เรื่องย่อ
ในเมริกาปี 1985 โลกเสมือนซึ่งซูเปอร์ฮีโร่ใส่หน้ากากเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนในสังคม และเข็ม “นาฬิกาหายนะ” ซึ่งสมมุติขึ้นเพื่อชี้วัดความตึงเครียดระหว่างอเมริกาและสหภาพโซเวียต ก็ถูกตั้งให้ชี้ไปที่ห้าทุ่มห้าสิบห้านาทีตลอดมา สร้างความกลัวให้กับทุก ๆ คน
คืนหนึ่งเมื่อ Comedian อดีตเพื่อนร่วมงานของเขาถูกฆ่าตายที่บ้านของตนเอง Rorschach ฮีโร่นักสืบก็เริ่มสงสัยถึงแผนการที่จะฆ่าซูเปอร์ฮีโร่และเพื่อน ๆ ในกลุ่ม Watchmen ของเขา แต่ขณะที่เขาพยายามติดต่อและเตือนเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มซูเปอร์ฮีโรที่ถอนตัวจากวงการไปแล้ว โดยเฉพาะคู่หูเก่า Nite Owl และ Dr.Manhattanในกลุ่มที่มีพลังเทียบเท่าพระเจ้า Rorschach ก็เริ่มจะเห็นเงื่อนงำของการสมคบคิดในวงกว้างที่มีความเชื่อมโยงกับภัยระเบิดนิวเคลียร์ล้างโลก
Dr.Manhattan ที่คิดช่วยโลกด้วยการสร้างพลังงานทดแทนฟรีให้กับโลกนี้กับ Ozymandias จนไม่สนใจคำเตือนของ Rorschach ไม่สนใจความสุขของ Silk Spectre II แฟนสาว ทำให้เธอบอกเลิกและไปอยู่กินกับ Nite Owl แทน
ต่อมา Dr.Manhattan ถูกกล่าวหาว่าทำให้เพื่อน ๆ และอดีตคนรัก Janey Slater กลายเป็นมะเร็ง ทำให้เขาเสียใจมากและหนีไปอยู่ดาวอังคาร ฝ่าย Rorschach ถูกคนร้ายใส่ร้ายว่าฆ่าคนตายจนถูกจับเข้าคุก ภายในคุกนักจิตวิทยาพยายามรักษา Rorschach ในขณะที่นักโทษที่เขาเคยจับมาเข้าคุกพยายามจะฆ่าเขาล้างแค้น แต่ด้วยความชำนาญในการฆ่าคน Rorschach ก็รักษาชีวิตรอดมาได้จน Nite Owl และ Silk Spectre II มาช่วยออกจากคุก
หลังจากนั้น Dr.Manhattan ตามมาพา Silk Spectre II ไปคุยกันที่ดาวอังคาร และขอให้เธออยู่ที่นั้นกับเขา โดยไม่สนใจเรื่องนิวเคลียร์ล้างโลกอีกต่อไป แต่ Silk Spectre II ไม่ยอมและระหว่างที่ทะเลาะกัน Dr.Manhattan ได้เปิดความทรงจำในวัยเด็กให้เธอรู้ว่า เธอเป็นลูกสาวของ Comedian คนที่เธอเกลียดที่สุด เพราะเขาเคยทำร้ายแม่ของเธอ ทำให้ Silk Spectre II คลั่งแค้นเสียใจมาก Dr.Manhattan จึงพาเธอกลับมาช่วยโลก
ก่อนหน้านั้นที่โลก Rorschach และNite Owl จับมือกันจนสืบรู้ว่าทั้งหมดคือแผนการของ Ozymandias ที่เกิดเพี้ยนคิดว่าการจะช่วยโลกไว้ได้ต้องสร้างปีศาจร้ายขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนในโลกมีศัตรูคนเดียวกันคือ Dr.Manhattan แล้วโลกจะสงบสุข
ดังนั้นเขาจึงว่างแผนให้ Dr.Manhattan ไปให้พ้นทาง และฆ่าคนที่รู้แผนการของของเขาให้หมด ซึ่งคนแรกคือ Comedian จากนั้นเขาจะใช้พลังที่สร้างเลียนแบบพลังของ Dr.Manhattan ทำลายเมืองสำคัญต่าง ๆ โดยใส่ร้ายว่าเป็นฝีมือของ Dr.Manhattan
สุดท้ายพวกฮีโร่ตามมาช่วยเมือง Newyork ไม่ทันทำให้คนตายเป็นล้านคน ในขณะที่ Dr.Manhattan จะคิดบัญชีกับ Ozymandias ๆ กลับเปิดโทรทัศน์ให้ดูข่าวว่าอเมริกา กับโซเวียตประกาศสงบศึกกันเพื่อหาทางกำจัด Dr.Manhattan แทน
จึงกลายเป็นเรื่องเศร้าที่ Dr.Manhattan ต้องหันไปฆ่า Rorschach ผู้จะเปิดโปงความจริงให้โลกรู้ เพราะ Rorschach อภัยให้ Ozymandias ผู้ฆ่าสังเวยผู้บริสุทธิ์เป็นล้านคนเพื่อความสงบสุขของโลกไม่ได้
ในขณะที่ Dr.Manhattan ต้องการปกป้องชีวิตที่เหลืออยู่หลายอีกหลายหมื่นล้านบนโลกใบนี้ โดยเขาคิดว่าชีวิตที่ตายไปแล้วไม่มีความหมายเท่ากับชีวิตที่ยังเหลืออยู่ ดังนั้นเมื่อเขาฆ่าเพื่อนแล้ว Dr.Manhattan ก็กลับไปอยู่ดาวอังคารตามลำพัง ส่วน Silk Spectre II และNite Owl ตัดสินใจไปใช่ชีวิตร่วมกัน และยังคงเป็นฮีโร่ ส่วน Ozymandias กลายเป็นผู้มีอำนาจคนหนึ่งทางเศรษฐกิจในอเมริกาที่แบกรับบาปทั้งหมดไว้เพียงลำพัง
ก่อนที่วันหนึ่งบันทึกของ Rorschach ได้ถูกค้นพบที่หนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง ซึ่งเขาได้เขียนเล่าความจริงทั้งหมดและส่งให้ก่อนที่เขาจะไปตาย และแล้วความสงบจากการหลอกลวงของ Ozymandias ก็จะไร้ค่าและเปล่าประโยชน์ในที่สุด
.........
