Demonology
😈 คือการศึกษาที่ว่าด้วยเรื่อง Demon ปีศาจ Devil พญามาร ซึ่งเน้นที่การจำแนกปีศาจในตำนานความเชื่อในอารยธรรมต่าง ๆ นอกจากนี้ยังศึกษาเกี่ยวกับ God พระเจ้า/เทพ ที่ถูกเปลี่ยนเป็นปีศาจ รวมทั้ง Semi-God Demi-God เทพชั้นรอง สัคว์/มนุษย์กึ่งเทพ (สัตว์หิมพานต์ / สัตว์วรรณคดี) นอกจากนี้อาจจะรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติทั้งหลายอย่าง Monster อสูรกาย และมนุษย์ต่างดาว Alien , UFO ซึ่งถูกสันนิษฐานว่าเป็นที่มาของเทพและปีศาจในยุคใหม่ โดยที่ปีศาจวิทยาอาจจะคาบเกี่ยวกับการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ หรือเอาทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์และการวิจัยมาจับด้วย
the conjuring 1, USA film 2013
Demonologist
😈 Demonologist แปลว่า นักปีศาจวิทยา หรือ Paranormal researcher นักวิจัยปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ แต่บางครั้งก็อาจจะรวมพวก Ghost hunter นักล่าผี , หมอผี เข้าไว้ด้วย
the conjuring 1, USA film 2013
😈😈😈😈😈😈😈😈😈😈😈😈
Demons & Non - humans
(which should be in general knowledge) ปีศาจและอมนุษย์ (ที่ควรรู้จัก)Demi gods (French)
😈 Hemi gods (Greek) Semi gods (Latin) เทพชั้นรอง (ผู้เป็นอมนุษย์ หรือมนุษย์ครึ่งเทพ) ซึ่งในความเชื่อดังเดิมเทพชั้นรองมักจะมีความรักกับมนุษย์ ทำให้กำเนิดวีรบุรุษต่าง ๆ ในตำนานมากมาย ซึ่งการมีผู้สมอ้างการเป็นลูกหลานของเทพต่าง ๆ นั้นท้าทายอำนาจของผู้ปกครองต่าง ๆ ในสังคมโบราณของกษัตริย์ ทำให้ในสมัยต่อมา เมื่อไม่มีความจำเป็น หรือความต้องการในการตั้งวงศ์กษัตริย์ใหม่ขึ้นเองจากสามัญชนที่ทรงปัญญาด้วยการอ้างความชอบธรรมในการเป็นลูกหลานของเทพหรือพระเจ้าตนใดแล้ว ศาสนาคริสต์จึงได้ แก้ไขใหม่ว่า การที่เทพต่าง ๆ มีความรักกับมนุษย์ทางโลกิยะ (son of God) เป็นสิ่งที่ไม่ได้การอนุญาตจากพระเจ้าและเป็นบาป ซึ่งเทพเหล่านั้นจะถูกลงโทษให้ตาบอด หรือทำให้ตกสวรรค์กลายเป็นปีศาจ และลูกหลานของเทพและมนุษย์ไม่ได้เป็นวีรบุรุษ หรือบรรพกษัตริย์เหมือนตำนานกรีกโรมัน แต่เป็นพวกมนุษย์ยักษ์ร้ายกาจ (เนฟิลิม Nephilim บางจำพวก) พ่อมด หรือแม่มด ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายและทำร้ายมนุษย์ (ศาสนาคริสต์บางนิกายว่าพวกยักษ์ เนฟิลิม Nephilim สร้างโดยพระเจ้า และเป็นเทวทูตตกสวรรค์)
😈 โดยทางประวัติศาสตร์ศิลปะ มักจะมีการวาดภาพเทพ และพระเจ้าให้ตัวใหญ่กว่ามนุษย์ และบริวารทั่วไปเพื่อแสดงให้ถึงอำนาจและความศักดิ์สิทธิ์ อาจจะเป็นที่มาของความเชื่อเรื่องมนุษย์ยักษ์ ฯ ส่วนพ่อมดและแม่มด ในสมัยโบราณคือกลุ่มนักบวช หรือศาสดาพยากรณ์ของลัทธิศาสนาอื่นที่นับถือพระเจ้าหลายองค์ ซึ่งถูกเปลี่ยนให้เป็นปีศาจในคริสตศาสนา หรือศาสนาคู่อริ ร่วมถึงชาวบ้าน ผู้อ่อนแอ เคราะห์ร้ายที่ถูกคนชั่วใส่ร้ายเพื่อช่วงชิงที่ดิน ทรัพย์สินทรัพย์ในกรรมสิทธิ์ หรือทารุณกรรมจากสังคมเพื่อสนองความดิบเถื่อนและความเชื่องมงายที่ซ่อนอยู่ในรูปของการฆ่าหรือกวาดล้างแม่มดพ่อมดซึ่งอาจจะเป็นบุคคลกลุ่มน้อยที่ขัดแย้งกับประโยชน์ทางการเมือง หรือการกลั่นแกล้งจากผู้มีอิทธิพลในสมัยนั้น ฯ
Demon ปีศาจ
😈 ทั้งที่ความจริงคำว่า "เดมอน Demon" แต่เดิมในภาษากรีกสะกดว่า Daimon แปลว่า "เปี่ยมไปด้วยความรู้" "replete with knowledge" ดังนั้น เดมอนคือผู้เปี่ยมไปด้วยปัญญา และตามความหมายเดิมเดมอนจึงเป็นเทพชั้นรอง แม้ไม่ใช่เทพชั้นสูง แต่ก็ไม่ได้ล่อลวงหรือชั่วร้าย แต่เป็นผู้ทรงปัญญา ต้องการเคารพ และให้เกียรติ โดยแลกเปลี่ยนภูมิปัญญากับมนุษย์ แนวคิดของผู้บูชาเดมอนเรียกว่า เดโมโนลาทรี Demonolatry
😈 เดมอนของกรีกแบ่งเป็นสองประเภทคือ eudaemon, eudaimon หรือ eudemon ในตำนานเทพเจ้ากรีกเป็นประเภทของภูต วิญญาณหรือเทพอัจฉริยะ ถือว่าเป็นวิญญาณที่ดีหรือทูตสวรรค์ ส่วน cacodaemon เป็นภูต วิญญาณหรือเทพที่ชั่วร้าย ดังนั้นแต่เดิมคำว่าเดมอนของกรีกจึงไม่ต่างไปจากคำว่าเทพชั้นรอง หรือวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีทั้งดีและไม่ดี
