1) สาธุ साधु นักบวชที่ละโลกใช้ชีวิตแบบสันยาสี เป็นคำเรียกรวม ๆ ทั้งนักบวชฮินดู นิกายศังกราจารย์ (ไศวนิกายย่อย) นาคาสาธุ (ไศวะ) อโฆรี (ไศวะ) นิกายรามานุชะ (ไวษณพ) สวามีนารายณะ (ไวษณพ) สวามีรามกฤษณะ (ศักติ-มหากาลี) ร่วมทั้งศาสนาไชนะ และและบางครั้งแขกใช่เรียกพระสงฆ์ชาวพุทธด้วย
2) สาธฺวี साध्वी นักบวชหญิง
3) สวามี स्वामी ใช้เรียก สามีในหนังจักร ๆ วงศ์ ๆ แขก หรือพระผู้ใหญ่ เหมือนคำว่า พระคุณเจ้า หรือ มหาเถระ ใช้เรียกเจ้าลัทธิ หรือบุคคลที่เป็นศูนย์ร่วมจิตใจ มีคำไวพจน์เช่น บาบา (คุณพ่อ ตรงกับคำว่า father ของคริสต์)
4) ทิกฺษา दिक्षा การบวช
5) มาตาชี माताजी ขั้นการบวชของไชนะที่สตรีต้องโกนผม หรือแม่ชีนักบวชสตรีนิกายต่าง ๆ
ชีเปลือยอินเดียมีสามพวกใหญ่คือ
6) ทิคัมพร दिगम्बर คือนักบวชในศาสนาไชนะ หรือเชน เป็นมังสวิรัติ
7) เศฺวตามพร श्वेताम्बर นักบวชหญิงและชายนิกายเศวตัมพร นุ่งขาวห่มขาวไม่เปลือย ทั้งชายหญิงทุกนิกายโกนผม
8) อโฆรี अघोरी กินเนื้อมนุษย์ ไม่ต้องมีครู ชอบทำเรื่องแปลก น่ากลัวเพื่อเรียกศรัทธา
9) นาคา สาธุ नागा साधु พวกกินเนื้อสัตว์ แต่ไม่กินเนื้อมนุษย์ มีบ้างเป็นมังสวิรัติ เรียนกับครู 12 ปี ในสำนักเรียกว่า ขารา หรืออขารา จึงบวชได้ ส่วนใหญ่อยู่ที่ กุมภเมลา ฝึกโยคะ มีความรู้รักษาโรคได้บ้าง เล่นมายากล ลอยได้บ้าง หรือนั่งทรงตัวในท่าแปลก ๆ ของโยคะ เพื่อเรียกศรัทธา
ปล. ทั้งอโฆรี และนาคาสาธุสองพวกนี้นับถือพระศิวะ และนักบวชเปลือยเอาขี้เถ้าทาตัวเหมือนกัน แต่นักบวชหญิงส่วนใหญ่นุ่งผ้าสีโทนเหลืองแดงหรือสีฝาดไม่เปลือย และไว้ผมยาว บางคนไว้ยาวมากม้วนเป็นมวยยาวเป็นเมตร ตรงกับชีเปลือยในเรื่องพระอภัยมณี
......
จะกล่าวความพราหมณ์แขกซึ่งแปลกเพศ.......อยู่เมืองเทศแรมทางที่กลางหน
ครั้นเสียเรือเหลือตายไม่วายชนม์..................ขึ้นอยู่บนเกาะพนมในยมนา
ไม่นุ่งห่มสมเพชเหมือนเปรตเปล่า..................เป็นคนเจ้าเล่ห์สุดแสนมุสา
ทำเป็นทีชีเปลือยเฉื่อยเฉื่อยช้า......................ไม่กินปลากินข้าวกินเต้าแตง
พวกสำเภาเลากาก็พาซื่อ...............................ชวนกันถือผู้วิเศษทุกเขตแขวง
คิดว่าขาดปรารถนาศรัทธาแรง........................ไม่ตกแต่งตั้งแต่คิดอนิจจัง
ใครขัดสนบนบานการสำเร็จ.............................เมื่อแท้เท็จถือว่าวิชาขลัง
คนมาขอก่อกุฏิ์ให้หยุดยั้ง................................นับถือทั้งธรณีเรียกชีเปลือย
ส่วนชายปลอมพร้อมหมดไม่อดอยาก................มีโยมมากเหมือนหมายสบายเรื่อย
จนหนวดงอกออกขาวดูยาวเฟื้อย......................ทั้งผมเลื้อยลากส้นอยู่คนเดียว ฯ
(พระอภัยมณีของสุนทรภู่)