พวกตัวละครจาก Watchmen มีสมาชิก ๖ คน คือ
๑. Rorschach: (คู่หู Nite Owl)
ตุลาการข้างถนน ศาลเตี้ยจอมโหด ผู้แบ่งโลกเป็นขาวและดำชัดเจน และไม่อภัยให้กับความชั่ว
เนื่องจากแผลทางจิตใจในวัยเด็กที่ถูกรังแก และโดนดูถูกว่าเป็นลูกของผู้หญิงหากิน เขาเป็นตัวแทนของการต่อสู้เอาชีวิตรอดในสังคมของคนชั้นกรรมาชีพ ที่ทำทุกวิถีทางเพื่อชีวิตรอดจากสังคมที่ชั่วร้าย การที่เขาฆ่า และทำลายคนชั่วแฝงไว้ด้วยการเรียกร้องการเท่าเทียมกันในมนุษย์ เพื่อให้เขาปรากฏตัวตนอยู่ จะเห็นได้ว่าหลายครั้ง Rorschach ถอดหน้ากากออกแล้วไปปะปนกับคนจนตามถนนเพื่อแอบดูเพื่อน ๆ เขา แต่ก็ไม่มีใครจำเขาได้ ในขณะที่มีคนชั้นกรรมาชีพถือป้ายเรียกร้องรัฐบาลตลอดเรื่องตามถนน แต่ก็ไม่มีคนสนใจความทุกข์ยากของประชาชนคนใดคนหนึ่ง ก็ถูกมองว่าเป็นเรื่องบ้าบอไร้สาระ มีแต่เรื่องสงครามโลกที่ทุกคนกำลังหวาดกลัวว่าสำคัญที่สุด
Rorschach คือตัวแทนแห่งการต่อสู้ของชนชั้นกรรมาชีพที่พยายามจะมีตัวตนในสมัยนั้น ที่ต้องทำทุกอย่างด้วยตนเอง โดยผสมกับความเป็นคาวบอยแบบอเมริกาที่นิยมใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาเมื่อกฎหมายเอือมไปไม่ถึง ดังนั้นในตอนจบเมื่อโลกเข้าสู่สันติสู่โดยสมมุติ Rorschach ซึ่งเป็นปีศาจหรือเทพแห่งความยุติธรรมในโลกเก่าของคนจนจึงต้องตายไปเนื่องจากไม่ยอมรับว่าโลกใหม่มีหลากสี เพราะเขารู้จักขาวและดำเท่านั้น จึงเป็นเหมือนทีวีขาวดำที่หมดไปจากโลกใหม่
๒. Dr.Manhattan:
ยอดมนุษย์ ที่มีพลังเหมือนพระเจ้า จนมองคนอื่นเป็นมดปลวก แต่ยังแพ้ให้กับความรัก
คนที่ได้รับพลังอันยิ่งใหญ่มาโดยบังเอิญ แต่กลับใช้เพื่อสร้างความสุขให้กับตนเองไม่ได้ มีแต่ความทุกข์ เนื่องจากใช้มุมมองของพระเจ้ามองและผิดหวังในมวลมนุษย์ แต่ก็ไม่มีความฉลาดหรือจิตใจที่ดีงามเข้มแข็งเท่าพระเจ้า เพราะถูกพลังที่ตนมีครอบงำจนตนตกอยู่ในความทุกข์เพราะหลุดโลกเข้ากับคนอื่นไม่ได้ เหมือนเด็กออทิสติก ที่เป็นอัจฉริยะ จึงต้องแยกออกจากกลุ่ม ทิ้งคนที่รักไปอยู่คนเดียว เพราะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามการตัดสินใจของคนอื่น จะมาเก็บกวาดช่วยเหลือก็ต่อเมื่อช่วยแทบจะไม่ได้แล้ว
Dr.Manhattan เป็นตัวแทนของพลังธรรมชาติ พลังวิทยาศาสตร์ ปรัชญาวิทยาศาสตร์ และความล้มเหลวในพลังที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ที่ใช้ไม่เป็น ทำให้ฆ่าทำลายกันเอง และการที่เขาบอกว่าเขาเป็นแค่ช่างนาฬิกา ก็แสดงว่าเขาเป็นผู้อยู่เหนือกาลเวลา แต่ก็เป็นสิ่งสมมุติและถูกสงสัยว่าเป็นภัยหรือไม่ เช่นเดียวศีลธรรมกับความใคร่รู้ทางวิทยาศาสตร์บางทีก็ไปด้วยกันไม่ได้
นัยหนึ่ง Dr.Manhattan คือตัวแทนของนักวิทยาศาสตร์อุทิศชีวิตให้กับการผลิตผลงานต่าง ๆ ในยุคนั้น ที่จรรยาบรรณทางการวิจัยในมนุษย์ยังไม่ค่อยดีนัก ทั้งอหังการคิดเทียบว่าตนเป็นพระเจ้ามองอนาคตได้ แต่กับถูกปิดบังได้เพียงเพราะกระแสกิเลสของตนเอง ในขณะที่ Comedian ผู้เป็นคู่หูและด้านตรงข้ามกับเขากับรู้ก่อน จึงถูกเก็บเป็นคนแรกโดยที่เขาก็ไม่ให้ความสนใจอะไร? มองเหมือนหนูทดลองที่ตายไป
และแม้ว่าเขาจะมีอำนาจเทียบเท่าพระเจ้า (คิดไปเอง) แต่ก็กลับแพ้ให้กับความฉลาดของ Ozymandias กลายเป็นเครื่องมือที่ใช้ฆ่า Rorschach เสียเองกับมือในตอนจบเพื่อปิดปากไม่ให้พูดความจริง ซึ่งไม่มีประโยชน์เพราะสุดท้ายความจริงก็จะเปิดเผยออกมาอยู่ดีด้วยสมุดบันทึกของ
Rorschach ที่ส่งไปที่หนังสือพิมพ์ก่อนหน้านั้นแล้ว แสดงว่าเขารู้อนาคตไม่จริงทั้งหมด และพลังของเขาถูกใช้ไปอย่างเปล่าประโยชน์
๓. Comedian: (คู่หู Dr.Manhattan)
คนโฉด สุดชั่วในคราบฮีโร่และตัวตลก ที่ทำงานให้รัฐบาล เพราะคิดว่าแก่นแท้มนุษย์ชั่วร้าย จึงสนุกไปกับชีวิต เห็นผู้อื่นเป็นตัวตลก คิดสำคัญว่าตนมีดีและอยู่เหนือคนอื่น ๆ ตามแบบค่านิยมชายที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยนั้น
คนเสเพลที่คิดว่าตนหล่อล้ำกว่าใคร ๆ แต่กลับสร้างสัมพันธภาพกับผู้หญิงไม่เป็น เขาเป็นโรคหมกมุ่นเรื่องเพศ และซาดิสม์ จึงแสดงออกทางเพศด้วยความก้าวร้าว ทำให้ผิดหวังในความรักกับหญิงที่ตนรักคือ Sally Jupiter แม่ของ Silk Spectre II
ต่อมาใช้ชีวิตแบบหลักลอยไร้ความรับผิดชอบ และทำร้ายผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาในชีวิต แม้หญิงท้องเมียตนเองก็ฆ่ามาแล้ว Comedian คือตัวแทนของทหารที่ผ่านสงครามที่เลวร้ายมาที่ถูกภาพสงครามหลอกหลอน แม้จะเข้าใจชีวิต และเห็นคุณค่าชีวิตมากกว่าคนอื่น
แต่แผลทางใจจากสงครามทำให้เขาทำร้ายตนเองและผู้อื่นเมื่อหมดยุคฮีโร่ ซึ่งเป็นตัวแทนของสงครามภาคสนาม มาถึงยุคใหม่ยิงระเบิดนิวเคลียร์ข้ามประเทศใส่กัน ทหารแก่ที่หมดโอกาสไปสงครามแล้ว ก็เป็นเพียงเหยื่อจากสงครามที่นอนรอความตายอยู่กับบ้านเช่นคนอื่น ๆ
