วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2563

เมืองเซ็น หรือเซนไน เมืองหลวงของอินเดียใต้ที่สุนทรภู่กล่าวถึง


 สุนทรภู่กล่าวถึงชาวทมิฬในเมืองเซนไน (อินเดียใต้)

    💥Chennai चेन्नई (เขียน เจนฺนอี) சென்னை (เขียน  เจนฺไน) อ่าน เจนไน หรือ เซนไน หรือ เชนไน เนื่องจาก จ ในภาษาทมิฬอ่านได้หลายเสียงคือ จ = /จ/ /ฉ/ /ช/ /ฌ/ และ /ซ/ โดย จ  เสียง /ซ/  คือสำเนียงคนพื้นเมืองเซนไน ที่ปัจจุบันถือว่าเป็นเมืองหลวงรัฐทมิฬนาฑู โดยในสมัยก่อนพวกอังกฤษยึดครองอินเดียได้เปลี่ยนชื่อเมืองเซนไนว่า มัทราส Madras เมื่อได้เอกราช ชาวอินเดียก็เปลี่ยนชื่อเมืองกลับเป็นเซนไน ซึ่งสุนทรภู่คงได้รับการบอกเล่าจากแขกดราวิเดียนเชื้อสายทมิฬ -ลังกา ที่เป็นพราหมณ์ทมิฬในราชสำนักไทย เพราะตั้งแต่รัชกาลที่ 2 พบจดหมายเหตุว่าไทยมีการส่งทูตไปค้าขายเจริญสัมพันธไมตรีกับลังกา แล้วทรงรับสั่งให้หาพราหมณ์มาทำพิธีในราชสำนักด้วย และจากการบอกเล่าผ่านคำเล่าลือของชาวต่างชาติต่าง ๆ 

    💥สุนทรภู่ น่าจะรู้ว่า ลังกากับทมิฬไม่ถูกกันและใช้กันคนละภาษา ดังในเรื่องพระอภัยมณี กล่าวถึงเมื่อ มังคลารบแพ้ แม่ทัพเอก ลูกของสินสมุทรกับหญิงลังกา ยุพผกา คือ วายุพัฒน์ หนีไปเมืองเซ็นของชาวทมิฬที่ว่านุ่งดำกัน ซึ่งพวกนุ่งดำที่เซนไนมีสองพวกคือ พวกอิสลามนิกายชีอะ และพวกที่นับถือเทพพื้นเมืองสวามีไอยัปปาซึ่งมีถิ่นกำเนิดในรัฐเกรละ (อ่าน เก-ระ-ลา กลายเสียงเป็นครุที่สุดศัพท์) แต่เป็นที่นับถือทั่วไปในรัฐทมิฬนาฑู 

    💥ตามความเชื่อว่าเป็นบุตรของพระศิวะ (พ่อ) และพระนารายณ์ (แม่-โมหิณี) อวตารมาปราบมหิงษี ชายามหิงษาสุระ ที่ขอพรไม่ให้เทพ พระศิวะ พระนารายณ์ หรือเทวีศักติทั้งหลายฆ่าตนได้ ฯลฯ เชื่อว่าไอยัปปากำเนิดจากความเชื่อเรื่องพระหริหระ และเทพท้องถิ่น "ไอยานาร" ที่พัฒนามาจากความเชื่อเรื่องวีรบุรุษนักรบในท้องถิ่น ที่ปะทะกับความเชื่อนับถือเจ้าแม่ที่สตรีเป็นใหญ่อย่างเช่น กลุ่มเจ้าแม่ภัทรกาลี และเจ็ดสาวศรีพี่น้องของเจ้าแม่มีนักษี ของดราวิเดียน 

   💥ซึ่งสาวกของไอยัปปา มักจะนุ่งดำ หรือน้ำเงินเข้มบ้างถือศีลบูชาสวามีไอยัปปาในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ไปชนกับพวกอิสลามนิกายชีอะที่ชอบแต่งดำอยู่แล้ว ชาวต่างชาติมาในช่วงนั้นก็จะมองว่าทมิฬเขาแต่งดำเกือบทั้งเมือง ที่ว่าปล่อยผมรุงรังเหมือนคนป่า เนื่องจากพวกนับถือไอยัปปาบางกลุ่มถือศีลกันไม่แต่งสวย ที่ว่าหน้าเหมือนลิง เพราะว่าชาวดราวิเดียนหรือทมิฬแท้มีเชื้อสายสืบมาจากคนผิวดำในแอฟริกา ปัจจุบันมีการพิสูจน์ DNA แล้ว 
    
    💥ปล.ปัจจุบันคนนับถือไอยัปปาไม่แต่งดำถือศีลเหมือนสมัยก่อนก็มี ที่ว่าสตรีทมิฬมักคบชู้เวลาสามีไม่อยู่ อาจจะเพราะสังคมดราวิเดียนแต่เดิมเป็นสังคมสตรีเป็นใหญ่ และนิยมบูชาลัทธิตันตระมีความนิยมเจ้าแม่ภัทรกาลีในบางกลุ่ม แต่กลุ่มพราหมณ์กษัตริย์เขาเข้มงวดและชายเป็นใหญ่



 


      💥มีแต่ชาวลังกาที่ชังทมิฬ ส่วนพวกฝรั่งกรีก มาตั้งชุมชนอยู่ที่นาคปัฏฏินัม ซึ่งขุดพบลูกปัดและเหรียญกรีกเป็นหีบ ๆ มีนักวิชาการเชื่อว่าผ้าฝ้ายที่พวกกรีกโรมันใส่ทอมาจากอินเดียใต้ (แต่ลังกาในเรื่องอภัยมณีเป็นเมืองฝรั่งจึงต้องว่าฝรั่งดำลังกา คือพวกสิงหลเกลียด ซึ่งชาวสิงหลรบกับทมิฬที่อยู่ตอนตอนเหนือเกาะลังกาคือดินแดนทมิฬมาแต่สมัยโบราณ จาฟนา Jaffna kingdom ตามฝรั่งหรือรู้จักในชื่อทมิฬว่า "ยาฬป์ปาณะ อะระซุ" யாழ்ப்பாண அரசு โดยปัจจุบันคนทมิฬในศรีลังกาถูกกวาดล้างอำนาจด้วยสงครามในปี 2552 ทำให้กองทหารพยัคฆ์อีแลมถูกเข่นฆ่าอย่างโหดร้ายพร้อมครอบครัวก่อนวันที่ 19 พ.ค. 2552 ปัจจุบันรัฐบาลศรีลังกาพยายามส่งเสริมให้จาฟนา เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของทมิฬ-ศรีลังกา หรือทมิฬอีแลม)


refer to: https://www.allceylon.lk/tourist-places-in-jaffna

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น