😈 เดมอนของกรีกแบ่งเป็นสองประเภทคือ eudaemon, eudaimon หรือ eudemon ในตำนานเทพเจ้ากรีกเป็นประเภทของภูต วิญญาณหรือเทพอัจฉริยะ ถือว่าเป็นวิญญาณที่ดีหรือทูตสวรรค์ ส่วน cacodaemon เป็นภูต วิญญาณหรือเทพที่ชั่วร้าย ดังนั้นแต่เดิมคำว่าเดมอนของกรีกจึงไม่ต่างไปจากคำว่าเทพชั้นรอง หรือวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีทั้งดีและไม่ดี
😈 ส่วนคำว่าปีศาจในสันสกฤตคือ ปิศาจ (เป็นสระ อิ) ซึ่งมีอธิบายในคัมภีร์อาถรรพเวทว่า กระวฺยาท หมายถึง สัตว์กินเนื้อ ผู้กินเนื้อดิบ
😈 ในคัมภีร์พระเวทใช้ศัพท์ที่มีรากศัพท์เดียวกันคือ ปิศุนะ (ใส่ร้าย ให้ร้าย เผยออกมา รากฐาน ฯ) ตรงกับคำละตินว่า piget ภาษาเยอรมันโบราณชั้นสูงคือ fehida (ความเป็นศัตรู ความเป็นปฏิปักษ์)
😈 ตรงกับภาษาของพวกแองโกล แซกซัน (Anglo-Saxon ชนพื้นเมืองทางใต้และตะวันออกบนเกาะอังกฤษ) คือคำว่า faehp (อาฆาต พยาบาท) ซึ่งมีความสัมพันธ์กับคำภาษากอท / กอธ คือ fijan (ที่ทำร้าย) (ชาวกอทเป็นชนเผ่าเจอร์มานิคตะวันออกที่มีที่มาจากกึ่งตำนานสแกนด์ซา (Scandza) ที่เชื่อกันว่าอยู่ในบริเวณที่เป็นเยอตาแลนด์ (Götaland) ในสวีเดนปัจจุบัน)
😈 ดังนั้นปีศาจมีความสัมพันธ์กับคำภาษาอังกฤษปัจจุบันคือ fiend (เก่งอย่างร้ายกาจ มาร ผู้ทารุณดุร้าย ผู้ติดของมึนเมา)
😈 ส่วนในภาษาสันสกฤต ปิศาจ มีความสัมพันธ์กับคำว่า ปิศิตะ แปลว่าเนื้อสด (และ) ปิศะ คือ กวางชนิดหนึ่ง และสีแดงอมน้ำตาลหรือเหลือง (กวางที่มีสีดังกล่าว) เป็นต้น
😈 ภาษาสันสกฤตปัจจุบัน ปิศาจ แปลว่า อสูรกาย ผี goblin (ก็อบลิน ภูตเจ้าเล่ห์) ยักษ์กินคน ฯ ผู้ที่มุ่งร้าย และคนที่ทารุณโหดร้ายเหมือนปีศาจ (ใกล้เคียงกับคำว่าปีศาจในภาษาไทยมาก)
😈 ในวรรณคดีสันสกฤตปิศาจ เป็นอมนุษย์ชั้นต่ำ ที่เป็นภาคีกับอมนุษย์ชั้นสูงคือ ยักษ์กินคน (Ogre) และรากษส (Vampire ผีดูดเลือด) ซึ่งเป็นศัตรูกับมนุษย์และเทวดา
.........
Vamprie รากษส
😈 ผีดูดหรือแวมไพร์ Vampire มีมากมายหลายวัฒนธรรม เช่น
- ชตริก้า Shtriga ของ Albania แอลเบเนีย
- สตริกอย Strigoi ของ โรแมนเนีย Romania
- ส่วน กรีกคือ วริโคลาคัส หรือ วริคโคลัคคาส (Vrykolakas) เป็นต้น
😈 วริโคลาคัส หรือ วริคโคลัคคาส (Vrykolakas) ซึ่งเป็นผีดิบที่ฟื้นจากความตาย เนื่องจากประกอบพิธีศพไม่ถูกต้อง หรือไม่ได้ประกอบพิธีศพโดยใส่เงินปากผี (ความเชื่อที่ว่าคนตายจะต้องมีเหรียญทองติดตัวเพื่อจ่ายให้กับซารอน Sharon เพื่อให้ได้โดยสารเรือของซารอน เพื่อไปยังทาร์ทารัส Tartarus นรกหรือโลกแห่งความตายของกรีก)
😈 คำว่า วริโคลาคัส (Vrykolakas) ในภาษาตระกูลอินโดยูโรเปียน เช่น ภาษาสลาวิกโบราณ (Proto- Slavic): Vblkolakb, ภาษาลิทัวเนีย (Lithuanian): Vilkolakis ฯ
😈 คือมาจากรากศัพท์ /Vuk/ หรือ /Valk/ หมายถึงขนของหมาป่า ดังนั้นเดิมคำว่า วริโคลาคัสน่าจะหมายถึงมนุษย์หมาป่าก่อน แต่ต่อมาความหมายย้ายไปเป็นคำใช้เรียกแวมไพร์แทน
(ในหนัง Underworld จึงว่าบรรพบุรุษทั้งสองคือแวมไพร์ และมนุษย์หมาป่าเป็นพี่น้องกันเสียเลย)
😈 โดยวริโคลาคัส นั้นร้ายกาจ และฆ่าไม่ตายง่าย ๆ แต่ก็มีวิธี คือต้องตัดหัวหรือสับเป็นชิ้น ๆ และเผาไฟ หรือหาหลุ่มศพของมันให้เจอแล้วประกอบพิธีกรรมให้ถูกต้อง
แวมไพร์กับรากษส
😈 ส่วนกรณีที่ มีคนว่าเวตาลเพื่อนของพระวิกรมาทิตย์ ในเวตาลปัญจวึศติ (वेतालपञ्चविंशति) เป็นพวกแวมไพร์ก็คงไม่ถูกต้องนักเพราะเวตาลกินศพไม่ได้ดื่มเลือด และอมุษย์พวกหนึ่งในตำนานแขกฮินดูที่เทียบได้กับแวมไพร์คือ รากษส เพราะพวกรากษสนิยมดื่มเลือดเป็นอาหาร
😈 รากษสคืออะไร คือโคตรเหง้าฝ่าย ราวณะหรือทศกัญฐ์นั้นเอง ส่วนมนุษย์ป่า และผีดิบดูดเลือด มีอิทธิพลต่อนวนิยายและภาพยนตร์มากมายหลาย ๆ เรื่อง
.......