๔. Ozymandias: (ตัวร้ายในกลุ่ม)
นักบุญคนบาป ชอบสร้างภาพว่าเป็นคนดี ไม่เคยคิดร้ายใคร แต่ความจริงเจ้าเล่ห์ที่สุด สร้างตนให้เป็นเจ้าโลก และฆ่าทุกคนที่ขวางทางแม้แต่เพื่อน แผนการที่จะสร้างโลกใหม่ที่ดีกว่าเดิม
อดีตฮีโร่ที่ทำตัวเป็นดารา ก็ไม่ต่างจากนักบินอวกาศที่กลับมาโลก หรือวีรบุรุษสงครามที่นำชื่อเสียงที่ได้มาต่อยอดหากินทางธุรกิจจนร่ำรวย ต่อหน้าคนอื่นก็เป็นคนดีแต่ลับหลังก็เป็นคนที่ชั่วร้ายที่สุดในกลุ่ม ใช้ประโยชน์จากนักโทษที่พ้นโทษจากคุกซึ่งก็เป็นชนชั้นกรรมาชีพให้กำจัดศัตรูทางธุรกิจและอุดมการณ์ โดยไม่เลือกวิธี
ตามเนื้อเรื่องแม้ว่า Ozymandias จะพยายามต่อสู้เพื่อโลกใหม่ที่ดีกว่า และคำนึงถึงประโยชน์ของมวลชนส่วนรวมตามแนวคิดของนักการเมืองที่ดีผู้มีแนวคิดสังคมนิยม แต่การคิดถึงแต่ภาครวมและประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เท่านั้น ทำให้เขาไม่เห็นคุณค่าของชนกลุ่มน้อย การยืนอยู่บนจุดยืนที่สูงสุดในสังคมของเขาทำให้เขามองว่าโลกเป็นต้นไม้ที่ตัดแต่งเพื่องอกงามดีกว่าเดิมได้ ผู้คนทั้งหลายเป็นเพียงผักปลาที่เขาใช่เพื่อบรรลุอุดมการ์โลกใหม่ในฝันตามแนวคิดพวกคลั่งลัทธิ "โลกใหม่ที่ดีกว่า"
Ozymandias เป็นตัวแทนของชนชั้นศักดินา หรือชนชั้นสูงที่สามารถกำหนดเศรษฐกิจและทิศทางของประเทศได้ หรือรัฐบาลทรราชเผด็จการเสียงข้างมากที่กำหนดว่าทรัพยากร และความอยู่รอดควรเป็นของคนหมู่มาก ส่วนคนกลุ่มน้อยก็ตายเสีย..เท่าที่จำเป็น เขาเป็นตัวแทนของอำนาจเผด็จการ หรืออำนาจมืดที่แฝงอยู่ในการเมือง
๕. Nite Owl
พระเอก ผู้ยอมดื่มน้ำตาลก้นแก้วเนื่องจากเป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงมานาน ผู้มีอีกด้านหนึ่งของชีวิตที่สนุกกับการทำตนเป็นฮีโร่ปราบเหล่าร้าย เนื่องจากพ่อรวยมีมรดกมากทำเพื่อสังคมได้ไม่ต้องห่วงปากท้องตนเอง
ถ้า Batman เป็นตัวแทนของคนร่ำรวยที่แอบทำประโยชน์ให้สังคมโดยไม่หวังผล นอกจากให้สังคมดีขึ้น กับศาลเตี้ย Nite Owl ก็มีบทบาทเหมือน Batman เต็ม ๆ แต่เขาฉลาดสู้ Batman ไม่ได้ดูจะไม่รวยเท่าด้วย (Batman บ้านใหญ่กว่า และมีสมุนทั้งคนรับใช้) เพราะความฉลาดโดนเบียดบังโดย Rorschach ส่วนบทบาทความร่ำรวยถูก Ozymandias แย่งไป
มองว่า Nite Owl เป็นตัวแทนของชนชั้นกลางที่อยู่กับสังคมแห่งความเป็นจริง คือไม่สูงเกินไปจนทำให้ความรับผิดชอบต้องอยู่เหนือศีลธรรมความเป็นคน และชีวิตก็ไม่เลวร้ายต้องสู้ดิ้นรนเท่ากับชนชั้นกรรมาชีพ เขาจึงรักษาจิตใจที่ดีไว้ได้ แม้จะมีภูมิหลังขัดแย้งกับพ่อที่ไม่ชอบงานที่เขาทำแต่เขาก็ผ่านมันไปได้ด้วยการได้เลือกวิถีชีวิตที่ตนชอบหลังพ่อตาย การมีจิตใจที่ดีทำให้เขาเข้าได้กับทุกคนในเรื่อง และสามารถถอดหน้ากากมาใช้ชีวิตตามปกติได้ยามที่ต้องการ แต่การต่อสู้สร้างความเป็นชาย และความตื่นเต้นให้กับชีวิตรักของเขา ซึ่งตรงนี้ต่างจาก Batman ที่ปมในใจทำให้เขาคบกับสาวคนไหนไม่ได้นาน
๖. Silk Spectre II: (แฟน Dr.Manhattan)
สาวสวยคนเดี่ยวในกลุ่ม มีด้านมืดในชีวิตเหมือนคนอื่น แต่ก็ผ่านพ้นมาได้เนื่องจากมีแม่ที่ดี ทำให้เธอกลายเป็นคนจิตใจดีด้วย
Sally Jupiter แม่ของ Silk Spectre II เคยถูก Comedian จะข่มขืน แต่แฟนช่วยไว้ได้ เชื่อว่า Sally Jupiter มีใจให้กับ Comedian และสับสนในคุณค่าของตนเอง เพราะหลังจากปีหนึ่งเธอก็อภัยให้ Comedian ยอมมีสัมพันธภาพแต่เมื่อไปไม่รอดเพราะนิสัยของ Comedian ที่เห็นแก่ตัวถือความคิดตนเป็นใหญ่ สุดท้าย Sally Jupiter ก็รู้ว่าตนคิดผิดจึงกลับไปคืนดีกับแฟนเก่า แต่เธอก็ตั้งครรภ์มีลูกสาวกับ Comedian แล้วคือ Silk Spectre II
Silk Spectre II ก็เป็นตัวแทนของสตรีอเมริกันทั่วไปที่สับสนในตนเอง เช่นเดี่ยวกับแม่ของเธอ เธอเลือกเป็นแฟนกับ Dr.Manhattan เพราะความเท่ความเก่งเหนือคนของเขาจากเปลือกนอก
สุดท้ายเมื่อเธอเลือกผิดเธอจึงเลิกกันกับ Dr.Manhattan และไปคบกับ Nite Owl ที่มีความใส่ใจเธอมากกว่า และแอบชอบเธอมาก่อน ตามปรัชญารักฝรั่งว่าเลือกคนที่รักเราดีกว่า เลือกคนที่เรารัก แต่ทำให้เราเป็นทุกข์ตลอด
เหมือนเด็กมีปัญหาที่แสร้งทำว่าตนไม่มีปัญหา Silk Spectre II มีปัญหาในครอบครัวที่พ่อเลี้ยงมักทะเลาะกับแม่เสมอ แต่แม่ของเธออบรมสั่งสอนดูแลเธอมาดี ไม่ทำให้ปัญหานั้นกลายเป็นปัญหาของเธอ การที่เธอเลือก Dr.Manhattan ชายผู้ยิ่งใหญ่รุ่นพ่อเป็นแฟนคนแรก อาจจะสื่อว่าเธอต้องการความรักจากพ่อ (แสดงว่าพ่อเลี้ยงอาจจะเป็นพ่อที่ดีของเธอไม่ได้)
ทั้งการที่เธอรับบทบาทเป็นฮีโร่ที่ใช้ความรุนแรงอีกมุมหนึ่งที่แอบไว้ไม่ให้ใครรู้ก็แสดงว่า เธอก็เก็บกดและระบายมันออกมาด้วยการแก้แค้นสังคมเช่นกัน เพียงแต่แอบแฝงอย่างแยบยลในเชิงบวก
เธอจึงไม่มีที่ไปและคบกับคนอื่นไม่ได้นอกจากพวกที่ใส่หน้ากากมีความขาด ๆ เกิน ๆ เติมเต็มให้กันได้เพราะเป็นพวกเดียวกัน
........
