเป็นการแสดงร่วมสมัยของรัฐทมิฬนาฑูและของอินเดียที่คงความเก่าแก่ของจารีตการแสดงที่เก่าแก่ที่สุดไว้ได้ โดยในเอกสารตำราวรรณกรรมการละครของศิลปะการแสดงภรตนาฏยัมก็ไม่กล่าวถึง รามาวตาร กฤษณาวตาร พุทธาวตาร และกัลกิ อวตาร แต่กล่าวถึง รามาวตาร กฤษณาวตาร พลรามาวตาร และกัลกิ อวตาร ซึ่งพลราม คือพระพลรามพี่ชายพระกฤษณะ (ไทยว่าเป็น "พระพลเทพ" เทพการเกษตรปรากฏในเรื่องอนิรุทธคำฉันท์) ที่อวตารมาจากเศษนาคและพลังของพระนารายณ์ด้วยครึ่งหนึ่ง ซึ่งเรื่องราวนี้ปรากฏอยู่ในนาฏกรรมการแสดงของอืนเดียที่จะต้องแสดงใหัชาวบ้านและกษัตริย์ชมในสมัยหลังตั้งแต่ร้อยปีก่อน ก่อนยุคที่อังกฤษเข้ามาในอินเดียและมีการปะทะกันอย่างรุนแรงทางศาสนาการกล่าวว่า มีพุทธาวตาร หรือการมีพุทธาวตารในนาฏกรรมการแสดงไม่ได้รับการยอมรับและอาจนำภัยมาให้



   😈 จนถึงยุคเปลี่ยนการปกครองที่ ดร. อัมเบดการ์ ผู้นำพวกดาลิต (พวกวรรณะต่ำ) ประกาศตนไม่มีวรรณะและหันมานับถือพุทธ แม้แต่ธงชาติอินเดียก็มีรูปธรรมจักร เสาอโศกได้รับการนำมาใช้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของอินเดีย ร่วมถึงบทบาทการฟื้นฟูพุทธศาสนาในอินเดียจากญี่ปุ่น เขมร ลาว ไทย ฯ  โดยมีประเทศญี่ปุ่นเป็นแกนนำชาติแรกและทรงอิทธิพลทางความคิดและการเมืองก่อนที่ชาวธิเบตจะมาอินเดีย (ยุคที่องค์ดะไลลามะเสด็จมาอินเดียหลังแพ้สงครามจีน)

รูป ธงชาติอินเดียมีธรรมจักรหรืออโศกจักรตรงกลางสีน้ำเงิน กับหัวเสาอโศกรูปสิงโตบนยอดโดม
ที่มา https://www.biospectrumindia.com/news/76/4053/supreme-court-defers-hearing-on-clinical-trials.html