หมายเหตุ : ในเรื่อง Underworld กลุ่มแวมไพร์เวสเทิร์นโคเวน Western Coven ที่นำโดยโทมัส Tomas ที่คือกลุ่มที่ช่วยนางเอกและลูกเอาไว้ในภาคที่แล้ว Underworld : Awakening 2012
และหลังโทมัสตาย เดวิด David บุตรของโทมัส Tomas และ อะมีเลีย Amelia (ผู้อาวุโสแวมไพร์รุ่นก่อน) กลายเป็นผู้นำและผู้อาวุโสหนึ่งในสามที่ปกครองโลกของแวมไพร์ในตอนท้ายเรื่องภาค Underworld : blood war 2016
แวมไพร์ผู้อาวุโสใหม่ทั้งสาม Three New Vampire Elders ในท้ายเรื่อง Underworld : blood war ได้แก่ 1) เดวิด David (from the Westhern coven), 2) เลน่า Lena (Nordic coven) และ 3) นางเอกเซเลน Selene
โดยคำว่า โคเวน Coven ในภาษาอังกฤษแปลว่า "กลุ่มของแม่มด" Eastern อีสเทิร์น คือ ภาคตะวันออก
Devil พญามาร
😈 อสูร เป็นอมนุษย์ที่เป็นศัตรูกับพวกเทวดา ซึ่งเดิมอสูรเคยอยู่บนสวรรค์กับพวกเทวดา แต่ดื่มเหล้าเมาพวกเทวดารังเกียจก็จับโยนมาจากสวรรค์แต่ด้วยบุญของตนใต้เขาพระสุเมรุ จึงเกิดพิภพอสูรขึ้น พวกเทวดาต่อมาเป็นนักดื่มเสียเองเรียกตนว่า "สุระ" (ที่มาของคำว่าสุรา) ส่วนพวกที่ถูกโยนมาจากสวรรค์ (Fallen angel) เรียกตนว่า "อสุระ" สัญญากันว่าจะไม่ดื่มอีก (ได้จริงเปล่าก็ไม่รู้) ต่อมาจึงเรียกเพี้ยนเป็น อสูร
😈 พญาอสูร และนางอสูรมีรูปงามเหมือนเทวดา แต่เวลาที่จะรบกันพญาอสูรจะแปลงกายให้น่าเกลียดน่ากลัวดังเช่นปีศาจหรือสัตว์ประหลาด จึงทำให้เราเรียกสัตว์ประหลาดว่าอสูรกาย และต่อมาพวกอสูรกายและสัตว์ประหลาดจึงนับเอารวมกันว่าเป็นพวกเดียวกัน แต่นางอินทราณี หรือนางสุชาดา ชายาเอกที่สวยที่สุดและพระอินทร์รักมากสุดก็เป็นธิดาพญาอสูรเวปจิตติศัตรูร้ายของพระอินทร์
😈 ในเมืองอสูรมีต้นดอกปาตลี (ดอกแคฝอย ภพอสูร) เป็นไม้ประจำเมือง ทุกฤดูกาลที่ดอกปาตลีบานพวกอสูรจะนึกถึงดอกปาริชาต และความสุขบนสวรรค์ ก็จะยกทัพขึ้นมารบกับพระอินทร์หลายครั้ง และบางครั้งท้าวเวปจิตตีจับหลานของตนเช่น "ชยันตี" บุตรนางสุชาดาได้ก็จะไม่ทำร้ายแต่พาไปกักตัวที่พิภพอสูรเพื่อไม่ให้เป็นอันตราย จนสุดท้ายพระอินทร์ก็ไปหาทางแก้ไข หรือแอบหนีมาได้เอง
Giant ยักษ์
😈 ยักษ์ (giant) บางพวกเป็นพวกเทวดาชั้นล่าง มีท้าวกุเวร เทพแห่งทรัพย์เป็นหัวหน้า โดยในศาสนาเช่น หรือไชนะใช้คำว่า "ยักษ์" หมายถึงผู้ยิ่งใหญ่ใช้เรียกพวกเทวดา
Jinenji , Inuyasha Anime 2001
😈 ยักษ์ เป็นอมนุษย์พวกหนึ่งเป็นฝ่ายเทพ แต่เป็นญาติกับพวกรากษส มีหัวหน้าคือท้าวกุเวร เทพแห่งทรัพย์ บริวารของท้าวกุเวรคือพวกกุมภัณฑ์ (อัณฑะ เท่าหม้อ) มีหน้าที่เฝ้าสมบัติจึงเนรมิตรกายให้ตัวใหญ่น่ากลัว ค่อยฆ่าคนที่แอบเข้าไปขโมยสมบัติ บางครั้งเมื่อกรรมชั่วตามมาทันก็จะลงไปเป็นนายนิรยบาลลงโทษสัตว์นรก เมื่อกรรมดีให้ผลก็ขึ้นมาเป็นเทพชั้นจตุมหาราชิกาอีก (ต่างจากเวมานิกเปรต ที่เป็นครึ่งเปรตครึ่งเทวดา ตามวาระการให้ผลแห่งกรรมดีกรรมชั่ว) คนทั่วไปที่เข้าใจว่ายักษ์ตัวใหญ่ถือคทาหรือกระบองดุร้าย กินคน ก็คงเป็นพวกกุมภัณฑ์ (อัณฑะเท่าหม้อ) นี้
Ghost ผี / วิญญาณ
😈 ผีคือวิญญาณของคนตาย ซึ่งคำว่าผีหมายถึงซากศพในภาษาไทยเช่นสำนวน "ไม่เผาผี" หรือจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับ อย่าง ผีป่า ผีบ้าน และผีฟ้า เป็นต้น ซึ่งในคำบาลีและสันสกฤตมีคำว่า "ภูต" ซึ่งหมายถึงสิ่งมีชีวิตที่อาจจะเป็นคณะเทพบริวารของพระศิวะ (ศิวะได้ชื่อว่า ภูเตศวร หมายถึงผู้เป็นใหญ่เหนือภูตทั้งปวง) ภูตเจ้าเล่ห์ goblin อสูร demon วิญญาณของคนตาย ghost จิตวิญญาณ spirit ซึ่งรวมถึงสิ่งที่เป็นทิพย์ divine มนุษย์ human สัตว์ animal ผัก vegetable และบุคคล person ต่าง ๆ ก็จัดว่าเป็นภูตเหมือนกัน ตามหลักภูตจึงหมายถึงสิ่งมีชีวิต และสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้า creature และแม้แต่เทวดาที่ทูนถาดขาวทิพย์ขึ้นมาจากกองไพรในเรื่องรามายณะหรือรามเกียรติ์ของไทย เพื่อให้ท้าวทศรถให้ชายาทั้งสามเสวยเพื่อให้กำเนิดพระราม และพระอนุชาทั้งหลาย ในฉบับไทยว่าเป็นยักษ์ ฉบับแขกบางสำนวนว่าเป็นเทวดาก็มี แต่ในฉบับสันสกฤตของฤาษีวาลมิกิคือ "ภูต" ดังนั้นภูตยังหมายถึงสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากเวทมนต์ได้ด้วย ตามรากศัพท์คำว่า ภูต มาจาก ภู ธาตุที่แปลว่า มี เป็น คือความหมายเดิมภูตตรงกับคำว่า Being ในภาษาอังกฤษ แต่ภาษาฮินดีหรืออินโดยูโรเปียนยุคใหม่ให้ความหมายของคำว่า ภูติตรงกับคำฝรั่งว่า Ghost และคำไทยว่า ผี
Enchanter พ่อหมอ
|
|
Ryuji Keikain
in Nurarihyon no mago, Japanese Anime
|
in suicide squad USA film 2016
|