ซึ่งการที่ Rorschach ถูกจับและพิสูจน์ทางจิต ก็เหมือนกับเป็นตัวแทนกลุ่มที่ถูกสงสัยว่าจะมีปัญหาทางจิตอันใดที่แอบซ่อนไว้ในหน้ากากนั้นหรือไม่
แต่แม้แต่ว่าจะถอดหน้ากากแล้วแบบ Ozymandias แต่ก็เปลี่ยนมาใส่หัวโขนพรางตัวด้วยการปั้นยิ้มเข้าสังคมเก่งขึ้นปิดบังความผิดปกติทางจิต หรือความชั่วร้ายที่คิดจะแก้แค้นสังคมไว้อย่างแยบยลยิ่งขึ้น
.......
ลักษณะการ์ตูนอื่น ๆ ที่คล้ายกัน
Rorschach : เปรียบเทียบได้กับ The Question ฮีโร่นักสืบในจักรวาลโลกการ์ตูน แต่แปลงโฉมไม่ได้ เพียงแต่ปิดบังใบที่แท้จริงไว้ไม่มีใครเห็น
Dr.Manhattan : บทบาทเหมือน Captain Atom ฮีโร่พลังอะตอม แต่หัวช้ากว่า
Comedian : ทำงานให้รัฐบาลเหมือน Nick Fury แต่ฉลาดน้อยกว่า บ้ากามกว่า และตายง่ายกว่า
Ozymandias : มีพลังเหมือน Peter Cannon, Thunderbolt แต่เลือดเย็นกว่า
Nite Owl : มีบทบาทเหมือน Batman แต่ใสซื่อกว่า
Silk Spectre II : มีบทบาทเหมือน Nightshade ผสมกับ as Black Canary and Phantom Lady แต่ไม่มีพลังเท่า
........
สรุป
ดูผิว ๆ แล้วการ์ตูนเหมือนจะอธิบายประวัติศาสตร์เสริมแต่งจินตนาการว่า อเมริกันและโลกนี้ผ่านสงครามมาได้ด้วยเรื่องตลกชวนเชื่อ ซึ่งอาจจะเปรียบได้กับข่าวลวงที่ใช้กันสมัยสงคราม
แต่ถ้ามองให้ลึกอีกมุมหนึ่ง Watchmen ยามของโลกนี้พยายามแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าอย่างไรการขัดแย้งของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด การที่ทุกคนกลัวศัตรูคนเดียวกันปัจจุบันนี้ก็เหมือนกับกลัวภัยก่อการร้ายที่มีอยู่ทั่วโลก สุดท้ายศัตรูของมนุษย์ที่แท้จริงอาจจะไม่ใช่พลังเหนือมนุษย์ หรือภัยธรรมชาติ อาวุธล้ำสมัย แต่คือสันดานชั่วทั้งหลายของมนุษย์ที่ไม่เปรียนแปลง ผู้เขียนต้องการสื่อมาแบบนี้
แต่ความคิดเรื่องการที่สุดท้ายทุกคนไม่ใครดีอย่างเดียว หรือชั่วอย่างเดียวก็จริง แต่ฉากที่รุนแรง และการให้เสียสละคนกลุ่มน้อยให้ตาย เพื่อคนกลุ่มมาก เป็นเพียงการแก้ปัญหาแบบขอไปที แบบเอาไว้ใต้พรมเท่านั้น ไม่ต่างจากระเบิดพลีชีพของผู้ก่อการร้าย ซึ่งปัจจุบันเห็นแล้วว่าไม่สามารถนำสันติสุขมาได้ มีแต่จะสร้างความสูญเสีย (โลกเป็นจริงต่างจากโลกการ์ตูน)
นอกจาก Ozymandias ซึ่งเป็นตัวแทนของชนชั้นปกครองที่ไม่ไดรับการลงโทษใด ๆ เลยจากการสังหารหมู่ด้วยความปรารถนาดีที่จะให้สังคมโลกสงบสุข เพียงพูดวาทกรรมสำนึกผิด และถูกเพื่อนที่ไม่มีความหมายกับเขามากนักทิ้งก็จบกัน
ก็เหมือนภาพที่ผู้ประท้วงน้ำดอกไม้ไปปักไว้ที่ปืนก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะถูกยิงทิ้งในฉบับภาพยนตร์ที่สุดท้ายทุกอย่างก็หายไปกับการเวลา
เพราะความคิดที่จะจัดการสังคมแบบ Ozymandias นั้นเป็นความคิดของระบบเผด็จ หรือระบบเผด็จการเสียงข้างมากอย่างแท้จริง และความสงบที่เขาหลอกลวงสุดท้ายก็ถูกเปิดเผยด้วยบันทึกความจริงของ Rorschach ที่เสียชีวิตไปแล้วอยู่ดี
และปัญหาความขัดแย้งไม่มีทางหมดไปตราบใดที่ยังมีปัญหาเรื่องชนชั้น ความไม่ยุติธรรม และความยากจน แม้ความพยายามให้โลกสงบสุขด้วยการหลอกลวง หรือก่อการร้ายของ Ozymandias สุดท้ายแล้วก็สูญเปล่า เอาเงินทั้งหมดไปช่วยด้านการศึกษาสอนให้เยาวชนเป็นคนดี สนับสนุนต้นแบบที่ดีให้เยาวชนจะดีกว่านะ...