      😈 แม้คนพุทธอินเดียน้อย แต่ในยุคปัจจุบันที่มีสันติภาพเป็นสิ่งสำคัญ และการปะทะกันอย่างรุนแรงเป็นเรื่องล้าสมัย พุทธศาสนาได้รับการศึกษาจากคนชั้นสูงอีกครั้งแม้จะไม่กล้าประกาศตนเป็นพุทธอย่างเด็ดเดียวเปิดเผย แต่การพูดถึงพุทธาวตารมีการนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อการประนีประนอม แต่ก็ว่าพุทธเจ้าเป็นผู้หลอกอสูรดังกล่าวเพราะพราหมณ์ยังได้ประโยชณ์จากระบบวรรณะและไม่อยากจะสูญเสียระบบวรรณะไปเท่านั้น ไม่ได้ต้องการกลืนศาสนาพุทธแต่อย่างใดเพราะพุทธสูญเสียพื้นที่ทางสังคมในอินเดียไปนานมากแล้ว และชาวพุทธเองที่กลับมาฟื้นพุทธศาสนาในอินเดีย คัมภีร์ทางพุทธศาสนามหายานเองโดยเฉพาะคัมภีร์จากธิเบตชื่อว่า อวโลกิเตศวรการัณฑวยูหสูตรเสียเองที่พยายามกลืนศาสนาฮินดูโดยพระคัมภีร์นั้นว่า "แรกเดิมจักรวาลว่างเปล่า แต่พระอาทิพุทธเกิดจากดอกบัว และพระองค์แบ่งภาคเป็นอวโลกิเตศวร จากนั้นพระอวโลกิเศวรก็สร้างเทพเจ้า และเจ้าแม่ต่าง ๆ ในศาสนาฮินดูขึ้นเพื่อสร้างจักรวาล ส่วนพระอาทิพุทธก็แบ่งภาคไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้าในพุทธเกษตรต่าง ๆ ร่วมทั้งโลกมนุษย์" แสดงให้เห็นว่าในอินเดียเรื่องพุทธาวตารของพระนารายณ์แต่เดิมผู้ที่รับประโยชน์ที่สุดคือชาวพุทธในอินเดีย ไม่ใช่ชาวฮินดู ชาวฮินดูจึงต้องแปลงว่ามีพุทธาวตารก็ได้ แต่เป็นครูของพวกอสูรนะ เพราะถ้าว่าบอกไม่มีคนจะไม่เชื่อ จึงแปลงเรื่องให้มีได้ แต่ความจริงสูงสุดคือเทพฮินดู คือมีแต่ไม่มีอยู่กับความเป็นจริง เป็นสิ่งลวงและความเท็จ ดังนั้นในมุมมองของพวกฮินดูที่เคร่งจริงที่สืบทอดความคิดหัวรุนแรงมาจากยุคหลังล่าอาณานิคมของชาวตะวันตกเมื่อร้อยปีก่อนจนถึงปัจจุบันก็จะว่า "พุทธาวตารไม่มี" อยู่ดี

    😈 เชื่อว่าเรื่องพุทธาวตารเป็นมุมมองของคนพุทธในไทย และอินเดียที่ประนีประนอมเอาเองในสมัยหลัง ๆ ต่อมา  คนฮินดูแท้ในอินเดียบอกว่าไม่มีพุทธาวตารเหมือนหนังอินเดียในปัจจุบันที่สร้างกระแสนับถือพุทธในอินเดีย เพราะพวกพราหมณ์จริงมันหยิ่งไม่ยอมรับพุทธเลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากพราหมณ์ในไทย และพวกดาริต    (दलित ) ในอินเดียซึ่งเป็นชาวพุทธที่ไม่มีวรรณะในอินเดียที่จะพยายามว่ามีพุทธาวตารเป็นปางหนึ่งของพระนารายณ์เพราะพวกเขาต้องอิงอาศัยศาสนาฮินดู  แต่พราหมณ์ชั้นสูงจริงมันใหญ่มันหยิ่งมันว่าไม่มีพุทธาวตาร หนังที่เอามาฉายในไทยมันเอาใจพวกดาริต ซึ่งเป็นพวกจัณฑาลไม่มีวรรณะ แบบสร้างภาพ มีการเมืองเกี่ยวข้องด้วย

     😈 เนื่องจากคนพุทธอินเดียน้อยที่อินเดียคนฮินดูมีอำนาจมากในทางการเมือง มีประชากรส่วนใหญ่นับถือฮินดู ส่วนพราหมณ์ที่เมืองไทยพ่อแม่มันเป็นพราหมณ์แต่มันอยู่เมืองพุทธ ทั้งสองพวกนี้ ทั้งพุทธอินเดียและพราหมณ์ไทยมันจึงสร้างเรื่องพุทธาวตารเพื่อหาทางออกให้พวกมันเอง มาแต่ครั้งโบราณ ส่วนพวกที่นับถือพุทธและฮินดูเคร่งจริงจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีพุทธาวตาร เพราะพวกมันไม่มีความจำเป็นต้องประนีประนอมกับใครอยู่บ้านกู กูใหญ่

พระคเณศหลอกเอาศิวะลึงค์จากทศกัณฑ์ (ทศกัณฐ์คือสมญานาม ชื่อจริงในอินเดียคือราวณะ)