😈 คำว่า Enchanter ซึ่งแปลว่าผู้ทำเสน่ห์ ผู้ใช้เวทมนต์ ผู้ใช้มนต์ทำให้ลุ่มหลง บางครั้งคนไทยก็แปลง่าย ๆ ว่าพ่อมดไปเลยก็มีเพราะมีการแปล Enchantress ว่าแม่มดเช่นเดียวกับคำว่า Witch ซึ่งคู่กับคำว่าพ่อมดคือ Wizard แต่โดยนัยแล้ว Enchanter มุ่งเน้นไปในเรื่องของการทำเสน่ห์ให้หลงไหล และการใช้เวทมนต์เป็นหลัก ในขณะที่พ่อมด แม่มดมุ่งไปในเรื่องของการทำสัญญากับปีศาจ ซาตาน หรือเป็นลูกหลานของปีศาจทำให้มีอำนาจพิเศษเหนือธรรมชาติตามตำนานคริสตศาสนา ดังนั้นคำว่า Enchanter (Enchantress) ความจริงแล้วน่าจะตรงกับคำไทยว่า พ่อหมอ (แม่หมอ) มากกว่า ยกเว้นแต่ตัวละครการ์ตูนจักรวาล DC เอนแชนเทรส Enchantress ซึ่งมีบทบาทการใช้พลังอำนาจเหนือธรรมชาติ ที่ได้รับจากการทำสัญญากับปีศาจ ซึ่งเข้าข่าย Witch ในตำนานดังนั้นถูกแล้วที่ต้องแปลว่า แม่มด
Centaur กิมปุรุษ
|
|
Nelliel (กิมปุรุษี
Centaur) in bleach anime
|
😈 ในสันสกฤตแบ่งแยก กินนร กับกิมปุรุษ ออกจากกันคือ
ก) กินนร (กินรี) คือพวก หัวเป็นสัตว์ตัวเป็นคน (น่าจะเป็นพวกเผ่าที่เอาหัว หนังสัตว์ เขาสัตว์มาประดับบนหัว) Harpy
ข) กิมปุรุษ (กิมปุรุษี) คือพวก หัวเป็นคนตัวเป็นสัตว์ (น่าจะเป็นพวกเผ่านักรบทำชำนาญการรบบนหลังม้า) Centaur
😈 ซึ่งถือว่าทั้งสองเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่มีความแตกต่างกัน มีความเจริญในระดับหนึ่งโดยเฉพาะกินนร จนเหมือนกับว่าเป็นผู้รับใช้พระเจ้าในสวรรค์ของฮินดู
😈 กินนร เป็นนักร้องชาวสวรรค์ (แต่คนไทยมักเข้าใจว่ารำเก่งเป็นนักเต้นรำเพราะเรื่องพระสุธน นางมโนราห์รำบูชาไฟก่อนบินหนีไปและมีการแสดงที่เรียกว่ารำมโนราห์)
😈 ในวรรณคดีบอกว่าคนกินรี (กินนรเพศหญิง) เป็นครึ่งคน ครึ่งนก
😈 แต่ในวรรณคดีสันสกฤตว่า กินนรเป็นครึ่งคน ครึ่งม้า คือร่างเป็นมนุษย์แต่หัวเป็นม้า (ส่วนอมนุษย์ที่หัวเป็นคน แต่ลำตัวเป็นม้าแขกอินเดียเรียกว่า กิมปุรุษะ Centaur) อาจารย์สมัยก่อนก็เทียบว่านางแก้วหน้าม้าในวรรณคดีไทยคือนางกินรีในวรรณคดีสันสกฤต ซึ่งในวรรณคดีสันสกฤตคำว่ากินนร มาจากคำว่า /กิม/ แปลว่า "อะไร" + /นะระ/ แปลว่า "คน" โดยความหมายตามรากศัพท์ กินนร จึงแปลว่า "คนอะไร" และความหมายที่นำมาใช้จึงหมายความว่าเป็นอมนุษย์ครึ่งคน ดั้งนั้นบางครั้งจะเรียกนางอมนุษย์ที่เป็นครึ่งคนครึ่งนกว่า "กินนระ ปักษี" ก็ไม่แปลก และหลายครั้งนักวิชาการอินเดียก็บอกว่า ภาพสลักรูปกินนร และกินรีในอินเดียที่จริงเป็นภาพ พญาครุฑ กับครุฑปัตนี (นางเมียครุฑ)
😈 ส่วนอมุษย์ที่หัวเป็นม้าตัวเป็นคนคือ หยะนนา (นาง โยคินี : หน้าม้า) อัศวะมุขี (นางยักษิณี : หน้าม้า) และ หยะครีวะ หรือหัยครีพ (ภาษาไทย) อวตารพระนารายณ์ที่หัวเป็นม้า ซึ่งถือว่าเป็นราชาแห่งพวก กินนรทั้งหลายด้วย (ปัจจุบันคำว่า กินนร และ กินรี ที่แขกอินเดียเขียนเป็น กินนรี ก็มี เป็นคำสแลงแปลว่า ชายที่แต่งตัวเป็นหญิง หรือเพศที่สาม)
😈 อนึ่งลักษณะของนางกินรีไทยคล้ายกับคำอธิบายลักษณะของวิทยาธรบางจำพวกในวรรณคดีสันสกฤตที่กล่าวว่า "มีวิทยาธรบางจำพวกสามารถประดิษฐ์ปีกใส่แล้วบินไปได้ในอากาศ บางจำพวกก็อาศัยของวิเศษ และเวทมนต์ต่าง ๆ เป็นต้น"
😈 (ตำนานกรีกเรื่องปีกขี้ผึ้งของ อิคารัส Icarus ลูกชายของเดดาลัส Dedalus ; ที่คล้ายกับเรื่องลูกพญาครุฑสดายุ และพี่ชายสัมพาที บินเข้าหาดวงอาทิตย์)
Satyr คนธรรพ์
Oberon king of fairies as satyr in mahoutsukai no yome, Japanese comic.
😈 คนธรรพ์ เป็นพวกอมนุษย์กึ่งเทพที่ชอบดื่มเหล้าเมาและร้องรำทำเพลง เป็นนักฟ้อนรำในสวรรค์คู่กับนางอัปสร ดังนั้นนางอุรวศี จึงให้ท้าวปุรูรวัสคนรักขอเข้าพวกกับคนธรรพ์จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป เหมือนพวกนางไม้ nymph และเทพป่า satyr ในนิยายกรีก นางอุรวศีคือนางอัปสรผู้เป็นศิษย์เอกของภรตมุนี ผู้แต่งคัมภีร์นาฏยศาสตร์ โดยปกติในสวรรค์นางอัปสรจะเป็นนักแสดงฝ่ายหญิงส่วนนักแสดงฝ่ายชายคือพวกคนธรรพ์หรือฤาษีหนุ่ม (พวกนักสิทธิ์วิทยาธร) ที่เป็นศิษย์ของภรตมุนี
😈(ในวรรณคดีสันสกฤตเป็นปกติที่นางอัปสรจะมีบุตรกับพวกฤาษีหนุ่มที่พระอินทร์สั่งให้มาทำลายตบะ เนื่องจากกลัวว่าพวกฤาษีเมื่อมีฤทธิ์มากจะทำให้ตนเดือดร้อนหรือถอดตนจากตำแหน่งพระอินทร์เนื่องจากพระอินทร์ในวรรณคดีสันสกฤตถือตัว และชอบแกล้งฤาษี .พระอินทร์เป็นตัวแทนกษัตริย์..และเรื่องของกษัตริย์และฤาษีที่ไม่ถูกกันในวรรณคดีสันสกฤตยังมีหลายเรื่องเช่นเรื่อง ปรศุราม เป็นต้น สองวรรณะนี้ต่างแข่งกันเป็นใหญ่ในสังคมอินเดีย)
😈 เดิมมีคำว่า คนธรวศาสตร์แปลว่าความรู้ทางนาฏศิลป์และดนตรี แต่ต่อมาคำว่าคนธรวัน (คนธรรพ์) คนธรวบดี และคนธรวราชัน (ยกเว้นคนธรวราช มันตระ เป็นมนต์หาคู่ครองหรือภรรยาดี) ใช้ยกย่องผู้ที่เล่นดนตรีเป็นเลิศเช่น ฤาษีนารท และปัจจุบันนิยมใช้ยกย่องนักดนตรีที่เล่นดนตรีขั้นเทพในอินเดียใต้อีกด้วย