ตัวละครทั้งหกเป็นตัวแทนของความเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบเช่น นักสืบและนักเลงจอมโหด (Rorschach) นักวิทยาศาสตร์โครงการยักษ์ที่คิดว่าตนเป็นพระเจ้าจนเมียทิ้ง (Dr.Manhattan) ทหารหรือตำรวจชั่ว ๆ ที่ทำงานเก่ง (Comedian) นักการเมืองที่หาประโยชน์จากคนอื่น (Ozymandias) คุณชายขับรถหรูชอบเป็นอาสาสมัครชุมชน (Nite Owl) และสาวสวยตุ๊กตาหน้ารถแก๊งเด็กแว้น (Silk Spectre II)....
พวกตัวละครจาก Watchmen มีสมาชิก ๖ คน คือ
๑. Rorschach: (คู่หู Nite Owl)
ตุลาการข้างถนน ศาลเตี้ยจอมโหด ผู้แบ่งโลกเป็นขาวและดำชัดเจน และไม่อภัยให้กับความชั่ว
เนื่องจากแผลทางจิตใจในวัยเด็กที่ถูกรังแก และโดนดูถูกว่าเป็นลูกของผู้หญิงหากิน เขาเป็นตัวแทนของการต่อสู้เอาชีวิตรอดในสังคมของคนชั้นกรรมาชีพ ที่ทำทุกวิถีทางเพื่อชีวิตรอดจากสังคมที่ชั่วร้าย การที่เขาฆ่า และทำลายคนชั่วแฝงไว้ด้วยการเรียกร้องการเท่าเทียมกันในมนุษย์ เพื่อให้เขาปรากฏตัวตนอยู่ จะเห็นได้ว่าหลายครั้ง Rorschach ถอดหน้ากากออกแล้วไปปะปนกับคนจนตามถนนเพื่อแอบดูเพื่อน ๆ เขา แต่ก็ไม่มีใครจำเขาได้ ในขณะที่มีคนชั้นกรรมาชีพถือป้ายเรียกร้องรัฐบาลตลอดเรื่องตามถนน แต่ก็ไม่มีคนสนใจความทุกข์ยากของประชาชนคนใดคนหนึ่ง ก็ถูกมองว่าเป็นเรื่องบ้าบอไร้สาระ มีแต่เรื่องสงครามโลกที่ทุกคนกำลังหวาดกลัวว่าสำคัญที่สุด
Rorschach คือตัวแทนแห่งการต่อสู้ของชนชั้นกรรมาชีพที่พยายามจะมีตัวตนในสมัยนั้น ที่ต้องทำทุกอย่างด้วยตนเอง โดยผสมกับความเป็นคาวบอยแบบอเมริกาที่นิยมใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาเมื่อกฎหมายเอือมไปไม่ถึง ดังนั้นในตอนจบเมื่อโลกเข้าสู่สันติสู่โดยสมมุติ Rorschach ซึ่งเป็นปีศาจหรือเทพแห่งความยุติธรรมในโลกเก่าของคนจนจึงต้องตายไปเนื่องจากไม่ยอมรับว่าโลกใหม่มีหลากสี เพราะเขารู้จักขาวและดำเท่านั้น จึงเป็นเหมือนทีวีขาวดำที่หมดไปจากโลกใหม่
๒. Dr.Manhattan:
ยอดมนุษย์ ที่มีพลังเหมือนพระเจ้า จนมองคนอื่นเป็นมดปลวก แต่ยังแพ้ให้กับความรัก
คนที่ได้รับพลังอันยิ่งใหญ่มาโดยบังเอิญ แต่กลับใช้เพื่อสร้างความสุขให้กับตนเองไม่ได้ มีแต่ความทุกข์ เนื่องจากใช้มุมมองของพระเจ้ามองและผิดหวังในมวลมนุษย์ แต่ก็ไม่มีความฉลาดหรือจิตใจที่ดีงามเข้มแข็งเท่าพระเจ้า เพราะถูกพลังที่ตนมีครอบงำจนตนตกอยู่ในความทุกข์เพราะหลุดโลกเข้ากับคนอื่นไม่ได้ เหมือนเด็กออทิสติก ที่เป็นอัจฉริยะ จึงต้องแยกออกจากกลุ่ม ทิ้งคนที่รักไปอยู่คนเดียว เพราะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามการตัดสินใจของคนอื่น จะมาเก็บกวาดช่วยเหลือก็ต่อเมื่อช่วยแทบจะไม่ได้แล้ว
Dr.Manhattan เป็นตัวแทนของพลังธรรมชาติ พลังวิทยาศาสตร์ ปรัชญาวิทยาศาสตร์ และความล้มเหลวในพลังที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ที่ใช้ไม่เป็น ทำให้ฆ่าทำลายกันเอง และการที่เขาบอกว่าเขาเป็นแค่ช่างนาฬิกา ก็แสดงว่าเขาเป็นผู้อยู่เหนือกาลเวลา แต่ก็เป็นสิ่งสมมุติและถูกสงสัยว่าเป็นภัยหรือไม่ เช่นเดียวศีลธรรมกับความใคร่รู้ทางวิทยาศาสตร์บางทีก็ไปด้วยกันไม่ได้
นัยหนึ่ง Dr.Manhattan คือตัวแทนของนักวิทยาศาสตร์อุทิศชีวิตให้กับการผลิตผลงานต่าง ๆ ในยุคนั้น ที่จรรยาบรรณทางการวิจัยในมนุษย์ยังไม่ค่อยดีนัก ทั้งอหังการคิดเทียบว่าตนเป็นพระเจ้ามองอนาคตได้ แต่กับถูกปิดบังได้เพียงเพราะกระแสกิเลสของตนเอง ในขณะที่ Comedian ผู้เป็นคู่หูและด้านตรงข้ามกับเขากับรู้ก่อน จึงถูกเก็บเป็นคนแรกโดยที่เขาก็ไม่ให้ความสนใจอะไร? มองเหมือนหนูทดลองที่ตายไป
และแม้ว่าเขาจะมีอำนาจเทียบเท่าพระเจ้า (คิดไปเอง) แต่ก็กลับแพ้ให้กับความฉลาดของ Ozymandias กลายเป็นเครื่องมือที่ใช้ฆ่า Rorschach เสียเองกับมือในตอนจบเพื่อปิดปากไม่ให้พูดความจริง ซึ่งไม่มีประโยชน์เพราะสุดท้ายความจริงก็จะเปิดเผยออกมาอยู่ดีด้วยสมุดบันทึกของ
Rorschach ที่ส่งไปที่หนังสือพิมพ์ก่อนหน้านั้นแล้ว แสดงว่าเขารู้อนาคตไม่จริงทั้งหมด และพลังของเขาถูกใช้ไปอย่างเปล่าประโยชน์
๓. Comedian: (คู่หู Dr.Manhattan)
คนโฉด สุดชั่วในคราบฮีโร่และตัวตลก ที่ทำงานให้รัฐบาล เพราะคิดว่าแก่นแท้มนุษย์ชั่วร้าย จึงสนุกไปกับชีวิต เห็นผู้อื่นเป็นตัวตลก คิดสำคัญว่าตนมีดีและอยู่เหนือคนอื่น ๆ ตามแบบค่านิยมชายที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยนั้น