   😇 การที่จะเข้าใจประวัติพุทธศาสนาในอินเดียต้องศึกษาผ่านมุมมองของชาวอินเดีย และศาสนาอื่น ๆ ด้วย ไม่ใช่มองผ่านแต่มุมมองของชาวไทยพุทธ พราหมณ์ ผี แบบไทยเท่านั้นเพราะอินเดียเป็นอนุทวีปที่ชาวไทยยังไม่ได้มีความรู้อะไรลึกซึ้ง ที่ผ่านมาก็ศึกษาแต่ผิว ๆ องค์ความรู้แต่โบราณของอินเดียในไทยพวกเราเรียนรู้ผ่านเขมร จีน ฝรั่ง มาเลเซีย ศรีลังกา พม่า เป็นอันมากซึ่งสองประเทศหลังมีอคติกับอินเดีย เรียกว่าอมขี้ปากเขาแล้วจำมาพูดเสียโดยมาก ไม่ได้รู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับอินเดียเลย ปล. จากเมืองวรธา รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย

พระญี่ปุ่นเทศนาและกล่าวขอบคุณที่พิธีกรรมทางพุทธศาสนาที่เมือง วรธา รัฐมหาราษฏระ
ประเทศอินเดีย (เหนือ)

    😈 การแสดงภารตนาฏยัมแบบดังเดิมเรื่อง ทศาวตาร มี 1 (ปลา) มัสยาวตาร 2 (เต่า) กูรมาวตาร 3 (หมูป่า)  วราหาวตาร 4 (นรสิงห์) นรสิงหาวตาร 5 (พราหมณ์เตี้ย) วามนาวตาร 6 (ปรศุรามพราหมณ์โหด) ปรศุรามาวตาร 7 (พระรามจันทร์) รามาวตาร 8 (พระพลราม) พลรามาวตาร 9 (พระกฤษณะ) กฤษณาวตาร 10 (พระกัลกี เจ้าชายขี่ม้าขาว) กัลกิ อวตาร...ไม่มีพุทธาวตารในการแสดงนาฏกรรมการแสดงในอินเดียมากว่าร้อยปี การสร้างการ์ตูนและภาพยนตร์อินเดียที่เอาพุทธาวตารของพระนารายณ์ใส่กลับเข้าไปใหม่ในปัจจุบันอาจจะเป็นความต้องการประนีประนอมของรัฐบาลกลางอินเดียที่ต้องการเอาใจพวกดาริต หรือชาวพุทธอินเดียหัวรุนแรงที่เริ่มมีอิทธิพลทางการเมืองหรือไม่? หรือเป็นแรงผลักดันจากพวกดาริตเองที่ต้องการที่ยืนในสังคมอินเดียที่พวกพราหมณ์อินเดียเหนือยังมีอำนาจอยู่มาก

วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ราศีปีศาจที่ 64 ฟลาวรอส (Flauros ) ประจำวันที่ 5 -9 ก.พ.



รูปที่ 1  ฟลาวรอส และดวงตราพญาแห่งไฟสัญชาตญาณเถื่อน
ที่มา http://www.writerscafe.org/writing/GoetiaPoetry/1019327/

     😈 พญามารตนที่หกสิบสี่คือ Haures หรือ Hauras หรือ Havres หรือ Flauros จะปรากฏตัวครั้งแรกเหมือนเสือดาวที่น่ากลัวและแข็งแรง แล้วจึงกลายร่างเป็นมนุษย์ด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและใบหน้าที่น่ากลัว  ฟลารอสสามารถให้คำตอบที่แท้จริงของทุกสิ่งทั้งเรื่องในปัจจุบัน อดีตและอนาคต แต่ถ้าไม่ได้อยู่ในวงเวทมนต์ ฟลารอสจะบอกแต่เรื่องโกหก นอกจากนี้ฟลารอส สามารถให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างโลกและเทพวิทยาต่าง ๆ   ปกป้องผู้อัญเชิญจากการล่อถูกล่อลวงจากวิญญาณร้ายอื่น และสามารถเผาผลาญผู้ที่เป็นศัตรูของผู้อัญเชิญได้ ถ้าผู้อัญเชิญต้องการ พญามารฟลารอสครอบครองกองทัพผีและปีศาจ 36  กองพล