😈 แสดงให้เห็นว่าความหมายของคำว่าคนธรรพ์จากนักเต้นสวรรค์ได้เลื่อนมาเป็นนักดนตรีสวรรค์มีร่องรอยว่าเกิดขึ้นในอินเดียมาก่อนไทยเราจะรับมา ดังปรากฏในวรรณคดีบาลี ที่ปรากฏเรื่องราวของปัญจสิงขรคนธรรพ์ผู้เล่นดนตรีเป็นเลิศ ผู้ที่พระพุทธองค์โปรดเมตตามาก จึงเป็นเหตุผลให้พระอินทร์ใช้ให้มาทูลขอให้ตนสามารถเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าในบางครั้ง (เรื่องปัญจสิขคันธรรพเทพบุตร ในสักกปัญหสูตร พระสุตตันตปิฏก ทีฆนิกาย มหาวรรค)
Dwarf คนแคระ
Gancho, the king of the Tontatta Kingdom in one piece anime
😈 คนแคระในตำนานฝรั่งคือภูตที่คล้ายมนุษย์แต่มีรูปร่างเล็กมากเท่าหัวนิ้วโป้งไปจนขนาดตัวเล็กเหมือนเด็ก มักอยู่ในป่า ดินแดนเวทมนต์ลี้ลับ มีความสามารถในการทำเหมืองแร่มีค่า งานช่างเกี่ยวกับอัญมณี และทองคำโดยเชื่อว่าทองคำที่พวกคนแคะขุดได้จะต้องนำไปมอบให้มังกร เพราะถูกพวกมังกรข่มขู่ด้วยอำนาจ เนื่องจากมังกรต้องการทองคำจำนวนมหาศาลเอาไปปูนอน เพราะสำหรับมังกรทั้งหลายทองมีความนุ่มนวลและเหมาะกับผิวพรรณของพวกมันมากกว่าวัสดุอื่น ๆ พวกคนแคระจึงโชคร้ายกว่าพวกก็อบลิน goblin ที่ชอบขโมยอัญมณีและทอง หรือพวกเลปริคอน leprechaun ซึ่งมีเวทมนต์สามารถซ่อนทองไว้ที่ปลายสายรุ้งได้
😈 คนแคระไม่พบมานักในนิทานพื้นบ้านไทยนอกจากเรื่องวามาวตารของพระนารายณ์ที่ทรงแปลงมาเป็นพราหมณ์เพื่อปราบเจ้ากรุงพาลในเรื่องนารายณ์สิบปางและตำนานเจ้ากรุงพาลกินเครื่องสังเวยต่าง ๆ กันตามวันทั้ง 7 ในสัปดาห์ตามตำนานการบวงสรวงเจ้าที่ไทยซึ่งคำว่า วามะ แปลว่าเตี้ย แคระ ในภาษาสันสกฤต เมื่อเจ้ากรุงพาลรบชนะพระอินทร์เป็นใหญ่แล้วไม่ยอมให้ที่ดินพวกเทวดาอยู่ พระนารายณ์จึงแปลงเป็นพรามณ์เตี้ยมาขอทักษิณาทานซึ่งกษัตริย์อินเดียโบราณมีหน้าที่ให้พราหมณ์ เจ้ากรุงพาลจึงประทานให้แค่สามก้าว พระนารายณ์จึงคืนร่างเดิมแล้วก้าวสองก้าวครอบงำทำสามโลก ก้าวสุดท้ายเจ้ากรุงพาลจึงให้วางไว้บนหัวตนเอง พระนารายณ์เห็นแก่ความภักดีของเจ้ากรุงพาลจึงไม่ฆ่าให้ไปครองบาดาลโลก ซึ่งตำนานเจ้าที่ไทยว่าปีหนึ่งเจ้ากรุงพาลจะถูกอนุญาตให้ขึ้นมากินเครื่องเซ่นได้ และเจ้าที่ทั้งหลายบนโลกถือว่าอยู่ใต้อำนาจของเจ้ากรุงพาลด้วย นอกจากจะอยู่ใต้อำนาจของท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่เพราะถือว่าเป็นเทพชั้นจตุมหาราชิกา โดยมากคนไทยมักจะเข้าใจคำว่าภักดี และชื่นชม ของแขกว่าคือความลุ่มหลงในกามคุณ เพราะการแต่งบทกวีที่มักจะประดิษฐ์คำให้ไพเราะยกย่องความงามทางภาษาและรูปลักษณ์เป็นหลัก เช่นเรื่องพระรามชมความงามของทศกัณฐ์ ฉบับแขกอินเดียทำขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าพระรามเก่ง และยิ่งใหญ่ที่สุด ที่สามารถฆ่าทศกัณฐ์ที่เป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่ในทุก ๆ ด้านได้ เช่นเดียวกับเรื่องที่เจ้ากรุงพาลมอบที่สามก้าวให้ วามาวตาร นั้นก็เพื่อรักษาสัจจะ และหน้าที่ของกษัตริย์อินเดีย ไม่ได้หลงพิศวาสในกามกับวามาวตารดังนั้นความคิดแบบไทย ๆ ถ้าไม่รูปวัฒนธรรมถึงแปลมาถูก อ่านตีความแล้วกลับเข้าใจเป็นผิดก็มี
😈 คนแคระไม่พบมานักในนิทานพื้นบ้านไทยนอกจากเรื่องวามาวตารของพระนารายณ์ที่ทรงแปลงมาเป็นพราหมณ์เพื่อปราบเจ้ากรุงพาลในเรื่องนารายณ์สิบปางและตำนานเจ้ากรุงพาลกินเครื่องสังเวยต่าง ๆ กันตามวันทั้ง 7 ในสัปดาห์ตามตำนานการบวงสรวงเจ้าที่ไทยซึ่งคำว่า วามะ แปลว่าเตี้ย แคระ ในภาษาสันสกฤต เมื่อเจ้ากรุงพาลรบชนะพระอินทร์เป็นใหญ่แล้วไม่ยอมให้ที่ดินพวกเทวดาอยู่ พระนารายณ์จึงแปลงเป็นพรามณ์เตี้ยมาขอทักษิณาทานซึ่งกษัตริย์อินเดียโบราณมีหน้าที่ให้พราหมณ์ เจ้ากรุงพาลจึงประทานให้แค่สามก้าว พระนารายณ์จึงคืนร่างเดิมแล้วก้าวสองก้าวครอบงำทำสามโลก ก้าวสุดท้ายเจ้ากรุงพาลจึงให้วางไว้บนหัวตนเอง พระนารายณ์เห็นแก่ความภักดีของเจ้ากรุงพาลจึงไม่ฆ่าให้ไปครองบาดาลโลก ซึ่งตำนานเจ้าที่ไทยว่าปีหนึ่งเจ้ากรุงพาลจะถูกอนุญาตให้ขึ้นมากินเครื่องเซ่นได้ และเจ้าที่ทั้งหลายบนโลกถือว่าอยู่ใต้อำนาจของเจ้ากรุงพาลด้วย นอกจากจะอยู่ใต้อำนาจของท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่เพราะถือว่าเป็นเทพชั้นจตุมหาราชิกา โดยมากคนไทยมักจะเข้าใจคำว่าภักดี และชื่นชม ของแขกว่าคือความลุ่มหลงในกามคุณ เพราะการแต่งบทกวีที่มักจะประดิษฐ์คำให้ไพเราะยกย่องความงามทางภาษาและรูปลักษณ์เป็นหลัก เช่นเรื่องพระรามชมความงามของทศกัณฐ์ ฉบับแขกอินเดียทำขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าพระรามเก่ง และยิ่งใหญ่ที่สุด ที่สามารถฆ่าทศกัณฐ์ที่เป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่ในทุก ๆ ด้านได้ เช่นเดียวกับเรื่องที่เจ้ากรุงพาลมอบที่สามก้าวให้ วามาวตาร นั้นก็เพื่อรักษาสัจจะ และหน้าที่ของกษัตริย์อินเดีย ไม่ได้หลงพิศวาสในกามกับวามาวตารดังนั้นความคิดแบบไทย ๆ ถ้าไม่รูปวัฒนธรรมถึงแปลมาถูก อ่านตีความแล้วกลับเข้าใจเป็นผิดก็มี