คนเสเพลที่คิดว่าตนหล่อล้ำกว่าใคร ๆ แต่กลับสร้างสัมพันธภาพกับผู้หญิงไม่เป็น เขาเป็นโรคหมกมุ่นเรื่องเพศ และซาดิสม์ จึงแสดงออกทางเพศด้วยความก้าวร้าว ทำให้ผิดหวังในความรักกับหญิงที่ตนรักคือ Sally Jupiter แม่ของ Silk Spectre II
ต่อมาใช้ชีวิตแบบหลักลอยไร้ความรับผิดชอบ และทำร้ายผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาในชีวิต แม้หญิงท้องเมียตนเองก็ฆ่ามาแล้ว Comedian คือตัวแทนของทหารที่ผ่านสงครามที่เลวร้ายมาที่ถูกภาพสงครามหลอกหลอน แม้จะเข้าใจชีวิต และเห็นคุณค่าชีวิตมากกว่าคนอื่น
แต่แผลทางใจจากสงครามทำให้เขาทำร้ายตนเองและผู้อื่นเมื่อหมดยุคฮีโร่ ซึ่งเป็นตัวแทนของสงครามภาคสนาม มาถึงยุคใหม่ยิงระเบิดนิวเคลียร์ข้ามประเทศใส่กัน ทหารแก่ที่หมดโอกาสไปสงครามแล้ว ก็เป็นเพียงเหยื่อจากสงครามที่นอนรอความตายอยู่กับบ้านเช่นคนอื่น ๆ
๔. Ozymandias: (ตัวร้ายในกลุ่ม)
นักบุญคนบาป ชอบสร้างภาพว่าเป็นคนดี ไม่เคยคิดร้ายใคร แต่ความจริงเจ้าเล่ห์ที่สุด สร้างตนให้เป็นเจ้าโลก และฆ่าทุกคนที่ขวางทางแม้แต่เพื่อน แผนการที่จะสร้างโลกใหม่ที่ดีกว่าเดิม
อดีตฮีโร่ที่ทำตัวเป็นดารา ก็ไม่ต่างจากนักบินอวกาศที่กลับมาโลก หรือวีรบุรุษสงครามที่นำชื่อเสียงที่ได้มาต่อยอดหากินทางธุรกิจจนร่ำรวย ต่อหน้าคนอื่นก็เป็นคนดีแต่ลับหลังก็เป็นคนที่ชั่วร้ายที่สุดในกลุ่ม ใช้ประโยชน์จากนักโทษที่พ้นโทษจากคุกซึ่งก็เป็นชนชั้นกรรมาชีพให้กำจัดศัตรูทางธุรกิจและอุดมการณ์ โดยไม่เลือกวิธี
ตามเนื้อเรื่องแม้ว่า Ozymandias จะพยายามต่อสู้เพื่อโลกใหม่ที่ดีกว่า และคำนึงถึงประโยชน์ของมวลชนส่วนรวมตามแนวคิดของนักการเมืองที่ดีผู้มีแนวคิดสังคมนิยม แต่การคิดถึงแต่ภาครวมและประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เท่านั้น ทำให้เขาไม่เห็นคุณค่าของชนกลุ่มน้อย การยืนอยู่บนจุดยืนที่สูงสุดในสังคมของเขาทำให้เขามองว่าโลกเป็นต้นไม้ที่ตัดแต่งเพื่องอกงามดีกว่าเดิมได้ ผู้คนทั้งหลายเป็นเพียงผักปลาที่เขาใช่เพื่อบรรลุอุดมการ์โลกใหม่ในฝันตามแนวคิดพวกคลั่งลัทธิ "โลกใหม่ที่ดีกว่า"
Ozymandias เป็นตัวแทนของชนชั้นศักดินา หรือชนชั้นสูงที่สามารถกำหนดเศรษฐกิจและทิศทางของประเทศได้ หรือรัฐบาลทรราชเผด็จการเสียงข้างมากที่กำหนดว่าทรัพยากร และความอยู่รอดควรเป็นของคนหมู่มาก ส่วนคนกลุ่มน้อยก็ตายเสีย..เท่าที่จำเป็น เขาเป็นตัวแทนของอำนาจเผด็จการ หรืออำนาจมืดที่แฝงอยู่ในการเมือง
๕. Nite Owl
พระเอก ผู้ยอมดื่มน้ำตาลก้นแก้วเนื่องจากเป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงมานาน ผู้มีอีกด้านหนึ่งของชีวิตที่สนุกกับการทำตนเป็นฮีโร่ปราบเหล่าร้าย เนื่องจากพ่อรวยมีมรดกมากทำเพื่อสังคมได้ไม่ต้องห่วงปากท้องตนเอง
ถ้า Batman เป็นตัวแทนของคนร่ำรวยที่แอบทำประโยชน์ให้สังคมโดยไม่หวังผล นอกจากให้สังคมดีขึ้น กับศาลเตี้ย Nite Owl ก็มีบทบาทเหมือน Batman เต็ม ๆ แต่เขาฉลาดสู้ Batman ไม่ได้ดูจะไม่รวยเท่าด้วย (Batman บ้านใหญ่กว่า และมีสมุนทั้งคนรับใช้) เพราะความฉลาดโดนเบียดบังโดย Rorschach ส่วนบทบาทความร่ำรวยถูก Ozymandias แย่งไป
มองว่า Nite Owl เป็นตัวแทนของชนชั้นกลางที่อยู่กับสังคมแห่งความเป็นจริง คือไม่สูงเกินไปจนทำให้ความรับผิดชอบต้องอยู่เหนือศีลธรรมความเป็นคน และชีวิตก็ไม่เลวร้ายต้องสู้ดิ้นรนเท่ากับชนชั้นกรรมาชีพ เขาจึงรักษาจิตใจที่ดีไว้ได้ แม้จะมีภูมิหลังขัดแย้งกับพ่อที่ไม่ชอบงานที่เขาทำแต่เขาก็ผ่านมันไปได้ด้วยการได้เลือกวิถีชีวิตที่ตนชอบหลังพ่อตาย การมีจิตใจที่ดีทำให้เขาเข้าได้กับทุกคนในเรื่อง และสามารถถอดหน้ากากมาใช้ชีวิตตามปกติได้ยามที่ต้องการ แต่การต่อสู้สร้างความเป็นชาย และความตื่นเต้นให้กับชีวิตรักของเขา ซึ่งตรงนี้ต่างจาก Batman ที่ปมในใจทำให้เขาคบกับสาวคนไหนไม่ได้นาน
๖. Silk Spectre II: (แฟน Dr.Manhattan)
สาวสวยคนเดี่ยวในกลุ่ม มีด้านมืดในชีวิตเหมือนคนอื่น แต่ก็ผ่านพ้นมาได้เนื่องจากมีแม่ที่ดี ทำให้เธอกลายเป็นคนจิตใจดีด้วย
Sally Jupiter แม่ของ Silk Spectre II เคยถูก Comedian จะข่มขืน แต่แฟนช่วยไว้ได้ เชื่อว่า Sally Jupiter มีใจให้กับ Comedian และสับสนในคุณค่าของตนเอง เพราะหลังจากปีหนึ่งเธอก็อภัยให้ Comedian ยอมมีสัมพันธภาพแต่เมื่อไปไม่รอดเพราะนิสัยของ Comedian ที่เห็นแก่ตัวถือความคิดตนเป็นใหญ่ สุดท้าย Sally Jupiter ก็รู้ว่าตนคิดผิดจึงกลับไปคืนดีกับแฟนเก่า แต่เธอก็ตั้งครรภ์มีลูกสาวกับ Comedian แล้วคือ Silk Spectre II