😈😈😈😈


รูปที่ 2 เสือดาวในฐานผู้เสพความตาย (an eater of the Dead) ของอียิปต์
ที่มา https://www.wisdomlib.org/egypt/book/the-gods-of-the-egyptians-vol-1/d/doc6494.html

   😈 ในสมัยอียิปต์โบราณมีเทพเสือ สิงโต และแมวซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวแทนแห่งพลังอำนาจ ส่วนเสือดาวก็ถูกพบว่ามีภาพเสือดาวที่มีโดยมีหัวมนุษย์และปีกคู่หนึ่งงอกขึ้นมาจากหลัง ในหมู่รูปของ และสิงโต กริฟฟิร และสฟิงซ์

       😈 หัวมนุษย์ปีกที่ผุดขึ้นมาจากด้านหลังของเสือดาวนี้ นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า คือรูปแบบดั้งเดิมของทูตสวรรค์ในภาพทางศาสนา  หรืออาจจะเป็นขวัญหรือวิญญาณของมนุษย์ตามความเชื่อของอียิปต์ในยุคต้น ๆ ที่มีหลายส่วนส่วนหนึ่งบินไปเทียวกับเสือดาว ส่วนหนึ่งอยู่กับศพ และรอวันคืนชีพ ในขณะที่ความนิยมส่วนใหญเชื่อว่าวิญญาณแปลงเป็นนกหรือไปกับนกเพื่อไปสู่โลกหลังความตายมากกว่า แต่ก็ยังไม่มีการค้นพบชื่อเรียกและความจริงของสัตว์ประเภทนี้อย่างชัดเจน นักโบราณคดีอีกส่วนหนึ่งก็เชื่อว่าเสือดาวหัวมนุษย์มีปีกบนหลังเชื่อมโยงกับ "Devourer of Ȧmenti" ที่เรียกว่า "Ām-mit, Eater of the Dead" ซึ่งมีความแตกต่างกันของความหมายโดยนัยที่เป็นภาพลักษณ์พลังอำนาจของจระเข้ ฮิปโปโปเตมัส และสิงโต อาจจะหมายถึงความตายเองที่พรากชีวิตมนุษย์ หรือสัตว์ร้ายที่เสพวิญญาณของคนบาปในโลกมืดหลังความตาย


รูปที่ 3 เทพีเซศัต  Seshat ของอียิปต์โบราณ
ที่มา http://www.landofpyramids.org/seshat.htm

    😈 เทพีเซศัตของอียิปต์ เป็นเทพีแห่งอักษรศาสตร์ ผู้ทรงหนังเสือดาวเป็นสัญลักษณ์ก่อนที่ภาพในสมัยหลังบางภาพจจะเปลี่ยนให้เป็นเทพีมนุษย์เสือดาว จึงน่าจะเป็นที่มาของความเชื่อมนุษย์แปลงเป็นสัตว์หรือสัตว์แปลงเป็นมนุษย์ในสมัยโบราณ


รูปที่ 4 ไดอะไนซัส DIONYSOS (Dionysus) เทพแห่งไวน์ทรงเสือดาว
ที่มาhttps://www.theoi.com/Olympios/Dionysos.html

    😈 ในกรีกเทพไดอะไนซัสแห่งไวน์และงานรื่นเริงซึ่งมีบริวารเป็นเซเทอร์ Satyr มีรูปขี่เสือดาวเป็นพาหนะ แต่บางภาพก็รูปเซเทอร์ห่มหนังสือดาวเช่นกัน ซึ่งเซเทอร์เป็นตัวแทนของแรงขับทางเพศของผู้ชาย

รูปที่ 5  เยเซเบล Jezebel ราชินีของอิสราเอล Israel ผู้นับถือเทพแห่งพายุบาอัล ba'al นั่งเสือดาวเจ็ดหัว
ที่มา http://christianobserver.net/mystery-babylon-jerusalem-study-chris-white/