Werewolf (Lycanthropy) มนุษย์หมาป่า
Dance in vampire bund, Japanses anime
😈 มนุษย์หมาป่า หรือภาษาอังกฤษคือ Werewolf (Wer + wolf ซึ่ง Wer คือคำอังกฤษโบราณ แปลว่า มนุษย์ ส่วน Wolf แปลว่า หมาป่า บางครั้งจึงเรียกว่า Man - wolf ในตำนานนานกรีกก็ปรากฏอมนุษย์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Lycanthrope ไลแคนโทรป หรือ Lycanthropos ไลแคนโทรโปส (โดยคำว่า Lykos +Anthropos, Lykos แปลว่า หมาป่า และ Anthropos แปลว่า คน)
😈 ไลแคนโทรโปส เป็นมนุษย์พวกหนึ่งที่สามารถแปลงเป็นสัตว์ต่าง ๆ ได้ไม่ใช้เฉพาะมหาป่าเท่านั้น นวนิยายบางเรื่องก็แยกพวก ไลแคนโทรโปร หรือไลเคน ออกให้แตกต่างจากมนุษย์หมาป่า แวร์วู๊ด (Werewolf) และให้เป็นศัตรูกันล่ากันเอง แต่ที่แน่ชัดไลแคนโทรโปส Lycanthropos หรือ ไลแคน Lycan เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าที่เก่าแก่ มีประวัติมาในตำนานกรีกโบราณ
😈 โดย มนุษย์หมาป่าตนแรกของกรีกโบราณคือ ไลคาออน (Lycaon) บุตรชายของ เปลัสคูส Pelasgus และนาง เมลิเบีย Meliboea ผู้เป็นกษัตริย์แห่งอาร์คาเดีย (Arcadia ชื่อเรือเรื่องผีชีวะ)ได้พยายามจะพิสูจน์ความไม่ศักดิ์สิทธิของเทพเจซีอุส Zeus โดยการทำสิ่งที่ไม่มีใครทำได้ โดยการฆ่าบุตรของตนเอง ไนคริมุส (Nycrimus) แล้วนำเนื้อจากศพลูกชายตนไปทำอาหารถวายเทพซีอุส ทำให้เทพซีอุสโกรธจึงสาป ไลคาออน และลูก ๆ ของเขาที่เหลือให้กลายเป็นหมาป่าหิวโหย แล้วจึงชุบชีวิตให้ไนคริมุส (Nycrimus)
Merman มนุษย์เงือก
neptune the merman king in one piece , Japanese anime gif
😈 ก่อนเป็นนิทานนางเงือกช่วยชีวิตคน เป็นนิทานปลาโลมาช่วยชีวิตคนมาก่อน (little mermaid) เพราะนิทานโบราณนางเงือกเป็นแม่มดทะเลมีแต่ฆ่าคน แม้เหล่านางไซเรนบางพวกจะคล้ายนางเงือกแต่ก็ร้องเพลงเพื่อล่อให้เรือชนหินโสโครกจนแตก ไม่ได้ช่วยชีวิตคนเหมือนปลาโลมา หรือเงือกน้อยในนิทานยุคหลัง ว่าไปแล้วก็สงสัยว่าอนุภาคที่นางเงือกในยุคหลังก็มาจากนิทานปลาโลมาช่วยชีวิตคนมาแต่ครั้งสมัยโบราณ แต่ปลาโลมาเป็นกิ๊กกับคนไม่ได้ สมัยหลังจึงเปลี่ยนเป็นนางเงือกแทนจะได้มีเรื่องโรแมนติก sexy เล่าต่อ ๆ กันไปได้ .......อย่างไรก็ดีตำนานปลาโลมาช่วยชีวิตคนเป็นเรื่องที่น่าจะจริงและเคยเกิดขึ้นจริงในโลกของความเป็นจริง ส่วนนางเงือกช่วยคนเป็นเรื่องของโลกฝันไปกับจินตนาการ
😈 นิทาน Arion and Dolphin ดูได้จากลิงก์ด้านล่าง https://vimeo.com/186181541?ref=fb-share&1
Ogre มนุษย์/ยักษ์กินคน
😈 ยักษ์หรือมนุษย์กินคน อาจจะเกี่ยวกับอารยธรรมโบราณที่มีการจับคนมาบูชายัญพระเจ้า นาน ๆ ไปก็คิดว่าตนคือพระเจ้า หรือสมมุติว่าตนคือพระเจ้าจึงจับเชลยศึกมากินเพื่อข่มขวัญเผ่าที่เป็นศัตรู หรือความเชื่อเรื่องการแสวงหาความอมตะ หรือพลังที่ได้จากการกินเลือดเนื้อมนุษย์ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกยักษ์มารจะทำกัน ซึ่งประเพณีการกินคนก็มีอย่างในเผ่านาคาแลนด์ของอินเดีย เผ่าอเมซอนบางเผ่า และในชวามลายู การถลกหนังหัวเชลยของอินเดียแดง หรือการบูชายัญและกินศพมนุษย์ของลัทธิศักติบางลิทธิในอินเดีย การบูชายัญมนุษย์ของชาวแอสแทกซ์โบราณเป็นต้น ซึ่งเรื่องของยักษ์กินคนเมืองยักษ์ก็มีเรื่องของนางพันธุรัตแม่พระสังข์ นางยักษ์สนธมารในเรื่องนางสิบสอง ก็เป็นยักษ์กินคนอยู่กันในบ้านในเมือง
Troll มนุษย์/ยักษ์ถ้ำ
Troll in berserk season 2 , Japanese anime
😈 โทรล คืออมนุษย์หรือยักษ์ในถ้ำปรากฏในตำนานฝรั่งมากมาย เช่นเรื่องลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ ซึ่งโทรลมักได้ชื่อในเรื่องของความโง่ไม่ฉลาด อาจจะเป็นพวกลิงไม่มีหาง หรือญาติของพวกมนุษย์โบราณที่ศูนย์พันธุ์ไปนานแล้ว โดยโทรลก็เหมือนยักษ์ที่อยู่ถ้ำ หรือนางผีเสื้อสมุทรในวรรรคดีไทย ที่ได้อิทธิพลจากนางอัศวะมุขีในวรรณคดีบาลีและสันสกฤต ซึ่งคำว่าอัศวมุขีเป็นชื่อทั้งเทพ ฤาษี และนางยักษ์ในนิทานต่าง ๆ คือ
๑.จากนางอัศวมุกขียักษี ซึ่งเป็นนางยักษิณีหน้าม้าซึ่งปรากฏอยู่ในวรรณะกรรมพุทธศาสนา