Silk Spectre II ก็เป็นตัวแทนของสตรีอเมริกันทั่วไปที่สับสนในตนเอง เช่นเดี่ยวกับแม่ของเธอ เธอเลือกเป็นแฟนกับ Dr.Manhattan เพราะความเท่ความเก่งเหนือคนของเขาจากเปลือกนอก
สุดท้ายเมื่อเธอเลือกผิดเธอจึงเลิกกันกับ Dr.Manhattan และไปคบกับ Nite Owl ที่มีความใส่ใจเธอมากกว่า และแอบชอบเธอมาก่อน ตามปรัชญารักฝรั่งว่าเลือกคนที่รักเราดีกว่า เลือกคนที่เรารัก แต่ทำให้เราเป็นทุกข์ตลอด
เหมือนเด็กมีปัญหาที่แสร้งทำว่าตนไม่มีปัญหา Silk Spectre II มีปัญหาในครอบครัวที่พ่อเลี้ยงมักทะเลาะกับแม่เสมอ แต่แม่ของเธออบรมสั่งสอนดูแลเธอมาดี ไม่ทำให้ปัญหานั้นกลายเป็นปัญหาของเธอ การที่เธอเลือก Dr.Manhattan ชายผู้ยิ่งใหญ่รุ่นพ่อเป็นแฟนคนแรก อาจจะสื่อว่าเธอต้องการความรักจากพ่อ (แสดงว่าพ่อเลี้ยงอาจจะเป็นพ่อที่ดีของเธอไม่ได้)
ทั้งการที่เธอรับบทบาทเป็นฮีโร่ที่ใช้ความรุนแรงอีกมุมหนึ่งที่แอบไว้ไม่ให้ใครรู้ก็แสดงว่า เธอก็เก็บกดและระบายมันออกมาด้วยการแก้แค้นสังคมเช่นกัน เพียงแต่แอบแฝงอย่างแยบยลในเชิงบวก
เธอจึงไม่มีที่ไปและคบกับคนอื่นไม่ได้นอกจากพวกที่ใส่หน้ากากมีความขาด ๆ เกิน ๆ เติมเต็มให้กันได้เพราะเป็นพวกเดียวกัน
........
ซึ่งการที่ Rorschach ถูกจับและพิสูจน์ทางจิต ก็เหมือนกับเป็นตัวแทนกลุ่มที่ถูกสงสัยว่าจะมีปัญหาทางจิตอันใดที่แอบซ่อนไว้ในหน้ากากนั้นหรือไม่
แต่แม้แต่ว่าจะถอดหน้ากากแล้วแบบ Ozymandias แต่ก็เปลี่ยนมาใส่หัวโขนพรางตัวด้วยการปั้นยิ้มเข้าสังคมเก่งขึ้นปิดบังความผิดปกติทางจิต หรือความชั่วร้ายที่คิดจะแก้แค้นสังคมไว้อย่างแยบยลยิ่งขึ้น
.......
ลักษณะการ์ตูนอื่น ๆ ที่คล้ายกัน
Rorschach : เปรียบเทียบได้กับ The Question ฮีโร่นักสืบในจักรวาลโลกการ์ตูน แต่แปลงโฉมไม่ได้ เพียงแต่ปิดบังใบที่แท้จริงไว้ไม่มีใครเห็น
Dr.Manhattan : บทบาทเหมือน Captain Atom ฮีโร่พลังอะตอม แต่หัวช้ากว่า
Comedian : ทำงานให้รัฐบาลเหมือน Nick Fury แต่ฉลาดน้อยกว่า บ้ากามกว่า และตายง่ายกว่า
Ozymandias : มีพลังเหมือน Peter Cannon, Thunderbolt แต่เลือดเย็นกว่า
Nite Owl : มีบทบาทเหมือน Batman แต่ใสซื่อกว่า
Silk Spectre II : มีบทบาทเหมือน Nightshade ผสมกับ as Black Canary and Phantom Lady แต่ไม่มีพลังเท่า
........
สรุป
ดูผิว ๆ แล้วการ์ตูนเหมือนจะอธิบายประวัติศาสตร์เสริมแต่งจินตนาการว่า อเมริกันและโลกนี้ผ่านสงครามมาได้ด้วยเรื่องตลกชวนเชื่อ ซึ่งอาจจะเปรียบได้กับข่าวลวงที่ใช้กันสมัยสงคราม
แต่ถ้ามองให้ลึกอีกมุมหนึ่ง Watchmen ยามของโลกนี้พยายามแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าอย่างไรการขัดแย้งของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด การที่ทุกคนกลัวศัตรูคนเดียวกันปัจจุบันนี้ก็เหมือนกับกลัวภัยก่อการร้ายที่มีอยู่ทั่วโลก สุดท้ายศัตรูของมนุษย์ที่แท้จริงอาจจะไม่ใช่พลังเหนือมนุษย์ หรือภัยธรรมชาติ อาวุธล้ำสมัย แต่คือสันดานชั่วทั้งหลายของมนุษย์ที่ไม่เปรียนแปลง ผู้เขียนต้องการสื่อมาแบบนี้
แต่ความคิดเรื่องการที่สุดท้ายทุกคนไม่ใครดีอย่างเดียว หรือชั่วอย่างเดียวก็จริง แต่ฉากที่รุนแรง และการให้เสียสละคนกลุ่มน้อยให้ตาย เพื่อคนกลุ่มมาก เป็นเพียงการแก้ปัญหาแบบขอไปที แบบเอาไว้ใต้พรมเท่านั้น ไม่ต่างจากระเบิดพลีชีพของผู้ก่อการร้าย ซึ่งปัจจุบันเห็นแล้วว่าไม่สามารถนำสันติสุขมาได้ มีแต่จะสร้างความสูญเสีย (โลกเป็นจริงต่างจากโลกการ์ตูน)
นอกจาก Ozymandias ซึ่งเป็นตัวแทนของชนชั้นปกครองที่ไม่ไดรับการลงโทษใด ๆ เลยจากการสังหารหมู่ด้วยความปรารถนาดีที่จะให้สังคมโลกสงบสุข เพียงพูดวาทกรรมสำนึกผิด และถูกเพื่อนที่ไม่มีความหมายกับเขามากนักทิ้งก็จบกัน
ก็เหมือนภาพที่ผู้ประท้วงน้ำดอกไม้ไปปักไว้ที่ปืนก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะถูกยิงทิ้งในฉบับภาพยนตร์ที่สุดท้ายทุกอย่างก็หายไปกับการเวลา
เพราะความคิดที่จะจัดการสังคมแบบ Ozymandias นั้นเป็นความคิดของระบบเผด็จ หรือระบบเผด็จการเสียงข้างมากอย่างแท้จริง และความสงบที่เขาหลอกลวงสุดท้ายก็ถูกเปิดเผยด้วยบันทึกความจริงของ Rorschach ที่เสียชีวิตไปแล้วอยู่ดี
และปัญหาความขัดแย้งไม่มีทางหมดไปตราบใดที่ยังมีปัญหาเรื่องชนชั้น ความไม่ยุติธรรม และความยากจน แม้ความพยายามให้โลกสงบสุขด้วยการหลอกลวง หรือก่อการร้ายของ Ozymandias สุดท้ายแล้วก็สูญเปล่า เอาเงินทั้งหมดไปช่วยด้านการศึกษาสอนให้เยาวชนเป็นคนดี สนับสนุนต้นแบบที่ดีให้เยาวชนจะดีกว่านะ...