   😈  เยเซเบล Jezebel ราชินีของอิสราเอล Israel ผู้นับถือเทพแห่งพายุบาอัล ba'al นั่งเสือดาวเจ็ดหัวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้ต่อต้านพระเจ้าในศาสนาคริสต์ โดยเสือดาวเจ็ดเศียรคือสัตว์ร้ายในตำนานที่จะขึ้นมาทางทะเล ซึ่งนางจาเซเบลก็นับถือเทพีอาชีราห์ Asherah เทพีแห่งท้องทะเลของชาวสุเมเรียนด้วย
   
      😈 เพราะในทัศนะของศาสนาคริสต์เยเซเบลคือนางมารชั่วร้ายที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์และมีบันทึกไว้ในภาคพันธสัญญาเดิมของชาวยิว ว่านางมาจากแผ่นดินแห่งฟินิเซีย ต่อมาได้เป็นมเหสีของกษัตริย์อาหับ (Ahab), กษัตริย์คนหนึ่งของอิสราเอลผู้ซึ่งปกครองในสมัยที่เอลียาห์ (Elijah) เป็นศาสดาพยากรณ์ในศาสนาใหม่ซึ่งนับถือ พระเจ้าสูงสุดองค์เดียวคือพระเยโฮวาห์ (Yahweh) 

    😈 เนื่องจากนางเยเซเบลต้องการนำการนับถือเทพโบราณของชาวสุเมเรียน กลับมาบนแผ่นดินอิสราเอลภายใต้อำนาจสามีของนาง แทนการยอมรับนับถือพระเยโฮวาห์ของชาวอิสราเอลซึ่งเป็นศาสนาใหม่ในสมัยนั้น นางเยเซเบลจึงได้ให้สามีนางกำจัดผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าในศาสนาใหม่เป็นจำนวนมาก และนางเยเซเบลได้หมายเอาชีวิตเอลียาห์ผู้นำทางจิตวิญญาณของศาสนาใหม่ในสมัยนั้น จนเอลียาห์ต้องหนีไปและกลายเป็นช่วงที่ตกต่ำที่สุดของผู้นับถือพระเยโฮวาห์ในอาณาจักรอิสราเอล

   😈 แต่หลังจากที่สามีและบุตรชายของนางเสียชีวิตในสงครามนางก็ถูกเยฮูสั่งให้ฆ่าทิ้งอย่างโหดเหี้ยมพร้อมกับพระราชวงศ์ทั้งหมดของฝ่ายนางและสามี และเนื่องจากกษัตริย์เยฮู (Yehu) ได้รับพลังสนับสนุนจากผู้นับถือพระเยโฮวาห์ในอาณาจักรอิสราเอล กษัตริย์เยฮูจึงให้ฆ่าพวกนักบวชที่นับถือเทพพระเจ้าโบราณของชาวสุเมเรียนที่นางเยเซเบลเคยให้การสนับสนุนในดินแดนอิสราเอลทั้งหมด



รูปที่ 6 วยัฆระปาทะ ฤาษีผู้เป็นสาวกของพระศิวะ
ที่มา http://originofdance.blogspot.com/2016/05/vyaghrapada.html

   😈 วยัฆระปาทะ คือฤาษีที่มีเท้าเป็นเสือเพื่อที่ตอนเช้าจะได้ปีนต้นไม้เก็บดอกไม้มาบูชาพระศิวะ เป็นแทนของการบำเพ็ญยัญพิธีบูชาพระเจ้า ตามหลักฮินดูเรียกว่าเป็น "กรรมโยคี" (ผู้เข้าถึงพระเจ้าด้วยการปฏิบัติธรรม) เป็นสาวกของพระศิวะคู่กับ "ปตัญชลี" ฤาษีซึ่งในสมัยหลังถูกวาดให้ท่อนล่างเป็นงูเพราะเป็นผู้สอนราชโยคะซึ่งมีฐานจักระทั้งเจ็ดฐานนับจากปลายกระดูกก้นกบที่เรียกว่ากุณฑาลินี และไล่ไปตามกระดูกสั้นหลังขึ้นไปถึงกระโหลก เป็นผู้เข้าถึงพระเจ้าด้วยญาณที่เรียกว่า "ชญานี" (ผู้เข้าถึงพระเจ้าด้วยความรู้)