ในพระไตรปิฏกคือ “อัศวมุกขีชาดก” ซึ่งเล่าว่า อดีตชาตินางเป็นมเหสีของกษัตริย์พาราณสีได้พูดปดกับกษัตริย์ เมื่อถูกคาดคั้นเอาความจริงจึงได้สาบานว่าหากตนพูดปด ขอให้ตายไปเกิดเป็นนางยักษ์หน้าม้า ซึ่งด้วยผลกรรมนี้เมื่อได้ตายไปจึงไปเกิดเป็นนางยักษ์หน้าม้า อาศัยอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งในป่าหิมพานต์วันหนึ่งไปจับพราหมณ์คนหนึ่งมาจะกิน เกิดเปลี่ยนใจเก็บไว้เป็นสามีและอยู่ด้วยกันจนมีลูกด้วยกันคนหนึ่งซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์มาจุติ ทุกๆวันก่อนออกไปหาอาหารนางจะนำหินก้อนใหญ่มาปิดปากถ้ำเพื่อขังลูกกับสามีของนางไม่ให้หนีไปไหน แต่เมื่อลูกของนางโตเป็นหนุ่มแล้วมีพลังมากจึงผลักหินหนีออกไปกับพ่อของตน เมื่อนางกลับมาไม่เจอก็ตามไป ลูกของนางกับสามีของนางหนีขึ้นไปบนเขาแห่งหนึ่ง และลูกของนางก็ตั้งความสัตย์ขออำนาจเทวดาเป็นที่พึงทำให้นางไม่สามารถตามขึ้นไปบนเขาได้ จึงได้ร้องไห้จนอกแตกตายอยู่ที่ตีนเขาแล้วลูกของนางกับสามีก็กับเข้าไปใช้ชีวิตในเมือง สุดท้ายลูกของนางซึ่งก็คือพระโพธิสัตว์ก็ได้เป็นกษัตริย์พาราณสี ดูแล้วเรื่องจะคล้ายผสมกันระหว่างเรื่อง พระอภัยมณี กับ สังข์ทองแต่เรื่องอัศวมุขีชาดกมีมาก่อน
๒. เรื่องทำนองเดียวกัน นางรากษสีหน้าม้า ในตำนานเกี่ยวกับ พระสขันธกุมาร
ได้กล่าวว่า นางฟ้าตนหนึ่งทำผิดจึงถูกสาปให้เป็นเกิดเป็นนางรากษสหน้าม้านางมีความศรัทธาต่อเจ้าแม่กาลีมาก จึงจับพวกพราหมณ์ที่ทำการบูชาต่อพระศิวะด้วยวิธีการที่ผิดทำเนียมต่างๆทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ มาขังไว้ในถ้ำของนางเมื่อใดได้คบพันคนจะฆ่าพร้อมกันทั้งหมดเพื่อบูชาเจ้าแม่กาลี วันหนึ่งนางไปจับเอาพราหมณ์คนสุดท้ายมาซึ่งพราหมณ์คนนี้ได้สวดของความช่วยเหลือต่อพระสกันธกุมารในขณะที่นางรากษัสหน้าม้าไปอาบน้ำก่อนกับมาทำพิธี พระสกันธกุมารก็เลยพุ่งหอกทำลายหินปิดปากถ้ำและปล่อยคนทั้งหมดออกไปเมื่อนางกับมาเห็นพอดีก็ตกใจ และในขณะเดียวกันพระสกันธกุมารก็พุ่งหอกลงปักหัวใจของนาง ก่อนตายนางได้สวดเรียกพระสกันธกุมารวิญญาก็คงจะได้ไปสวรรค์ตามแบบนิยายแขก เรื่องนี้ดูเค้าแล้วจะไกลไปกว่านิทานพื้นบ้านไทยจะคล้ายก็มีเค้าเรื่องนางยักษ์ผีเสื้อในอภัยมณีเท่านั้น
๓. แม่ซื้อ ประจำวันต่างๆ มีแม่ซื้อในวันจันทร์ที่มี หน้าเป็นม้าด้วย
เชื่อว่าแม่ซื้อที่มีหน้าเป็นสัตว์ประจำวันนั้นก็คือสัตว์ประจำวันที่เป็นพาหนะของเทพนพเคราะห์ต่าง ๆ นั้นเองแต่ถ้ามองกลับกันแล้วในอินเดียเทพเจ้านพเคราะห์นั้นไม่ได้มีการขี่สัตว์ดังกล่าวเช่นเดียวกับความคิดของเรา เช่น พระอาทิตย์ของเขาทรงม้า เหมือนพระจันทร์และ พระเสาร์ขี่อีกา เป็นต้น จึงอาจเป็นไปได้ว่าแม่ซื้อประจำเป็นนี้เองที่เป็นที่มาของสัตว์ที่เป็นพาหนะประจำวันของเทพต่าง ๆ และก็ต่อมาก็กลายเป็นว่าพระนพเคราะห์ต่างได้มีกำลังมาจากการนำสัตว์ต่างๆเหล่านั้นมาบดและชุบขึ้นเป็นเทพซึ่งกำลังของฮินดู ก็คือศักติที่เป็น ชายาของเทพ ก็ถูกเปรียบว่าเป็นกำลังของเทพองค์นั้นๆเช่นกันดังนั้นแม่ซื้อประจำวันต่าง ๆ นั้น อาจจะเทียบได้กับนางโยคินี
Elf ภูตป่า
Sword art Japanese anime
😈 ภูตป่าถ้าเทียบกับไทยก็น่าจะเป็นชาวลับแล ซึ่งตำนานว่าชาวลับแลคือนครที่สาบสูญหรือนครลี้ลับในป่าที่มีการนับถือพุทธศาสนา ใจบุญ มีทรัพย์สมบัติมาก และมีแต่สาวงาม อาจจะเหมือนเมืองแม่ม่ายอย่างนิทานจีนเรื่องไซอิ๋ว (ซีโหยวจี) หรืออาจจะเป็นเมืองผีอย่างนิทานญี่ปุ่น ซึ่งเมืองลับแลปรากฏในนิทานไทยโบราณ และวรรณกรรมปัจจุบันอย่างนวนิยายเรื่อง ภูตลำน้ำโขง เป็นต้น นอกจากนี้ภูตป่าในความหมายไทยอาจจะเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิตามต้นไม้อย่าง พระไทรในเรื่องพระอนิรุทธ์ พระโพธิ์ในสมุทรโฆษ ผีนางตะเคียน นางตานี หรืออมนุษย์ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ในป่าหิมพานต์ประเภทต่าง ๆ แล้วแต่การตีความกันไปว่า ภูตไพรคืออะไร เพราะความหมายของคำว่าภูตมีทั้งแบบแคบ และแบบกว้างเช่นกัน
Goblin คณะเทพ
Goblin slayer, Japanese Anime
😈 ก็อบลิน ของฝรั่งคืออมุษย์ร่างแคระ ซึ่งมีเล่ห์เหลี่ยม และความโลภในทรัพย์สมบัติโดยเฉพาะอัญมณีและทองคำมากกว่าอมุษย์แคระชนิดอื่น ๆ ในนิยายร่วมสมัยบางก็ว่าเป็นมิตรหรือศัตรูกับพวกแอลฟ์ (เช่นเรื่องลอร์ดออฟเดอะริงส์) โดยมีหลายตำนานสับสนระหว่างพวกก็อบลินกับอมุษย์ร่างแคะอื่น ๆ เช่นบางว่าก็อบลินจะซ่อนทองไว้ที่ปลายของสายรุ้ง (บางตำนานว่าเป็นพวกเลปริคอน) บางก็ว่ามีคนป่าเคยถูกพวกก็อบลินแกล้งสาปให้หลับไปจนแก่ และก็อบลินบางตนก็ชอบลักพาเด็ก ๆ หรือเอาทารกของตนมาเปลี่ยนกับลูกของมนุษย ์ปัจจุบันเลยว่ากอบลินเหมือนอินคิวบัสบุตรปีศาจของนางพญามารลิลิธที่ชอบมาลักหลับกับสาวชาวมนุษย์ไปเลยก็มี นอกจากนี้ผู้รับใช้แดรกคูลาก็เป็นพวกกอบลินพวกหนึ่ง ซึ่งก็อบลินของฝรั่งมักถูกเปรียบกับอสูรแคระคือพวกคณะเทพซึ่งเป็นสาวกของพระศิวะ ซึ่งตำนานว่าพวกคณะเทพนี้เดิมคือพราหมณ์ที่เป็นญาติกับเทพโคนนทิ เมื่อเทพนนทิบำเพ็ญตนจนได้เป็นผู้รับใช้พระศิวะแล้วพวกญาติ ๆ ก็ตามมาเป็นพวกคณะด้วย ทำให้พญาโคนนทิเทพบุตรเป็นหัวหน้าของเหล่าคณะผู้รับใช้พระศิวะ แต่ต่อมาเมื่อกำเนิดพระคเณศ พระศิวะก็ประทานคณะเทพทั้งหมดให้พระคเณศ ทำให้คเณศเป็นหัวหน้าของคณะเหนือกว่าพญาโคนนทิเทพบุตรอีกต่อหนึ่ง