ตัวละครทั้งหกเป็นตัวแทนของความเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์แบบเช่น นักสืบและนักเลงจอมโหด (Rorschach) นักวิทยาศาสตร์โครงการยักษ์ที่คิดว่าตนเป็นพระเจ้าจนเมียทิ้ง (Dr.Manhattan) ทหารหรือตำรวจชั่ว ๆ ที่ทำงานเก่ง (Comedian) นักการเมืองที่หาประโยชน์จากคนอื่น (Ozymandias) คุณชายขับรถหรูชอบเป็นอาสาสมัครชุมชน (Nite Owl) และสาวสวยตุ๊กตาหน้ารถแก๊งเด็กแว้น (Silk Spectre II)....
ถ้า Dr.Manhattan ฆ่า Ozymandias เรื่องก็คงจบลงแบบสูตรการ์ตูนเด็กว่าคนผิดต้องถูกลงโทษ แต่ผู้แต่งพยายามใส่ความเป็นมนุษย์ ซึ่งก็คือความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์ และโลกใบนี้
ทำให้เรื่องนี้ไม่ใช่การ์ตูนฮีโร่ทั่วไป เพราะฮีโร่เรื่องนี้ขาด ๆ เกิน ๆ เนื่องจาก Ozymandias เป็นตัวแทนของโลกใหม่เผด็จการทุนนิยม เผด็จการเสียงข้างมากจึงต้องอยู่ต่อไปบนความตายของชนชั้นกรรมาชีพ และตัวแทนของโลกเก่าที่มีแต่เพียงดำและขาวต่างกันชัดเจนอย่าง Rorschach ...ต้องตาย !
โดยบางครั้ง Dr.Manhattan ก็คือตัวแทนของกาลเวลา ตัวแทนของความคิดเชิงเหตุผลของคนรุ่นใหม่ล้ำยุค ที่ให้ความสำคัญของวัตถุที่จับต้องได้ในปัจจุบัน มากกว่านามธรรมและสิ่งสวยงามในอดีตที่สูญเสียไปแล้ว เหมือนนักธุรกิจ และนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่มีหัวใจ มีแต่กำไรขาดทุน และผลสำเร็จของงานเป็นสำคัญ
ต่างจากวรรณกรรมเรื่องอื่นของอเมริกาปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับส่วนย่อย ไปสู่ส่วนใหญ่ ให้ความสำคัญกับความดีและคุณธรรมในการเป็นมนุษย์มากกว่า การสังเวยเพื่อส่วนร่วมแบบไร้หัวใจ ดูจะมองโลกสวยงามมากขึ้นกว่าความเป็นจริง
ดังนั้นแม้เรื่อง Watchmen จะเป็นการ์ตูนฝันเฟื่อง ไม่สมเหตุสมผล แต่ก็สะท้อนความขัดแย้งในปรัชญาความเป็นมนุษย์ ระหว่างความดีชั่ว และความทุกข์ที่ทุกคนต้องเคยประสบพบเจอ
ทำให้ผู้อ่านไม่มองว่าโลกนี้มีแต่ความสมบูรณ์แบบ เพราะแม้แต่ฮีโร่ในเรื่องก็ประสบแต่ความล้มเหลว และไม่สมบูรณ์แบบในชีวิตของตนเอง เพียงแต่พวกเขาเลือกที่จะลุกขึ้นสู้ชีวิตตามหลักอุดมการณ์ของตนเอง อย่างแบบฉบับอเมริกา
แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องรู้จักการปล่อยว่าง ทั้งการจากเป็นของ Dr.Manhattan (ตัวแทนของอุดมการณ์ยิ่งใหญ่ ที่วันหนึ่งอาจจะกลับมา) และการจากตายของ Rorschach (ตัวแทนของโลก) ก็คืออุทาหรณ์สอนใจเกี่ยวกับความไม่เที่ยง ไม่สมบูรณ์ ไม่ยุติธรรม ของชีวิต
นิยมของความดีความชั่ว อาจจะเอนเอียงเปลี่ยนแปลงไปตามกาลสมัย แท้จริงผู้ที่อยู่รอดได้ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนดีบริสุทธิ์เสมอไป เพราะโลกนี้ตั้งอยู่บนความสมดุล อันประกอบขึ้นจากสิ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบ และต้องตายดับสูญสักวันหนึ่ง จุดจบจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่มีการสิ้นสุด
https://youtu.be/6lR35MhVMssดังนั้นแม้เรื่อง Watchmen จะเป็นการ์ตูนฝันเฟื่อง ไม่สมเหตุสมผล แต่ก็สะท้อนความขัดแย้งในปรัชญาความเป็นมนุษย์ ระหว่างความดีชั่ว และความทุกข์ที่ทุกคนต้องเคยประสบพบเจอ
ทำให้ผู้อ่านไม่มองว่าโลกนี้มีแต่ความสมบูรณ์แบบ เพราะแม้แต่ฮีโร่ในเรื่องก็ประสบแต่ความล้มเหลว และไม่สมบูรณ์แบบในชีวิตของตนเอง เพียงแต่พวกเขาเลือกที่จะลุกขึ้นสู้ชีวิตตามหลักอุดมการณ์ของตนเอง อย่างแบบฉบับอเมริกา
แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องรู้จักการปล่อยว่าง ทั้งการจากเป็นของ Dr.Manhattan (ตัวแทนของอุดมการณ์ยิ่งใหญ่ ที่วันหนึ่งอาจจะกลับมา) และการจากตายของ Rorschach (ตัวแทนของโลก) ก็คืออุทาหรณ์สอนใจเกี่ยวกับความไม่เที่ยง ไม่สมบูรณ์ ไม่ยุติธรรม ของชีวิต
นิยมของความดีความชั่ว อาจจะเอนเอียงเปลี่ยนแปลงไปตามกาลสมัย แท้จริงผู้ที่อยู่รอดได้ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนดีบริสุทธิ์เสมอไป เพราะโลกนี้ตั้งอยู่บนความสมดุล อันประกอบขึ้นจากสิ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบ และต้องตายดับสูญสักวันหนึ่ง จุดจบจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่มีการสิ้นสุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น