รูปที่ 7 วยัฆระปาทะ และปตัญชลี ของอินเดียใต้
ที่มา http://www.amymcdonald.com.au/abundantyogateacherpodcasts/2018/4/18/devoted-to-exile-vyaghrapada-and-finding-happiness-in-the-forest

     😈 มีรูปนางโยคินีร่างเสือดาวที่รัฐโอริสสาของอินเดียด้วยแต่ข้อมูลน้อยสืบหาที่มาที่ไปไม่ได้จึงไม่กล่าวถึง


รูปที่ 8 ไท่อี่จิ้วขู่เทียนจุน (太乙救苦天尊) ปราบสิงโตเก้าเศียรพาหนะของตนที่หนีมาในเรื่องไซอิ๋วที่มา https://kknews.cc/zh-cn/history/gz5vbgy.html

     😈 ไท่อี่จิ้วขู่เทียนจุน (太乙救苦天尊) ดาวดวงแรกของกลุ่มดาวมังกรเขียวมาปราบสิงโตเก้าเศียรพาหนะของตนที่หนีมาในเรื่องไซอิ๋ว  บางตำนานว่าเป็นเซียนตนเดียวกันกับอาจารย์ของนาจาในเรื่องห้องสินด้วย



😇😇😇😇😇😇

     😇 เทวทูตสวรรค์ เมฮิเอล ( Mehiel ) เป็นทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แห่งพลังไฟชีวิตเพื่อการมีชีวิตอยู่ สำหรับผู้ที่เกิดในวันที่ 5-9 ก.พ. พระองค์จะนำแรงบันดาลใจมาสู่ชีวิตมวลมนุษย์ โดยจะปรับปรุงจินตนาการความเข้าใจและสติปัญญาของมนุษย์ ทูตสวรรค์องค์นี้เป็นผู้พิทักษ์นักเขียน นักประพันธ์ และนักข่าว โดยเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์

     😇 เทวทูตสวรรค์ เมฮิเอล Mehiel เป็นนักรบที่ทรงพลังมาก พระองค์เป็นพันธมิตรที่ดีในการต่อสู้กับความชั่วร้าย ผู้นำความรู้และความเข้าใจในโลกแห่งวิญญาณ ดังนั้นพระองค์จะช่วยให้มนุษย์เข้าใจการเชื่อมโยงระหว่างจิตวิญญาณและวิทยาศาสตร์อย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ยังนำสติปัญญาอันเป็นผลมาจากสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ทุกสถานการณ์ที่ยากลำบากในชีวิตของมนุษย์ สามารถเรียนรู้ผ่านประสบการณ์และองค์ความรู้ เทวทูตสวรรค์องค์นี้จะแนะนำกุญแจสำคัญสำหรับชีวิตที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพและความอุดมสมบูรณ์


รูปที่ 8 เมฮิเอล เทวทูตสวรรค์แห่งพลังไฟชีวิต
ที่มา https://guardianangelguide.com/guardian-angel-mehiel/

...........

~tarzan and the leopard woman (1946) | Tumblr~


~ Thunder Cat USA cartoon 1985-1989,2011-2012~

~ One piece 1997 upto at present~

~Cheetah vs Wander woman DC comic 2012~

~ Black panther 2018~


       😇 การเต้นเสือหรือ ปุลิกะลี หรือปุลิอาตตัม ของรัฐเกรลาและรัฐอื่น ๆ ในอินเดียใต้  อาจจะมี่ที่มาจากความเชื่อเรื่องพลังของเสือในหมู่นักรบสมัยโบราณ

วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ราศีปีศาจที่ 63 แอนดราส (Andras) 31 ม.ค. - 4 ก.พ.

ราศีปีศาจที่ 63 แอนดราส (Andras) 31 ม.ค. - 4 ก.พ.