👿 เล็ปพระคอน leprechaun (female: leprechauness) เป็นอมนุษย์ประเภทแฟรี่พวกหนึ่งที่มีเวทมนต์ แต่มีหน้าตาคล้ายพวกก็อบลินและคนแคะ หน้าตาเหมือนก็อบลิน นิสัยเจ้าเล่ห์เหมือนพวกคนแคะ มักชอบทองและซ่อนหม้อทองไว้ที่ปลายของสายรุ้ง (คติชนไอร์แลนด์ว่าสายรุ้งเกิดจากประกายของหม้อทองเล็ปพระคอน) และมักชอบให้พรที่จะเกิดผลร้ายตามมาภายหลังเพื่อแกล้งคน
👿เทียบตำนานอินเดียในบาดาลโลกชั้นที่ 2 ที่ชื่อ วิตล (वितल) ห่างจากแดนอตล (อะ-ตะ-ละ) บาดาลโลกชั้นที่ 1 ไป 1 หมื่นโยชน์ เป็นที่สถิตของศิวะอวตาร หระ ภวนะ (हर भवन หะ-ระ ภะ-วัน) กับชายา ภวานี (भवानी) ผู้มีเหล่าเทพคณะในฐานะของก็อบลินอสูรร่างแคะดูแลสายแร่ทองคำใต้โลกที่มีที่มาจากแม่น้ำหาฏกี हाटकी ที่ถูกไฟใต้โลกถูกพัดด้วยลมเมื่อไฟสัมผัสกับน้ำในแม่น้ำนี้ก็ทำให้เกิดทองคำที่เรียกว่า หาฎกะ हाटक
👿ดั้งนั้นเล็ปพระคอนก็น่าจะคล้ายกับภูติที่เป็นบริวารของพระศิวะอวตารปาง "หระ ภวนะ" เทพที่อยู่ในบาดาลโลกที่คอยรับใช้และเฝ้าสายแร่ทองคำของพระองค์
หมายเหตุ การลักเด็กไปแล้วเอาลูกปีศาจมาเปลี่ยนเรียกว่า changeling เป็นพฤติกรรมร่วมกันของพวกอมุษย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ภูตป่าแฟรี่ Fairy ,ฟิกซี่ Pixie, คนแคระ Dwarf, กอบลิน Goblin และมารร้าย Devil เป็นต้น
Jinni (Jinny) ภูตตะเกียง
Zagan demon as Jinny in Magi Japanese anime
😈 เชื่อกันว่าคำว่าจินนี มาจากคำว่า ญิน ในภาษาอาหรับแปลว่า ผี ผีร้าย วิญญาณ ซึ่งการที่จินนีอยู่ในตะเกียง หรือแหวนวิเศษ และออกมารับใช้เจ้านายผู้ถือครองนั้นไม่ต่างจากปีศาจทั้งหลายหรือซาตานของกษัตริย์โซโลมอน หรือพระเจ้าสุลัยมานในภาษาอาหรับ ซึ่งมีแหวนวิเศษใช้ควบคุมเรียกใช้ปีศาจต่าง ๆ ให้ทำตามความปรารถนาในตำนาน ดั้งนั้นจินนีจึงเทียบได้กับโหงพราย หรือกุมารทองของไทย ส่วนตะเกียงก็ไม่ต่างไปจากหม้อแม่นาคมากนัก โดยในปัจจุบันจินนีก็มีในภาพยนตร์เรื่องอาละดิน และปีศาจของโซโลมอนก็มีในเรื่องเดอะนัน หรือคอนเจอริ่ง เป็นต้น
Wizard พ่อมด
Wizard in Magi Japanese anime
😈 พ่อมดของฝรั่งคือผู้วิเศษมีเวทมนต์เพราะเป็นลูกปีศาจ ส่วนไทยผู้วิเศษคือคนดีมีวิชาซึ่งเป็นศิษย์ของฤาษี หรือพระฤาษีทั้งหลาย ส่วนลูกของปีศาจก็เป็นอสูรร้าย ลูกของเทวดาก็เป็นผู้มีบุญหรือวีรบุรุษในตำนานไปเลยออกแนวความเชื่อของเทวนิยายกรีกมากกว่าความเชื่อเรื่องพ่อมดในยุคกลางอย่างพ่อมดเมอร์ลิน Merlin ที่ว่าเป็นลูกชายของ อินคิวบัสบุตรปีศาจของนางพญามารลิลิธที่ชอบทำให้หญิงท้องไม่มีพ่อ เป็นคู่กับซักคิวบัสบุตรีของนางพญามารลิลิธที่ชอบขโมยพลังของมนุษย์เพศชายมาตั้งท้องให้กำเนิดปีศาจ ซึ่งชื่อว่า ทั้งอินคิวบัส incubus ซักคิวบัส succubus และแม่มด witch ที่เป็นลูกของอินคิวบัส หรือแม่มดที่ได้พลังเวทมนต์จากการทำสัญญากับซาตานเป็นสาเหตุของการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
😈😈😈😈😈😈
😈 การแบ่งเพศหญิง F ชาย M ของปีศาจสะท้อนสถานภาพทางสังคมของมนุษย์ และการแย้งชิงพื้นที่ทางอำนาจในทางสังคมระหว่างบิดาธิปไตย (สังคมที่บุรุษเป็นใหญ่) และมาตาธิปไตย (สังคมที่สตรีเป็นใหญ่)
Male
Demi gods (French) Hemi gods (Greek) Semi gods (Latin) เทพชั้นรอง (ผู้เป็นอมนุษย์ หรือมนุษย์ครึ่งเทพ) Demon ปีศาจ Vamprie รากษส Devil พญามาร Giant ยักษ์ Ghost ผี / วิญญาณ Enchanter พ่อหมอ Centaur กิมปุรุษ Satyr คนธรรพ์ Dwarf คนแคระ Ogre มนุษย์/ยักษ์กินคน Troll มนุษย์/ยักษ์ถ้ำ Elf ภูตป่า Goblin คณะเทพ Jinni (Jinny) ภูตตะเกียง Wizard พ่อมด Werewolf (Lycanthropy) มนุษย์หมาป่า Merman มนุษย์เงือก
Female
Demi goddess Hemi goddesss Semi goddess เทวีชั้นรอง Demoness ปีศาจี Vampress รากษสี Deviless นางมาร Giantess ยักษิณี Ghostess นางผี/แม่ย่า Enchantress แม่หมอ Centauress / Centaurides กิมปุรุษี Satyress คนฺธรฺวี Dwarfess คนแคระผู้หญิง Ogress ยักษิณีกินคน Trolless ยักษิณีถ้ำ Elfen นางภูตป่า /ภูตินี / ภูตนี Gobliness /leprechauness คณะเทพสตรี / คณะเทพชายา Jinniya นางภูตตะเกียง Witch แม่มด Werewoman (she werewolf) นางมนุษย์หมาป่า Mermaid นางเงือก
Hotel transylvania 1, USA comic 2012
Hotel Transylvania 2, USA comic 2015
😈 หากจะมีคำถามว่า "พระเจ้าสร้างมนุษย์ หรือมนุษย์สร้างพระเจ้ากันแน่ ?" เรื่องราวของปีศาจ เทพชั้นรอง และเทพที่ถูกคริสตศาสนา หรือลัทธิความเชื่อต่าง ๆ เปลี่ยนให้เป็นปีศาจก็มีรูปแบบเดียวกันและสามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผล และปรากฏการณ์ทางสังคม