รูปที่ 1 ดวงตรามารแอนดราส Andras พญามารแห่งการฆ่าและมนต์ดำ

ที่มา https://demonsanddemonolatry.com/demon-of-the-night-marquis-andras/


รูปที่ 2 พญามารแห่งการฆ่าและมนต์ดำ Andras

ที่มา https://www.wattpad.com/232935774-notes-ideas-demon-days-kali-and-shiva-andras-and

   😈 แอนดราส Andras คือพญามารแห่งการฆ่าและมนต์ดำ ผู้ปรากฏตนในร่างของทูตสวรรค์ที่มีปีกและหัวนกฮูก นกเต้าแมว หรือนกกาเหว่า ขี่หมาป่าสีดำที่แข็งแกร่งและใช้ดาบคม แอสดราสมีอำนาจยังในการหว่านความไม่ลงรอยกันเพื่อสร้างความแตกแยก ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการฆาตกรรม และเพิ่มการทะเลาะวิวาทและความไม่ลงรอยกันในหมู่ศัตรู พญามารแห่งการฆ่าและมนต์ดำ ควบคุมกองทัพผีและปีศาจ 30 กองพล และเป็นพญามารตนที่ 63 จาก 72 ของพระเจ้าสุลัยมาน

~Owl man dancing ~



รูปที่ 3 เทพเหยี่ยวฮอรัสและเทพหมาไนอานูบิสของอียิปต์
ที่มา https://www.flickr.com/photos/danicolumna/8115747306

   😈 ในอียิป์เทพที่เกี่ยวกับความตายคือเทพเหยี่ยวฮอรัส horus และเทพหมาไนอานูนิส Anubis บุตรต่างมารดาของเทพบิดาโอริซิส Orisis ซึ่งอาจจะเป็นที่มาของบทบาทพญามารแอนดราสของพระเจ้าสุลัยมาน แม้ว่าอียิป์จะไม่มีเทพเศียรนกฮูก แต่นกฮูกในอียิปต์ก็น่าจะเชื่อมโยงกับความตายเช่นกัน

รูปที่ 4 เทพแห่งความตายทั้งสามเทพเหยี่ยวฮอรัส พระยายมโอซิริส และเทพหมาไนอานูบิส
ที่มา https://sonsofisis.wordpress.com/2010/05/11/horus-anubis/

   😈 ยุกเมโสโปเตเมีย เทพีแห่งความรักและสงครามเทพีอิสตาร Ishtar หรืออินนะนา Innana ซึ่งวิวัฒนาการเป็น ลิลิธ Lilith มารดาแห่งปีศาจทั้งหลายในคริสตศาสนานั้นก็มี นกฮูกเป็นบริวารหรือผู้ส่งสาร

รูปที่ 5 เทพแห่งสงครามและความรัก อิศตาร Ishtar เมโสโปเตเมีย
ที่มา https://mindcontrolblackassassins.com/2010/04/14/tyler-perry-multiple-miggs-psycho-the-whore-of-babylon/ishtar-british-museum/

   😈 ในกรีกนกฮูกเล็กสายพันธุ์กรีกเป็นสัตว์ประจำตนของเทพีอาเธน่า Athens เทพีแห่งสงครามและปัญญา ส่วนนกเค้าแมวเป็นสัญลักษณ์ของเทพีเฮคาที Hecate เทพีแห่งมนต์ดำและพระจันทร์มืด (เทพีแห่งมนต์ดำมีสัตว์เป็นสัญลักษณ์มากทั้ง อีกา หมาป่า งู ม้า วัว ฯลฯ)

รูปที่ 6 อาเธน่ากับนกฮูก
ที่มา https://www.artranked.com/topic/Athena

     😈 ในอินเดียนกเค้าแมวหรือนกฮูกเป็นสัญลักษณ์และพาหนะของพระลักษมี เดิมการที่นกเค้าแมวหรือนกฮูก เป็นสัญลักษณ์ของความโง่เขลาและความมืดในศาสนาฮินดี เพราะนกเค้าแมวและนกฮูกมักนอนกลางวันตื่นกลางคืน แต่เมื่อนกเค้าแมวและนกฮูกกลายเป็นพาหนะของพระลักษมีเทพีแห่งสิริและความมงคล ความร่ำรวย ก็เป็นสัญลักษณ์ว่าพระลักษมีมีอำนาจเหนือความโง่เขลาความเกียจคร้าน ความมืดและความอัปโชคทั้งปวงซึ่งเกิดจากความเกียจคร้านในการเอาแต่นอนกลางวันไม่ยอมทำงานเหมือนฮูกที่เอาแต่นอนกลางวัน
   😈 แต่ต่อมายุคสมัยเปลี่ยนไปเมื่อนกเค้าแมวหรือนกฮูก กลายเป็นพาหนะของเทพีแห่งโชคนานเข้า ก็มีอาจจะมีการตีความใหม่ว่า นกเค้าแมวหรือนกฮูกเป็นสัญลักษณ์แห่งการขยันทำงานในตอนกลางคืน ทำงานล่วงเวลาเพื่อให้ได้เงินเพิ่ม


รูปที่ 7 พระลักษมีกับนกฮูก
ที่มา https://vedicgoddess.weebly.com/goddess-vidya-blog/uluka-lakshmis-vahana-the-owl-by-yogi-ananda-saraswathi

😇😇😇😇😇😇😇


รูปที่ 8 เทวทูตสวรรค์แอนเนาเอล Annauel

   😇 แอนเนาเอล Anauel เทวทูตสวรรค์แห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จะให้พรสำหรับผู้ที่เกิดในช่วง 31 ม.ค. - 4 ก.พ.  แอนเนาเอล Anauel Angel of Unity เป็นทูตสวรรค์ผู้มีคุณต่อการรับรู้ของความสามัคคี พระองค์จะนำความสำเร็จมาสู่ความสัมพันธ์ของมนุษย์ทุกคน พระองค์สามารถพัฒนาวิสัยทัศน์ตรรกะและปัญญาในระดับโลกของมนุษย์ ทูตสวรรค์ที่น่าทึ่งตนนี้เป็นทูตสวรรค์ของนักวางแผน ผู้ค้าปลีก นายธนาคารผู้ประกอบการ ฯลฯ เพราะสามารถให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเงินและการแลกเปลี่ยน พระองค์สามารถดูแลโครงการต่าง ๆ ช่วยทำให้สำเร็จเป็นจริง ผู้ที่ได้รับคำแนะนำจากแอนเนาเอล Anauel จะกลายเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ พวกเขาจะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น

  😇 เพราะเทวทูตสวรรค์แอนเนาเอล Anauel จะขจัดความเห็นแก่ตัวและความหวั่นไหวในทรัพย์สินเงินทอง พระองค์สามารถช่วยคุณได้เมื่อคุณไม่สามารถทำให้เกิดความสามัคคีในกลุ่ม  ช่วยให้คุณได้รับภูมิปัญญาที่คุณต้องการสำหรับธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ กำจัดการคอร์รัปชั่นในแวดวงต่าง ๆ จนถึงระดับโลก เทวทูตสวรรค์แอนเนาเอล Anauel  สามารถช่วยให้มนุษย์ค้นพบพลังใจที่สูงขึ้นเมื่อคุณไม่รู้ว่าจะเชื่ออะไรพระองค์สามารถกำจัดจิตใจที่หยิ่งผยองของมนุษย์ที่คิดว่าตนรู้ทุกอย่างและทำทุกอย่างเพื่อเงิน ให้หันกลับมาได้สำนึกถึงคุณค่าความเป็นมนุษย์ ความรักในพระเจ้า และค้นหาความงามในชีวิตเพื่อปวงชน

.........



~ the court of owls in the Gorthem , TV series 2014 ~

 ~ Talon: killer of the court of owls in Batman Vs Robin DC comic 2015 ~

~ The court of owls in batman Vs Robin , DC comic 2015 ~


~  Nite owl in Watchmen  USA movie 2009~